วันเสาร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2553

เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 4



Queen Seon Deok ( 善德女王/ 선덕여왕)
เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 4
Cr. : Dailynews Online

ต๊อกมานพาชูซิมาฝากให้ทำงานกับคังคั๊กตามที่สัญญาไว้ จากนั้น ต๊อกมานก็กลับมาที่โรงเตี๊ยมอีกครั้ง แนะนำให้พ่อค้าใบชาทั้งหลาย ทำใบชาตากแห้งแล้วอัดเป็นก้อนคล้ายอิฐ เพื่อเลี่ยงการจับกุม แต่ยังไม่ทันที่กลุ่มพ่อค้าจะนำวิธีของต๊อกมานไปลองทำ กลุ่มทหารก็เข้ามาตรวจค้นที่โรงเตี๊ยม เนื่องจากได้รับรายงานว่า มีการลักลอบขายใบชา ต๊อกมานและกลุ่มพ่อค้าปฏิเสธ พร้อมทั้งจุดไฟเผาก้อนใบชาหวังทำลายหลักฐาน ทหารจึงคุมตัวต๊อกมานและพ่อค้าทั้งหมดไปรับโทษ โซวาถูกลงโทษจนร่างกายทนไม่ไหว หอบอย่างหนัก ต๊อกมานและคังตั๊กขอร้องให้ทหารช่วยตามหมอ แต่ได้รับการปฏิเสธ

นายกองรีบไปรายงานให้ท่านอ๋องรู้ว่า สามารถจับพ่อค้าที่ลักลอบขายใบชาได้ แต่มีการ พยายามที่จะเผาทำลายหลักฐาน จึงรีบเดินทางไปยังที่คุมตัว ก่อนจะสั่งให้ประหารพ่อค้าทั้งหมด ต๊อกมานขอยอมรับผิดคนเดียวต่อหน้าท่านอ๋อง

“นางพูดอะไรของนาง”

“ท่านอ๋อง”

“นางบอกว่า นางยังเด็กนัก ไม่รู้เดียงสา ขอท่านโปรดอภัยด้วย ท่านอ๋อง”

“หา....ไม่ใช่นะ ข้าตั้งใจทำจริง ๆ ไม่เกี่ยวกับท่านอาคนนี้ซักนิด”

“แปลให้ข้าฟังหน่อยซิ ข้าบอกให้แปล ไม่ได้ยินหรือไง”

“นางบอกว่า ทั้งหมดเป็นฝีมือนางเอง เพราะฉะนั้น ถ้า....จะฆ่าก็ฆ่านางคนเดียว”

“ทำไมต้องทำอย่างงั้น”

“เขาถามว่าทำทำไม”



“เอ่อ....ข้า....ทำเพราะว่า....หึ....บอก ตามตรง ข้าทำเพราะ....”

“ห้ามพูดความจริงนะต๊อกมาน”

“เจ้ามีหน้าที่แปลอย่างเดียว”

“หึ....เพราะท่านไม่มีเหตุผล”

“นางพูดอะไร”

“นางบอกว่า สิ่งที่ใต้เท้าทำกับพวกเรา....ไม่มีเหตุผล”

“ไม่มีเหตุผลเรอะ”

“ใช่ เพราะพ่อค้าแต่ละคนที่มา ล้วนต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าจะเดินทางมาถึงที่นี่ แต่พอมาถึงแล้ว กลับพบว่าการค้าถูกสั่งระงับหมด แบบนี้มันจะถูกได้ไงคะ หึ....เท่ากับว่าทุกคนเสียเวลาไปกลับถึงสองปี ไหนจะหมดเนื้อหมดตัวกับการลงทุนอีก ที่สำคัญ กว่าจะฝ่าทะเลทรายมาถึงนี่ได้ มิเท่ากับเอาชีวิตเข้าแลกหรอกหรือ หึ....ท่านว่าจริงหรือเปล่าล่ะคะ หึ....พ่อค้าแต่ละคนมาจากประเทศต่าง ๆ ล้วนหวังว่าการค้าแต่ละครั้ง จะได้กำไรกลับไปบ้าง แล้วจะให้พวกเขากลับไปมือเปล่า มิเท่ากับ....”

“หมายความว่าข้าผิดงั้นเรอะ”

“ต๊อกมาน เขาถามว่านี่เป็นความผิดของเขาหรือ หึ....ต๊อกมาน ตอนนี้ยังไม่สาย ยั้งปากหน่อยเถอะ หึ...”

“หึ....ใครที่ไม่ยอมฟังความคิดเห็นของราษฎร คนคนนั้นก็ไม่เหมาะจะเป็นผู้ครองเมืองด้วย”

“ต๊อกมาน”

“แปลมาซิ”



“เอ่อ....นาง...นางบอกว่า ใครที่ไม่ฟังเสียงราษฎร คนนั้น....จะไม่เหมาะเป็น....ผู้ครองเมือง”

“ใครเป็นคนสอนเจ้า”

“เขาถามว่าใครสอนเจ้า”

“เอ่อ....เรื่องนี้ ข้า....อ่านจากในหนัง สือมา หึ....แต่ว่า ข้าก็เชื่อว่าคนที่ไม่ฟังเสียงเรียกร้องของราษฎร จะไม่มีวันเป็นนักปกครองที่ดีได้ ต่อให้มีปัญญาฝึกทหาร ใช้กำลังกดขี่ชาวบ้านไว้ แต่ว่า ยังไงก็ไม่อาจเป็นวีรบุรุษ”

“หึ....หึ....ฮึ่ม...หึ ๆ ๆ....ให้เจ้าเลือก ....ถ้าเลือกคำว่าเป็น ข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า แต่ว่าถ้าได้คำว่าตาย พวกเจ้าก็ต้องตายหมด”

“เขาให้เจ้าเลือกตัวหมาก ถ้าได้คำว่าเป็นก็จะรอด แต่ถ้าได้คำว่าตาย ก็จะประหาร”

“เอ่อ....”

“หึ ๆ ๆ เจ้ามันเก่งนักนี่ กล้ามาสอนข้า....เกี่ยวกับหลักปกครองเชียวหรือ หึ ๆ งั้นจะดูซิว่า ความรู้ของเจ้า รวมทั้งโชคชะตา ความรู้แค่ไม่กี่แถวที่เรียนมา จะสามารถปกป้องชีวิตเจ้าไว้ได้ไหม”

“ฮือ....”

“หึ....เลือกสิ เร็วเข้า....รออะไรอีก เลือกเร็ว”

“เขาบอกให้เลือกเร็ว ๆ”

“ต้องให้ข้าดูก่อน ฮือ....ไม่แน่ว่าทั้งสองอัน อาจเป็นคำว่าตายทั้งคู่”

“นางบอกว่า ไม่แน่ว่า ทั้งสองอันอาจจะเป็น....คำว่าตายทั้งคู่”

“ยังไงก็เป็นชะตาของเจ้า เลือกเร็ว”

ต๊อกมานเลือกหมากได้แล้ว ก็จัดการกลืนลงคอทันที และขอให้ท่านอ๋องเปิดหมากที่อยู่ในมือเขาว่าเป็นคำว่าอะไร หากเป็นคำว่าตายก็เท่ากับว่านางกลืนคำว่าเป็นลงไป เมื่อท่านอ๋องเปิดหมากที่อยู่ในมือ เหล่าพ่อค้าต่างส่งเสียงเฮลั่น เพราะเป็นคำว่าตาย เท่ากับว่า หมากที่ต๊อกมานกลืนลงไป ก็น่าจะเป็นคำว่าเป็น ท่านอ๋องจึงสั่งให้ทหารปล่อยตัวทั้งหมดไป



เซจองขอร้องให้แผ่กจองถอนรับสั่งที่มีพระประสงค์จะมอบบัลลังก์ให้ท่าน “ยองซู” เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง

“สมัยก่อนเคยมีแบบอย่าง อดีตพระราชา “นัมแฮชอชู” เคยมอบบัลลังก์ให้ลูกเขยเหมือนกัน”

“แต่ท่านยองซู เป็นโอรสของอดีตพระราชาจินจิ ซึ่งถูกปลดเป็นสามัญชน ไม่ใช่เชื้อพระวงศ์อีกแล้ว”

“ตามกฎมณเทียรบาล ผู้ที่จะครองบัลลังก์คือสายพระโลหิตโดยตรง แต่อย่างท่านยองซู มีสิทธิในราชบัลลังก์ด้วยหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้าและเป็นสามีองค์หญิงชอนมยองด้วย”

“แต่ว่า จนถึงวันนี้ เขายังไม่มีผลงานต่อบ้านเมืองซักนิดนะพ่ะย่ะค่ะ เป็นแค่อดีตองค์ชาย ซ้ำไม่มีความดีความชอบ แล้วจะเป็นพระราชาได้ยังไง”

“ซ้ำยังเป็นโอรสของอดีตพระราชาจินจิ ซึ่งทำให้บ้านเมืองเสื่อมถอย แล้วราษฎรจะยอมรับได้ยังไง ถ้าไงทรงถอนรับสั่งคืนด้วยเถอะ”

“ทรงถอนรับสั่งคืนด้วยเถอะ ฝ่าบาท ทรงถอนรับสั่งคืนด้วยเถอะ ฝ่าบาท ทรงถอนรับสั่งคืนด้วยเถอะ ฝ่าบาท ทรงถอนรับสั่งคืนด้วยเถอะ ฝ่าบาท ทรงถอนรับสั่งคืนเถอะ”

มีซิลมาตามแผ่กจองไปทอดพระเนตรการสัประยุทธ์ เนื่องในเทศกาลบ๊ะจ่าง โดยแผ่ก จองบอกให้นางไปก่อน เดี๋ยวจะตามไป เมื่อมีซิลไปถึงที่งานได้พบกับชอนมยอง

“ครั้งแรกที่ให้องค์หญิงเป็นประธานจัดงานประลองยุทธ์ ยังทำได้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ช่างทำให้หม่อมฉันรู้สึกทึ่งจริง ๆ”

“ข้ายังเด็กอยู่มากต้องเรียนรู้จากท่าน อีก”

“เชิญนั่งได้แล้ว....ด้านหนึ่งจัดงานประลองฝีมือ ส่วนอีกด้านก็ต้องวางแผนเกี่ยวกับการเมือง ช่างลำบากองค์หญิงนัก”

“หา....ท่านหมายถึง....”

“แต่แรกมาถ้าองค์หญิงเกิดเป็นชายก็สิ้นเรื่อง จะได้เป็นพระราชาของแคว้นเราโดยไม่มีอุปสรรค”

“ข้าไม่เข้าใจที่ท่านพูด”

“แต่พอไม่ได้ เลยอยากเป็นมเหสีแทนใช่ไหม”

“ท่านเซจู....”

“ฝ่าบาทมีพระประสงค์จะให้ท่านยองซูเป็นรัชทายาท....ถึงตอนนั้น องค์หญิงก็จะได้เป็นพระมเหสีโดยอัตโนมัติ”

“เรื่องนี้ข้าไม่เห็นรู้เลย ไม่เคยได้ยินด้วย”

“ไม่รู้ไม่เห็นงั้นหรือ?”

“ถ้าไงข้าจะไปถามฝ่าบาทให้เข้าใจกว่านี้”

“หม่อมฉันว่าองค์หญิงช่างเป็นคนที่น่ากลัวนัก เปลือกนอกทำเป็นอ่อนโยน แต่เบื้องหลังช่างวางแผนได้อย่างลึกซึ้ง”

“ท่านเซจู”

“แล้วงานประลองนี่ล่ะ ทรงมีแผนอะไรแอบแฝงหรือเปล่า....อ้อ....หรืออยากเป็นหัวหน้าองครักษ์แทนหม่อมฉัน”

“เอ่อ....ท่านเซจู ข้าน่ะ ไม่เคยหวังอะไรจากงานนี้ซักนิด เพียงแต่....ทำงานด้วยความจริงใจเท่านั้น”

“จริงใจหรือ....หึ....นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญหรอก ไม่ว่าองค์หญิงจะจริงใจก็ดี หวังผลอะไรก็ช่าง ย่อมไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้ทั้งนั้น หรือทรงคิดว่าเปลี่ยนได้ล่ะ”

“ท่านเซจู...”

“ตอนนี้องค์หญิง....กำลังประกาศตัวเป็นศัตรูกับหม่อมฉันหรือเปล่า....องค์หญิงแค่ทำหน้าที่ตัวเองให้ดีก็พอ ในขณะที่หม่อมฉันก็มีหน้าที่ของตัวเหมือนกัน”

“หึ....เฮ่อ ๆ ๆ”



คังตั๊กต่อว่าต๊อกมาน ที่ยอมตายเพื่อช่วยพวกเขา แต่ต๊อกมานว่าหากนางมีชีวิตอยู่ต่อ ทุกคนก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อเช่นกัน ซึ่งต๊อกมานอ่านจากหนังสือผู้กล้าเจอว่า ไม่ว่าจะยากแค่ไหน ก็ต้องลองดู บรรดาพ่อค้าทุกคนต่างซึ้งในน้ำใจของต๊อกมาน แล้วคังตั๊กก็ถามหาชิซู ต๊อกมานว่าเขาเป็นนักรบ ไม่น่าห่วงอะไร แล้วแอบเล่าเรื่องของชิซูให้กับพ่อค้าใบชาฟัง ทำให้โซวารู้ว่าที่แท้ชิซูก็คือองครักษ์นักฆ่าเมื่อ 15 ปีก่อน

“ฮือ....ฮือ....ไปเร็วเข้า”

“หา....ไปไหน ท่านแม่ เดี๋ยวซี่ ท่านแม่ จะรีบไปไหน”

“เราอยู่ไม่ได้แล้ว รีบไปเร็ว”

“อะไรนะ หนีหรือ ทำไมล่ะ”

“รีบไปเดี๋ยวนี้ เร็วเข้า”

“หึ....เดี๋ยวซี่ ทำไมเราต้องหนีบอกข้าก่อน”

“รีบไปเถอะน่า เร็ว....”

“เดี๋ยว....ท่านแม่ ฟังก่อน มีเรื่องอะไรบอกข้าได้ไหม”

“อย่าเพิ่งถามเลย มาเร็วเข้า”

“ท่านแม่ เดี๋ยว...ปล่อยก่อน มีเรื่องอะไรพูดมาซิ”

“แม่ไม่มีเวลาบอกเจ้า รีบเก็บของแล้วไปกับแม่ก่อน”

“เพราะอะไร”

“ไม่งั้นเราจะตายทั้งสองคน”

“อะไรนะ ตายหรือ”

“มาเร็วเข้า”

“หึ....”

ระหว่างนั้นโซวาและต๊อกมานเจอกับ ชิซูเข้าพอดี ชิซูจึงเรียกชื่อของโซวา ทำให้นางสะดุ้ง

“เจ้าชื่อโซวาจริง ๆ”

“ท่านอา ทำไมหรือคะ ท่านแม่ เป็น ไรไป” ต๊อกมานถาม ในขณะที่โซวามีท่าทีหวาดกลัว

“เด็กคนนี้ใช่ไหม”

“ฮือ....ฮือ....ไม่ใช่ ไม่ใช่นาง เด็กคนนี้เป็นลูกข้า”

“เจ้าพานางหนีมาไกลขนาดนี้เชียวหรือ”

“ฮือ...”

“เจ้าโตแล้วหรือนี่”

“อย่าบอกนะว่า ข้า....ก็คือ....”

“ใช่ เด็กที่สมัยก่อนนางในช่วยออกมา....ก็คือเจ้า”

“หา....”

“หึ....ไม่ใช่ ไม่จริง ฮือ....เอ่อ....”

“ท่านแม่....ๆ....”

“โอ๊ะ....โอ๊ย...”

“ท่านแม่ ไปเร็วเข้า หนีเร็ว ลุกขึ้น”



ต๊อกมานกัดแขนชิซู แล้วสั่งให้โซวาหนี แต่ก่อนที่จะหนี โซวาพาต๊อกมานมาเก็บจดหมายที่ห้องก่อน นางว่าต้องเอาจดหมายเหล่านี้ไปด้วย แล้วทั้งสองก็หนีขึ้นไปด้านบน เพื่อหวังที่จะปีนออกด้านหลัง ซึ่งเป็นกองฟาง ต๊อกมานถูกชิซูจับขาไว้ได้ขณะเตรียมที่จะปีนหนี โซวาเข้าช่วย พร้อมร้องบอกให้ต๊อกมานหนีไป ระหว่างนั้นเกิดไฟไหม้ขึ้นภายในห้อง ทำให้โซวาเกิดความหวาดกลัวขึ้นอีกครั้ง

คังตั๊กและพ่อค้าใบชา สังเกตเห็นว่าเกิดไฟไหม้ขึ้นด้านบน ก็รีบช่วยกันนำน้ำมาดับไฟ

“ต๊อกมาน ต๊อกมาน นี่มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ”

“รีบไปจากที่นี่เร็ว” โซวา กล่าว

“ท่านแม่ ไม่ต้องห่วงแล้ว พวกเขาจะช่วยเราเอง”

“ไม่ ไม่ได้ เจ้าห้ามพบคนคนนั้นอีก ไปเร็วเข้า ไป....”

“อ้าว....เอ๊ะ....” เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น

“เฮ้ย....ระเบิดแล้ว....ทำไงดี....ไปหาน้ำช่วยดับหน่อย....เร็วเข้า....อย่ามัวยืนเฉยเลย....”

“โอ๊ะ....หึ....”

“เร็วเข้า ขึ้นไปหลังอูฐ เร็ว”

“ไม่ได้นะท่านแม่ อากาศช่วงนี้ไม่เหมาะจะไปทะเลทรายน่ะ”

“บอกให้ขึ้นไป เดี๋ยวนี้ เร็ว....หึ...”

“หึ....งั้นก็ได้ ข้าพยุงท่านขึ้นไปก่อน ไม่ต้องห่วงข้าหรอก ไปซี่”

“ฮือ...”



“เร็ว ๆ ๆ....ช่วยดับไฟหน่อย....เอาน้ำมาอีก ๆ....อ้าว....ยังมีอีกคน....ชิซูนี่นา.....ลงมาก่อน ๆ....จะได้ช่วยดับไฟ....เร็ว ๆ ๆ....ช่วยกันเร็วเข้า....”


“ชิซู เป็นไงบ้าง พอไหวหรือเปล่า”

“ชิซู ๆ....ทำใจดี ๆ ไว้....อย่าเพิ่ง เป็นไรนะ....ลงมา ๆ” คังตั๊ก กล่าว

ต๊อกมานพาโซวาหนีออกมาได้ แต่ร่างกายของโซวาก็บอบช้ำมาก

“ท่านแม่ หึ....ท่านแม่ ฮือ....ท่านแม่ ๆ ฮือ....ท่านเป็นไงบ้าง ฮือ....”

“แม่ไม่เป็นไร....ไม่เป็นไร....”

“ฮือ....หึ....ลุกขึ้นซี่ เร็วเข้า เดินต่ออีกหน่อย บอกให้ลุกไง ลุกซี่....ฮึ่ม....เฮ่ย.... ฮือ....ท่านแม่ ๆ มา....ลุกขึ้นนั่งก่อนนะ อึ๊บ.... ฮือ.... ท่านแม่ เราต้องไปต่ออีกหน่อย จะได้มีที่พัก พอจะลุกขึ้นไหวมั้ย หา....”

“แม่เดินไม่ไหวแล้ว โอย....”

“อ้อ....ข้างหน้าโน่น เหมือนจะมีถ้ำ เราไปหลบในนั้นก่อนดีมั้ย”

“หึ....เฮ่อ....แม่น่ะ ชอบเป็นภาระให้คนอื่นเรื่อย ฮือ....”

“ไม่ได้นะคะ ห้ามร้องไห้ในทะเลทราย ร่างกายขาดน้ำมากอยู่แล้ว ถ้าร้องไห้อีกมิแย่หรือ ฮือ....ข้าแบกท่านเอง”

“หา....หึ....เจ้าแบกแม่ไหวที่ไหนกัน หึ....”



“ใช่สิ ท่านเป็นภาระให้ข้า หึ....ข้าถึงต้องแบกท่าน เหมือนสัมภาระไง ฮือ.... ฮือ....ยังไม่ขึ้นมาอีก”

“หึ....ก็ได้ หึ....”

“อึ๊บ....หึ....ข้า....ยังไงก็จะปกป้องท่านไว้ หึ....หึ....”

“หึ....ขอบใจมากนะ”

“ไม่ต้องพูดหรอก หึ....”

คังตั๊กและพ่อค้าใบชาช่วยชิซูไว้โดยไม่รู้ว่าเขาคือคนที่คอยตามฆ่าโซวาและต๊อกมานอยู่ ชิซูหลอกถามคังตั๊กว่าสองคนนั้นตอนนี้อยู่ที่ไหน เพราะว่าเขาต้องพาต๊อกมานกลับไปเจอพ่อที่แท้จริง คังตั๊กจึงว่า โซวาและต๊อกมานน่าจะไปทางตุนหวง แต่ถ้าไม่ได้เตรียมตัวสำหรับการเดินทางแล้ว จะทำให้พวกนางทนสภาพไม่ไหว

โซวาชวนต๊อกมานเดินทางไปโรมัน แต่ต๊อกมานว่า ตอนนี้โซวาควรจะพักผ่อนมากกว่า โซวาไม่ยอม เพราะนางรู้ตัวเองว่าจะมีชีวิตอยู่ต่ออีกไม่นาน พร้อมทั้งกำชับว่าอย่าไป “เคนิม” เด็ดขาด เพราะมันเป็นคำสั่งของพ่อต๊อกมาน

“มุนโน ใช่ไหมคะ คนที่ชื่อมุนโน....ก็คือพ่อข้าหรือ”

“ทำไมเจ้า....รู้จักชื่อนี้ด้วยล่ะ”

“หึ....จดหมายที่ท่าน....หยิบออกมาเมื่อกี้ ข้าเคยอ่านแล้ว”

“ไม่ใช่หรอก เขาไม่ใช่พ่อเจ้า”

“หึ....มีดเล่มนี้ ท่านบอกว่าพ่อข้าฝากไว้ใช่ไหม....แค่ให้ของที่ระลึกอย่างเดียว ก็ทิ้งเราสองคน ไม่ต้องเหลียวแลอีก หึ....ข้าไม่ต้องการของแบบนี้หรอก”

“หา....เขาไม่ได้ทิ้งเจ้า หึ....พ่อของเจ้า เขาไม่ได้ทิ้งเจ้าจริง ๆ....หึ....เขาไม่ได้ทิ้งเจ้าจริงนะ แต่เป็นเพราะ....เจ้าช่วยชีวิตพ่อเจ้าไว้”



“ฮือ....โลกนี้มีพ่อแม่แบบนี้ด้วยหรือคะ ห่วงแต่เอาตัวรอดคนเดียว ถึงขนาดทิ้งลูกได้ลงคอ ฮือ....คนเป็นพ่อแม่ มีแต่หวังช่วยลูกจนยอมสละชีวิตก็ยังได้ ฮือ....เหมือนอย่างท่านแม่ไง ฮือ.....ท่านก็คือตัวอย่างที่ดี ฮือ....อยู่ในถ้ำอุ้มข้าไว้ ถูกไฟลนก็ไม่ห่วงชีวิตตัวเอง พยายามเป่าลมเข้าปากข้าเยอะ ๆ ฮือ....ฮือ....ท่านอาชิซูบอกว่าเขาเห็น ฮือ....ถึงขั้นนี้ไม่บอกก็รู้ ปกติท่านแม่กลัวไฟที่สุด แต่ยังกล้าโดดเข้ากองไฟเพื่อจะช่วยข้า ท่านเป็นคนใจเสาะยังกะอะไร แต่ยังกล้าฆ่าคนเพื่อจะช่วยข้า ฮือ....แล้วข้าล่ะ ฮือ....ไม่เคยช่วยให้ท่านได้อยู่สบายเลย ฮือ....”

“หึ....ต๊อกมาน”

“มีแต่ก่อเรื่องให้ท่านเดือดร้อน แถมยังนึกว่าตัวเองฉลาดอีก ฮือ....แล้วตอนนี้ จะให้ข้า ทิ้งท่านหนีไปโรมันคนเดียวหรือ ท่านนึกว่าข้าจะทำได้ไหม ยังไงข้าก็จะช่วยท่าน ช่วยให้ท่านรอดชีวิตให้ได้ ฮือ....ท่านแม่ ฮือ ๆ”

“ฮือ ๆ ๆ ต๊อกมาน ฮือ ๆ ๆ ฮือ ๆ ๆ”

ชิซูตามหาทั้งสองจนเจอ โซวาถูกจับตัวได้ นางจึงตะโกนสั่งให้ต๊อกมานหนีไป จนพลาดท่าตกเขา ต๊อกมานพยายามที่จะช่วยโซวาขึ้นมา แต่โซวาก็ตัดสินใจปล่อยเชือกที่ต๊อกมานโยนมาให้ เพื่อไม่ให้เป็นภาระของต๊อกมานอีก แล้วร่างของโซวาก็หล่นลงเขาไป



..............จบตอนที่ 4.............

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น