วันพฤหัสบดีที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2553

เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 11



Queen Seon Deok ( 善德女王/ 선덕여왕)
เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 11
Cr. : Dailynews Online


คิมยูซินเป็นห่วงต๊อกมานจึงย้อนกลับไปยังที่เกิดเหตุอีกครั้ง ทำให้เกือบถูกทหารแพ่กเจ ฆ่าตาย ดีที่ต๊อกมานมาช่วยได้ทัน แต่นางก็หมดสติไป ด้านโกโตและจุปังก็สามารถหนีออกมาได้ แต่ระหว่างทางจุปังเกิดพลัดตกเขา โกโตก็พลาดลงมาด้วย ทำให้เขาทั้งสองได้เจอกับ แทพุง กุกซอน และคนอื่น ๆ

ฮาจองและกองทัพเดินทางกลับมาเมืองหลวงอย่างปลอดภัย พร้อมทูลให้แผ่กจองทราบว่าตอนนี้เราได้เมืองซกฮัมกลับมาแล้ว เป็นเพราะทหารแพ่กเจถูกฝ่ายเราหลอกไปหลอกมา จนหัวหมุน ทำอะไรไม่ถูก

“แสดงว่าการวางแผนของท่านซอวอนเหนือชั้นมากนะเพคะ” มีซิล กล่าว

“หึ....”

“แล้วท่านคิมซอยอนเป็นไงบ้าง” ชอนม ยอง ถาม

“ไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ ป่านนี้ คงยังอยู่ สนามรบก็เป็นได้”

“ยังไม่คิดส่งทหารไปช่วยพวกเขาอีกหรือ”

“ตอนนี้ยังไม่เหมาะจะส่งกองหนุนไปช่วยพ่ะย่ะค่ะ”

“ถูกแล้วพ่ะย่ะค่ะ เพราะไม่เพียงต้องปกป้องเมืองซกฮัมไว้อย่างแข็งขัน แม้แต่ทหารแพ่กเจก็ยังไม่ได้ถอนกำลังออกหมด ทำให้ฝ่ายเราไม่อาจนิ่งนอนใจได้มากพ่ะย่ะค่ะ” เซจอง กล่าว

“แต่เพื่อให้คิมซอยอนถอนทัพ ได้ให้ทหารคนหนึ่งไปส่งข่าวแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“ทหารคนหนึ่งหรือ”

“จากเมืองซกฮัมถึงอามักซอน มีแต่ทหารแพ่กเจเฝ้าอยู่ แค่ทหารคนเดียวจะไปได้หรือพ่ะย่ะค่ะ”

“อ้อ....มิน่าถึงให้เขาไป ทรงวางพระทัยเถอะพ่ะย่ะค่ะ เพราะคนที่ไปส่งข่าวก็คือท่าน ยูซิน ลูกชายคิมซอยอน....เพราะเกี่ยวถึงชีวิตของพ่อเขา ยังไงก็ต้องไปให้ถึงพ่ะย่ะค่ะ มิน่าล่ะ หึ ๆ ๆ”

“ฝ่าบาท ถ้าไม่ส่งทหารไปช่วยอีก เกิด โชคร้าย คำสั่งไปไม่ถึงกองทัพที่อยู่นั่น ทหารของท่านคิมซอยอนก็จะตายหมดนะเพคะ....ต่อให้ท่านยูซินไปเอง ใครจะรับรองได้ว่าเขาจะฝ่าด่านทหารแพ่กเจไปถึงที่หมายได้เพคะ....ถึงเวลาต้องส่งกองหนุนไปแล้ว อย่าทรงลังเลอีกเลย” ชอนมยอง กล่าว

“บอกว่าไม่ต้องส่งก็คือไม่ต้องส่ง”

“ฝ่าบาท ถ้าเรายกทัพไปถึงดินแดนของแพ่กเจอีก ก็หมายความว่าจะเปิดศึกต่อไป”

“ถูกแล้วเพคะ ไหน ๆ เราก็ยึดเมืองคืน ขับไล่ทหารแพ่กเจไปได้แล้ว ก็ควรให้สงครามยุติโดยเร็วโดยถือเอาประโยชน์ของบ้านเมืองเรามาก่อน” มีซิล กล่าว



คิมยูซินเห็นว่าทางเดียวที่จะทำให้รอดได้ ก็คือการหนีอย่างเงียบ ๆ โดยต้องหลอกทหารแพ่กเจให้ไปที่อื่นก่อน สรุปคือ จะมีกลุ่มหนึ่งที่ต้องกลายเป็นเหยื่อล่อ หรือก็คือผู้เสียสละ ไอชองจึงเสนอให้หน่วยบีชอนของข้า และหน่วยยองวารับผิดชอบ

ไอชองฆ่าทหารที่บาดเจ็บสองคนทิ้ง ต๊อกมานไม่เข้าใจว่าการเป็นทหารเหยื่อล่อ ทำไม ต้องฆ่ากันเองด้วย

“การเป็นเหยื่อล่อ สิ่งสำคัญคือความเคลื่อนไหว ถ้าใครบาดเจ็บ จะเป็นตัวถ่วงไปถึงทัพใหญ่ด้วย”

“ถ้าอย่างงั้น ก็ทิ้งพวกเขาไว้นี่ก็ได้”

“ถ้าปล่อยไว้ พวกเขาจะถูกทหารแพ่กเจ จับไปทรมาน และสุดท้ายก็จะเผยความลับของพวกเราออกมา”

“ต่อให้เป็นอย่างงั้นก็เถอะ ท่านก็ไม่มีสิทธิ....ชี้ชะตาชีวิตคนอื่นตามใจชอบ ทั้งที่ไม่มีความผิด”

“มันไม่ใช่สิทธิของข้าหรอก แต่เป็นหลักการและข้อตกลงที่เรายึดถือกันมา....โดยเฉพาะพวกเจ้าก็เหมือนกัน เมื่อมาขึ้นอยู่กับข้าก็ไม่มีการยกเว้น นับแต่นี้ถ้าใครบาดเจ็บ.... มันจะต้องตาย....นี่คือคำสั่ง” ไอชองกล่าว แล้วทหารเหยื่อล่อทั้งหมด ก็ต่อสู้กับทหารแพ่กเจ

คิมยูซินและไอชองนำกำลังไปเป็นเหยื่อล่อ ระหว่างที่ต่อสู้กับทหารแพ่กเจอยู่นั้น ซียอ ถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ต๊อกมานเห็นเข้าจึงรีบเข้าไปช่วยเหลือ เพราะกลัวว่าไอชองจะไม่เอาเขาไว้ ส่วนชอนมยองไปหามีซิล เพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับหลักปกครอง โดยเฉพาะเกี่ยว กับการทหาร จากนั้นก็มาหาอึยเจ เพื่อขอดูข้อมูลเกี่ยวกับการทหาร

มายาและองค์หญิง “มาน-มยอง” เสด็จมาพบพระพันปีมานโฮ ที่วัด “กวานโซ” ที่พระพันปีประทับอยู่ พร้อมกับพาเมียคิมมาพบด้วย

“ไหน ๆ ก็ไม่ได้พบองค์หญิงถึง 20 ปี ทรงอภัยให้นางได้ไหมเพคะ” มายา กล่าว

“พอข้าบอกว่าไม่ต้องมา นางก็ไม่เคยมาเหลียวแลข้าจริง ๆ จะให้อภัยหรือไม่คงไม่มีความหมายอีก”

“เสด็จแม่ ๆ ฮือ ๆ ๆ ฮือ ๆ”

ยองชุนรายงานให้ชอนมยองรู้ว่า หากไปแคว้นแพ่กเจตอนนี้คงลำบาก ต่อให้ใช้วิธีปลอมตัว

“เรื่องนี้ข้าเข้าใจ ท่านไปพักเถอะ” ชอนม ยอง กล่าว

“หึ....องค์หญิงทรงทำอะไรกันแน่ จะยอมเสียสละท่านซอยอนกับท่านยูซินจริงหรือพ่ะย่ะค่ะ”



“ไม่งั้นจะให้ทำไงล่ะ ส่งทหารไปช่วยก็หาว่าจะเปิดศึกอีกครั้ง ปลอมตัวก็ว่าเข้าไม่ได้ แล้วข้าจะมีปัญญาทำอะไรได้อีก ช่วยบอกหน่อยซิ หลังจากท่านยองซูเสียไป ข้าไม่เคยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันซักอย่าง ท่านรู้มั้ยว่าข้าตำหนิตัวเองแค่ไหน....ทำได้เพียงอย่างเดียว คือยอมรับการตายของเขาอย่างเงียบ ๆ นั่นยิ่งให้ข้าเกลียดตัวเองมากขึ้น แต่ต่อไปข้าจะไม่ยอมทนอีก ไม่มีวัน” ชอนมยอง กล่าว

คิมยูซินและไอชองพาทหารออกลาดตระเวนอีกครั้ง ระหว่างทางเจอทหารคนหนึ่งกำลังจะตาย ได้มอบหนังสือที่แม่ทัพคิมส่งมาให้นำไปมอบให้ไอชองให้เร็วที่สุด

“รีบหนีเร็วเข้า หนีไปเร็ว” ต๊อกมาน กล่าว

“เจ้าพูดอะไร ทำไมต้องหนี”

“หึ....ที่นี่อันตราย หึ....เส้นทางที่เราจะไปมีทหารแพ่กเจดักซุ่มอยู่ ขืนเป็นแบบนี้ เรา ยังไม่ทันไปไหนก็ถูกสังหารทั้งหน่วยแล้ว”

“อะไรนะ”

“แม่ทัพคิมซอยอนให้คนส่งจดหมายมาบอกให้เราเปลี่ยนเส้นทาง”

“โอ๊ะ....”

“ศัตรูมาแล้ว....หนีเร็ว....อันตราย....”

คิมยูซินและไอชองยังไม่ทันได้หนี ทหารแพ่กเจก็นำกำลังบุกยิงธนูเข้ามา ทำให้มีทหารล้มตายเป็นจำนวนมาก สุดท้ายเหลือเพียง 35 คนเท่านั้น ที่พอมีแรงจะสู้ต่อไปได้ ไอชองที่ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ ก็ขอให้ลูกน้องทั้งหมดฆ่าเขาทิ้งเสีย เพราะถือว่าเป็นคนที่ไร้ความหมาย อีกทั้งยังเป็นกฎที่เข้าตั้งขึ้น แต่ต๊อกมานไม่เห็นด้วย ทั้งยังขู่ว่า หากจากนี้มีการฆ่าทหารที่บาดเจ็บ นางจะไม่มอบจดหมายที่มีอยู่ในมือให้ พร้อมกับกลืนจดหมายฉบับนั้นลงคอ

“เจ้าคนอวดดี”

“นับแต่นี้ คนที่รู้เส้นทางหลบหนีมีแต่ข้าคนเดียว ท่านจะฆ่าข้ารวมถึงคนที่บาดเจ็บ แล้วให้คนที่เหลือหนีไปอย่างสะเปะสะปะสุดท้ายก็กอดคอตายพร้อมกัน หรือให้ทุกคนพยายามเอาตัวรอด แล้วพาคนที่บาดเจ็บค่อย ๆ หนีไปด้วยกัน สองอย่างนี้ ท่านก็เลือกเองละกัน”

“หุบปาก....” ยูซิน ตวาด

“วันก่อนท่านยูซินเพื่อจะดูว่าเราตายจริงหรือเปล่า ถึงขนาดไปที่ที่เราปะทะกับศัตรู จากนั้น ก็พบทหารที่บาดเจ็บอีกหลายคน และช่วยข้าออกจากที่ตรงนั้นมา ฮือ....ที่สำคัญ ท่านเคยบอกว่าที่เราฝึกหนักก็เพื่อหวังอยู่รอด ฮือ....เห็นพี่น้องคนไหนบาดเจ็บก็ต้องช่วยเต็มกำลัง เราเลยต้องพยายามแบกกระสอบข้าว ขึ้นเขาลงห้วยจนเหนื่อยสายตัวแทบขาด และข้า มักถูกมองว่าไม่มีแรงแบกกระสอบถึงได้ล้าหลังคนอื่น จนโดนผูกถุงทรายครั้งแล้วครั้งเล่า ทำแบบนี้ ถึงสมกับที่อยู่หน่วยยองวา ฮือ....ฮือ....”

“นี่เป็นยามสงคราม เจ้าคิดว่าความใจอ่อนจะช่วยทุกคนได้หรือ”

“แล้วถ้า....สิ่งที่เราฝึกมาคือการโกหกล่ะ คนเรา....จะไม่มีวันยอมมอบกายถวายชีวิตให้คนที่เคยหลอกตัวเองหรอกนะ”

“แต่เจ้าดูให้ดีก่อน เราเป็นแค่เหยื่อล่อ ถ้ามีคนเจ็บไปด้วย เดินทางแค่ 10 ลี้ยังลำบากเลย”

“ท่านต่างหากต้องดูให้ชัด ถ้าไปกับคนที่ไม่มีใจให้เรา เดินทางแค่ลี้เดียวยังมีปัญหาด้วยซ้ำ หึ....ฮือ....ข้าแค่ขอร้องว่าอย่าทิ้งพวกเราง่าย ๆ โปรดให้เราอยู่อย่างมีความหวังต่อไป ฮือ....ท่านไม่รู้หรือว่าการทำแบบนี้ทำให้ทุกคนเสียขวัญแค่ไหน ฮือ....ทำไมต้องทำให้เรากลัว ทำให้เราไม่กล้าสู้อีก ฮือ....เพราะอะไร ทำไมเราต้องฆ่าพวกเดียวกันถึงจะอยู่รอดได้ ฮือ.... ใคร ๆ ก็อยากอยู่ต่อทั้งนั้น ทุกคนจะยอมสู้เพื่อความอยู่รอด ฮือ....”




“ข้าเชื่อว่าไม่มีทางรอดหมด ไม่มีทาง ยังไงก็ไม่มีทางรอดแน่” ไอชอง กล่าว

“ไม่มีทางก็หาทางซะสิ มันเป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชา และนี่คือ....เหตุผลสำคัญที่เรายอมติดตามพวกท่าน ด้วยความจงรักภักดี”

“เรายอมตายในสนามรบ”

“ใช่ เราก็ขอตายพร้อมศัตรูเหมือนกัน”

“โปรดอย่าทิ้งพวกเรา ให้เราได้อยู่ต่อเถอะครับ”

“พวกเจ้าไม่ต้องพูดมากแล้ว ยืนเฉยทำไม สังหารพวกเขาเดี๋ยวนี้”

“ครับ”

“ท่านยูซินไม่ได้ยินหรือ สั่งเร็วเข้า”

“ท่านมอบอำนาจสั่งการให้ข้าแล้ว เพราะฉะนั้น ทุกคนในที่นี้ ใครก็ห้ามตาย” ยูซิน กล่าว

คำสั่งของยูซินทำให้ทหารที่ได้รับบาดเจ็บไม่มีใครต้องถูกฆ่าตาย และทุกคนยังได้รับการรักษาที่ดี ระหว่างนั้นยูซินได้ยินจุปังและโกโต เล่าถึงพิษของต้น “หับจุ๊ก” ที่เป็นยาพิษ สามารถทำให้คนตายได้ ยูซินจึงคิดที่จะใช้ต้นหับจุ๊กเล่นงานทหารแพ่กเจ เพื่อฝ่าวงล้อมออกไปให้ได้ และในที่สุดพวกเขาก็ทำสำเร็จ สามารถฝ่าวงล้อมของทหารแพ่กเจออกไปได้ แต่น่าเสียดายที่ซียอถูกทหารทำร้าย ทนพิษบาดแผลไม่ไหว สิ้นใจในที่สุด ต๊อกมานเสียใจมาก ที่ช่วยเพื่อนไว้ไม่ได้

“ไม่ต้องโทษตัวเองหรอก”

“โทษตัวเองอะไร ที่ซียอตาย เป็นเพราะข้าหรือไง” ต๊อกมาน กล่าว

“ข้าไม่ได้ว่าอย่างงั้น เพียงแต่เห็นเจ้าทำหน้าเครียด”

“ข้ามีเรื่องจะพูดกับเขาอีก แต่พูดไม่ทัน....จะบอกว่าเขาเก่งมาก ปกติเคยเป็นคนขี้ขลาด แต่กลับฆ่าแม่ทัพแพ่กเจได้ ซียอเป็นคนกล้า เป็นวีรบุรุษของเรา ข้าอยากบอกเขาแบบนี้”

“ใช่ เขาได้พลีชีพอย่างกล้าหาญจริง ๆ”

“ต่อไปเมื่อไม่มีเขาแล้ว ข้าจะไม่หลั่งน้ำตาให้ใครอีก ต่อให้ฆ่าคนเป็นร้อยก็เท่านั้น จะไม่มีความรู้สึกใด ๆ นับแต่นี้ ข้าจะไม่รับรู้อะไรอีก”

“ทุกคนก็คิดแบบนี้ ข้าก็เหมือนกัน รู้อย่างเดียวก็คือ ความจริงที่ว่าเรายังมีชีวิตอยู่” ยูซิน กล่าว

“ใช่ ข้าจะอยู่ต่อไปให้ดี อยู่เพื่อเห็น แก่ซียอด้วย”



มีเซ็งกลุ้มใจที่ชอนมยองกำลังจะจัดระเบียบราชสำนักใหม่ทั้งหมด ไม่เว้นแม่แต่ทหารก็ต้องถูกแบ่งแยกด้วย

“ให้ทหารดูแลความสงบก็พอ แต่อำนาจสั่งการให้แม่ทัพที่ฝ่าบาททรงแต่งตั้งเป็นคนออกคำสั่งทั้งหมด เฮอะ....แต่ข้าว่าองค์หญิงทำอะไรก็เสียแรงเปล่าทั้งนั้น เพราะบรรดาขุนทหารเป็นคนของเราทั้งนั้น องค์หญิงทำไปก็ป่วยการ เฮ่อ ๆ ๆ เฮ่อ ๆ ๆ

“ตอนนี้ทางคิมซอยอนเป็นไงบ้าง” มีซิล กล่าว

“เงียบหายเป็นเป่าสากไปเลย....แหะ ๆ ๆ หึ ๆ ๆ เชิญท่านไปท้องพระโรงดีกว่า พวกทหารคงมาหมดแล้ว งานฉลองชัยชนะกำลังจะเริ่มขึ้น ฮึ่ม.....”

มีซิลเห็นว่าคิมซอยอนที่นำทหารไปฮามักซองยังไม่มีใครรอดกลับมา จึงเดาว่าน่าจะตายกันหมดแล้ว จึงคิดที่จะสร้างป้ายวิญญาณและสุสานให้เพื่อเป็นการเชิดชู พร้อมจัดงานศพให้สามวันสามคืน แต่ชอนมยองว่าอยากให้ไปอยู่ที่ศาล “วาซา”

“ศาลวาซานั้น คือที่เชิดชูเกียรติองครักษ์ซึ่งเสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ต่อให้พวกเขามีความชอบแค่ไหน แต่สมัยก่อนคิมซอยอนเคยถูกปลดจากตำแหน่งองครักษ์ จึงไม่มีสิทธิตั้งป้ายในนั้น” ฮาจอง กล่าว

“นั่นสิ แม้ว่าองค์หญิง...กับฝ่าบาทจะทรงพยายามให้เขากลับมาอีกครั้ง แต่ยังไง ก็ไม่ได้รับความเห็นชอบจากพระพันปีอยู่ดี”

ระหว่างที่กำลังเถียงกันอยู่นั้นมายากับมานมยองที่เดินทางกลับมาจากการเข้าเฝ้าพระพันปี ได้เข้าเฝ้าแผ่กจอง

“ฝ่าบาท วันนี้หม่อมฉันไปเขา “กึมอู” เฝ้าพระพันปีที่วัด “กวานโซ” มาแล้วเพคะ”

“หึ....งั้นหรือ ตกลงได้พบแล้วใช่ไหม”

“พบแล้วเพคะ เสด็จแม่มีรับสั่ง อภัยให้กับความผิดที่หม่อมฉันเคยก่อไว้ ซ้ำยังยอมรับการแต่งงาน ระหว่างหม่อมฉันกับท่านซอยอนด้วย” เมียคิม กล่าว

“เฮ่อ....”

“เป็นความจริงหรือนี่ ในที่สุดก็ทรงเลิกถืออคติจนได้”

“เพคะฝ่าบาท เสด็จแม่ยังมีลายพระหัตถ์ มาถึงฝ่าบาทด้วย”

หลังจากอ่านจดหมายแล้ว แผ่กจองดีใจมาก เพราะไม่เพียงพระพันปียอมรับฐานะขององค์หญิงมาน-มยอง ยังคืนฐานะองครักษ์ให้คิมซอยอน รวมทั้งให้เป็นราชนิกูลของเราต่อไปเหมือนเดิมด้วย



“งั้นก็ขอยินดีด้วยเพคะ ต่อไปท่าน ซอยอนจะได้คืนยศศักดิ์เหมือนเดิมซะที ขอทรงประทานที่นา 3 พัน “ซก” ที่เมืองยางจูให้เขาโดยเร็ว จัดพิธีเซ่นไหว้ 7 วัน และให้ป้ายของเขาไปตั้งอยู่ในศาลวาซา....” มีซิล กล่าว

“ถ้าเขายังไม่ตายล่ะ...ถ้าเขากลับมาได้จะว่าไง”

“ถ้าหาก....เขาได้รอดชีวิตกลับมา.... ก็จะมีฐานะเป็นเชื้อพระวงศ์ จากตำแหน่งเจ้ากรมทหารขั้น 6 ก็จะได้เลื่อนขึ้น อาจจะเป็นถึง....”

“ให้เป็นเจ้ากรมกลาโหมน่าจะเหมาะที่สุด นอกจากคืนยศศักดิ์เหมือนเดิมแล้ว ยังควรให้เกียรติเสมอคนอื่น มีสิทธิเข้าประชุมขุนนางระดับสูง....รวมถึงอดีตพระราชาจินฮึง เคย ประทานให้บิดาของท่านซอยอนคือแม่ทัพ “คิมมูลัก” ได้ครองเมือง “อัมยาง” “ซอง ยาง” และ “แทกายา” ถึงวันนี้เราก็ควรคืนให้พวกเขาดีมั้ยเพคะ”

“ถูกแล้วเพคะ สมควรจะเป็นอย่างงั้น ถ้าท่านซอยอน....สามารถกลับมาได้จริง”

คิมยูซินยังไม่รู้ชะตากรรมของคิมซอยอน อีกด้านซกพุงโกรธที่ต๊อกมานทำให้คน อื่น ๆ ต้องเดือดร้อน จึงขอให้ไอชองกำจัดนางเสีย แต่ไม่มีใครเห็นด้วย เพราะต๊อกมานช่วยให้ทหารที่ได้รับบาดเจ็บไม่ต้องถูกฆ่าตายอยู่ในป่า ทำให้ซกพุงไม่พอใจ

“ถ้าต๊อกมานมีความผิดใหญ่หลวงจริง ความผิดของข้าในฐานะผู้นำก็น่าจะมีไม่น้อยเหมือนกัน รวมถึงทุกคนในหน่วยยองวา ที่พยายามปกป้องชีวิตเขาไว้ด้วย เพราะฉะนั้น โปรดให้พวกเราไปตายในสนามรบเถอะ....ไหน ๆ ทหารแพ่กเจก็จะมาแล้ว ถ้าเราซุ่มอยู่ในป่านี้ อย่างน้อยน่าจะต้านได้ซัก 2 ชั่วยาม ระหว่างนี้ ท่านก็ข้ามเนิน “โชนึง” เข้าพรมแดนของเราไปซะ ฝากธงผืนนี้ไปปักที่ลานฝึก” คิมยูซิน เข้ามาขวาง พร้อมทั้งคืนธงให้ไอชอง

“ถ้ามีโอกาสรอด ขอให้อยู่ต่อไป”

“อย่าให้พวกเราต้องเสียสละเปล่า ประโยชน์....พาทุกคนกลับไปชิลลาให้ปลอดภัย”

“ถ้าพวกเจ้ากลับไปได้จริง ข้าจะยกโทษให้ทั้งหมด” ซกพุง กล่าว

แล้วทั้งหมดก็ร่วมต่อสู้กับทหารแผ่กเจอีกครั้ง





..............จบตอนที่ 11...........

4 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ26 เมษายน 2553 เวลา 05:57

    สนุกมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆค่ะ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ26 เมษายน 2553 เวลา 05:58

    ชอบมากค่ะ

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ26 เมษายน 2553 เวลา 05:58

    น่าดูมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ26 เมษายน 2553 เวลา 06:32

    สนุกมากก มันสุดๆๆ
    ไอชองหล่อมากก น่ารักค่ะรักไอชอง###

    ตอบลบ