วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 46



Queen Seon Deok ( 善德女王/ 선덕여왕)
เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 46
Cr. : Dailynews Online


หลังจากที่คิมยูซินถูกจับตัวไว้ได้ เขาก็ประกาศให้องครักษ์ทุกคนทราบว่า ตอนนี้องค์หญิง ต๊อกมานถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏจนต้องออกจากวังไป เหตุการณ์ที่เกิดในห้องประชุมขุนนางเป็นหลุมพรางทั้งสิ้น ไม่มีความเกี่ยวข้องกับองค์หญิงเลย แต่คิมซอวอนว่าคนทำความผิดก็ต้องหาข้อแก้ตัวทั้งนั้น

จุปังมาหาทางลับที่ตำหนักเทพ เขาเดินหาอยู่นาน จนหลงไปยังห้องลับของมีซิล ที่นั่นเขาได้เจอกับโซวา จุปังทั้งงงและแปลกใจ

“คุณพระช่วย สวรรค์โปรด อะไรกันนี่ ในวังยังมีห้องแบบนี้ด้วยหรือ หือ...แล้วตอนนี้ ฝ่าบาทอยู่ไหน ท่านรู้มั้ย”

“หึ...”

“แต่ว่า ช่างเถอะ เราต้องออกจากที่นี่ก่อน”

“ท่านมีทางออกไปได้หรือ”

“ใช่ ข้างหลังนี่มีทางออก องค์หญิงเคย บอกว่า มันจะเชื่อมต่อระหว่างตำหนักเทพกับห้องเซ่นไหว้ขององครักษ์ และข้าก็เพิ่งรู้ว่า มันยัง ต่อกับตำหนักของมีซิลด้วย” จุปัง กล่าว

“ถ้าอย่างงั้น...”

“ใช่ ข้าว่าทางนั้น น่าจะทะลุไปถึงห้องเซ่นไหว้ขององครักษ์ ถ้าเราเดินตรงไปอาจมีทาง ออกก็ได้ ไปเร็วเข้า มา...”

“ได้ เดี๋ยวก่อน รอข้าซักครู่” โซวาขอตัว ทำธุระบางอย่างก่อนที่จะหาทางออก


มีซิลโกรธมากที่รู้ว่าซอวอนไม่สามารถจับตัวองค์หญิงต๊อกมานไว้ได้ ซอวอนจึงรายงานว่าพีดัมพาคนมาช่วยไว้ ทำให้มีเซ็งโวยวายขึ้นมา เพราะคิดว่ามีซิลกำจัดพีดัมไปแล้ว

“พี่ใหญ่ ท่านไปพบเจ้ายอจงด้วยตัวเองไม่ใช่หรือ แล้วทำไมพีดัมยังโผล่มาได้อีกบอกหน่อยซิ”

“เท่าที่ดู พีดัมคงไม่ได้ตามเขาไปท่องเที่ยว” ซอวอน กล่าว

“เที่ยว...เที่ยวหรือ พาเขาไปเที่ยวเนี่ยนะ เฮ่อ ๆ ๆ พวกท่านพูดอะไรกันแน่ ช่วยบอกให้เข้าใจหน่อยได้ไหม”

“ยอจงทรยศเราซะแล้ว”

“หา...อะไรนะ พี่ใหญ่ช่วยอธิบายให้ฟังหน่อยซิ เจ้าพีดัมนี่ ตามหลักมันน่าจะตายแล้วไม่ใช่หรือ พี่ใหญ่”

“โอย...นี่มันอะไรกัน เฮ่ย...โอย...อยากจะบ้า พวกท่านรู้ข่าวร้ายบ้างหรือยัง องค์หญิงหนีไปได้ หึ...” ฮาจอง โวยวาย

“เป็นความผิดพลาดของข้าเอง แต่ว่า ที่หนีไปคือองค์หญิงคนเดียวเท่านั้น ตรงข้ามกับทุกคนในวัง ที่ต้องเชื่อฟังข้า อำนาจมาอยู่กับข้าแล้วยังจะกลัวอะไรอีก...ต่อไป เราจะดำเนินการใน แผนขั้นที่สอง”

“หา...หมายความว่า พรุ่งนี้จะเรียกประชุม ขุนนางตามที่ประกาศหรือครับ”

“ใช่ ให้ฮาจองกับมีเซ็ง ไปกำชับขุนนางทุกฝ่ายอีกที ห้ามใครงดเข้าประชุมเด็ดขาด”

“ได้ ข้าจะจัดการให้” มีเซ็ง รับคำทันที

ต๊อกมานที่หนีรอดมาได้ ยังคิดว่าโชคเข้าข้างนางอยู่ เพราะแม้ว่าจะครองอำนาจมาหลายสิบ ปี แต่ก็น่าสมเพชมีซิลที่ต้องใช้กำลังห้ำหั่น ถึงจะ ได้ครองบัลลังก์สมใจ นอกจากใช้วิธีก่อกบฏแล้ว มีซิลจะไม่มีทางขึ้นเป็นใหญ่ได้...แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม นางคือสายพระโลหิตของฝ่าบาท เพราะฉะนั้น นางจึงมีความชอบธรรมมากกว่า ไม่ว่านางจะอยู่ไหน อำนาจก็เป็นของนางเสมอ ด้านมีซิลก็คิดเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ดังนั้น มีซิลจึงคิดที่จะจับตัวต๊อกมานมาให้ได้ และประหารเสีย จึงสั่งให้ท่านซอวอนและชิซู จับต๊อกมานมาให้ได้ ก่อนที่นางจะ รวมกำลังขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อสร้างขั้วอำนาจใหม่

“ถ้าอย่างงั้น องค์หญิงน่าจะหาที่หลบซ่อน ตัวซักพัก”

“ใช่ เพื่อการวางแผนในวันหน้า องค์หญิง ควรไปให้ไกล อยู่ในที่ ๆ ปลอดภัยและไม่มีใครรบกวน” ชุนชู กล่าว

“เจ้ามีความเห็นยังไงบ้าง...ใช่ ไม่ควรไป ท่านยูซินพูดมาก็ถูก ที่ข้าหนีมาได้ก็หมายถึงชัยชนะของฝ่ายเรา นับว่าไม่ผิดจริง ๆ”

“ใช่ ป่านนี้คนที่ร้อนใจ คือมีซิลมากกว่า” พีดัม กล่าว

“นางคิดว่า จะก่อกบฏแล้วโยนความผิดให้ข้า บิดเบือนข้อเท็จจริงให้ข้าเป็นนักโทษ ส่วน นางก็คุมวังหลวงไว้”

“จากนั้นก็ใช้วิธีรวบรัด ประหารองค์หญิงซะ เป็นการขจัดเสี้ยนหนามให้หมดไปอย่าง รวดเร็ว”

“แต่แล้ว สุดท้ายจับข้าไม่ได้ยังพอว่า แผนของนางทำท่าจะรวนซะหมด นับแต่นี้ไป เราจะเป็นฝ่ายได้เปรียบบ้าง”

“ข้อนี้ใคร ๆ ก็มองออก...แต่ก็เพราะเหตุนี้ พวกเขาต้องพยายามหาทางจับองค์หญิง ให้ได้ ไม่ว่าด้วยวิธีไหนก็ตามเพราะฉะนั้น หม่อม ฉันถึงบอกว่า เราต้องเลี่ยงการเผชิญหน้ากับพวก เขา...เฮ่อ...”

“ไม่มีที่ไหน...จะหลบได้...ต้องบอกว่า ข้าไม่อยากหนี แต่อยากชี้ชะตากับนางมากกว่า ที่นี่แหละ ในเมืองหลวงแห่งนี้ ช่วยข้าได้ไหม” ต๊อกมาน กล่าว

มีซิลสั่งให้ท่านซอวอน พยายามสอบเค้นจากท่านยองชุนและคิมซอยอน ยืนยันว่าพวกเขาคิดปองร้ายขุนนางผู้ใหญ่จริง ถ้าไม่มีปัญหา ลงโทษสถานหนักได้ อีกทั้งให้เค้นถามที่ซ่อนตัวของต๊อกมานจากคิมยูซินและไอชอง เพราะเขาทั้งสองเป็นคนสนิท น่าจะรู้ที่ซ่อนตัวแน่ พร้อมกับสั่งให้ชิซู ไปสอบปากคำคนที่พีดัมพามาช่วยต๊อกมานในวัง ถามให้รู้ว่านางอยู่ไหนแน่

“อีกไม่นานข้าจะออกประกาศ ในนามของพระราชา ให้จับองค์หญิงต๊อกมานในฐานะนักโทษอาญา แต่ว่า ต๊อกมาน...อาจจะต้องตายก่อน...เพราะขัดขืนการจับกุม ตายเพราะทำผิด กฎหมาย ไม่ยอมให้ทางการจับตัว นี่ก็คือ...จุดจบที่นางสมควรจะได้รับ” มีซิล กล่าว

คิมยูซิน ไอชอง และเหล่าองครักษ์ที่ถูกจับตัวไปถูกทรมานอย่างหนักเพื่อให้ยอมรับว่าองค์หญิงต๊อกมานเป็นคนออกคำสั่งให้ก่อการกบฏ แต่เมื่อไม่มีใครรับพวกเขาก็ต้องถูกทรมาน อย่างไร้ความปรานี

“นึกหรือว่า แค่นี้จะทำให้เรากลัวได้”

“ท่านซอวอน ท่านก็เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งหน่วยองครักษ์ ทำไมใช้วิธีสกปรกแบบนี้มาเล่นงานเราได้ หึ....”

“หึ ๆ ๆ ใช่ ข้ายอมรับว่าแผนนี้ต่ำช้าไปหน่อย แต่ว่าสิ่งที่เราทำก็เพื่อหนุนให้คน ๆ หนึ่งได้ครองราชย์ มันคืออำนาจ คนที่จะร่วมวง จำเป็นต้องคำนึงถึงความถูกต้องและเป็นธรรมอีกหรือ”

“หึ...ท่านอาจไม่คิด แต่ข้าคิด เพื่อราษฎร ของเรา เพื่อแคว้นชิลลา ต้องมีความชอบธรรม”

“หึ ๆ ๆ ชอบธรรมหรือ หึ....”

“อึ๊ด....โอ๊ย...” ไอชอง ถูกทรมานร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

“หึ...จะบ้าหรือไง ทำไมทำกันแบบนี้”

“บอกที่ซ่อนตัวขององค์หญิงมาเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่ยอมพูดความจริง ไอชองจะค่อย ๆ ตาย อย่างทรมานที่สุด...อึม...”

“พอได้แล้ว หยุดเดี๋ยวนี้ ข้าบอกให้หยุด พอที มาทำกับข้าดีกว่า ฮือ...เร็วซี่ บอกให้มาทางนี้ ฮือ...” คิมยูซิน กล่าว

ฮาจองมาขอร้องให้ยองชุนสารภาพว่าองค์หญิงต๊อกมานอยู่เบื้องหลังการก่อกบฏ เพื่อให้คิมยูซินต้องพ้นโทษ แต่เขาไม่ยอม ด้านต๊อกมานยอมเผชิญหน้ากับมีซิล เพราะ คิดว่าดีกว่าการหนีเอาตัวรอด ดังนั้นนางจึง ไปพบกับจูจิน พร้อมกับสาสน์ที่นางเขียน ขึ้นมา

“ในนามแห่งทายาทของฝ่าบาท องค์หญิงต๊อกมาน ขอแจ้งให้ขุนนางทั้งหลาย รวมทั้งราษฎรได้รับรู้โดยทั่ว...คนที่ใช้ทหารเพื่อจะก่อกบฏ และคุมตัวฝ่าบาทไว้ รวมทั้งยึดครองตราหยกโดยพละการ...ก็คือมีซิล เป็นแผนชั่วของนาง”

“องค์หญิง นี่มัน....จะทรงทำอะไรน่ะ” จูจิน กล่าว

“ข้าอยากรู้ว่า มีซิลให้อะไรแก่ท่านบ้าง”

“ตอนนี้ข้างนอกมีทหารถึง 5 พันคน แค่หม่อมฉันส่งเสียงเท่านั้น องค์หญิงจะไม่ได้ออกจากที่นี่อีกเลย”

“หึ...ใช่ หลังจากตัดหัวท่านจูจินแล้ว เราก็ต้องตายเหมือนกัน มีซิล...ให้อะไรแก่ท่านเป็นข้อแลกเปลี่ยน”

“หึ...โอ๊ะ...ให้เมืองซังจู ตำแหน่งเสนาบดีและที่ดินอีกหนึ่งหมื่นซก”

“ท่านช่วยให้นางได้ครองราชย์ ตัวเองกลับได้สิ่งตอบแทนแค่นี้เองหรือ” ต๊อกมาน กล่าว

“ให้นางได้ครองราชย์?”

“ใช่ นี่คือเป้าหมายของนาง ถึงเวลา นางจะขึ้นครองราชย์อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น ท่านน่าจะต่อรองประโยชน์ให้มากกว่านี้อีก....ถ้าตอนนี้เป็นข้าละก็ จะให้ท่านมากกว่านี้โดยไม่เกี่ยงเลย และสมควรจะได้ด้วย เพราะกว่านางจะชิงอำนาจมาได้ ท่านต้องลงทุนลงแรงมากกว่าใครพาทหารมาตั้งเท่าไหร่ เพราะฉะนั้น จะได้มากกว่านี้ก็สมควรแล้ว....แต่ว่า ถ้าการต่อรองไม่ได้ดั่งใจ ข้าขอเสนอว่า ให้โอกาสข้าซักครั้งได้ไหม”

“องค์หญิงต๊อกมาน ทรงเก่งเรื่องการแลกเปลี่ยนมาก” พีดัมชื่นชม ก่อนทำร้ายจูจิน จนสลบ

พีดัมไม่เข้าใจว่าทำไมต๊อกมานจะต้องเอาตัวเองไปเสี่ยงขนาดนั้น

“ได้ยินว่าสมัยก่อน พระเจ้าจินฮึงเคยถูกเสือกัดเข้าที่พระหัตถ์....แต่ตอนนั้นพระองค์ก็ทรงอดทน ไม่ดึงพระหัตถ์ออกจากปากเสือ กลับยื่นพระหัตถ์ที่มีมีด เข้าไปในคอเสือมากขึ้น”

“ดึงออกมามือก็ขาด งั้นสู้เข้าไปตัดหลอดลมของเสือให้รู้แล้วรู้รอด”

“ตอนนี้ สภาพของข้าก็ไม่ต่าง ไม่แน่ใจว่าท่านจูจินจะเป็นจุดมรณะของมีซิลหรือเปล่า แต่ก่อนจะหาพบจุดนั้น ข้าต้องยื่นมือเข้าไปให้ ลึกที่สุด ตอนนี้แวยาอยู่ที่ค่ายทหาร ไปบอก ให้เขาคอยติดต่อกับเราไว้ ส่วนเจ้ากับยอจงก็ช่วยกันวางแผนช่วยท่านยูซิน กับท่านไอชองออกมาให้ปลอดภัย หลังจากนั้น ค่อยพาชุนชูหลบ หนีไป”

“ทำไมต้องพาเขาหนีไป” พีดัม สงสัย

“ระหว่างเขากับข้า สองคนนี้ จะต้องมีคนหนึ่งที่อยู่รอด”

“ได้ หม่อมฉันเข้าใจแล้ว”

มีซิลไปพบพระเจ้าจินพยองที่ถูกคุมขังอยู่ เพื่อขอให้มอบอำนาจให้กับนาง แต่พระเจ้า จินพยองไม่ร่วมมือด้วย

“มาจนถึงวันนี้...เพิ่งนึกได้ว่าตัวเองอยากครองราชย์งั้นหรือ...ถ้าเจ้าคิดได้เร็วกว่านี้หน่อย ข้าคงไม่ต้องทิ้งต๊อกมานไป...แถมยังทำให้ชอนมยองอายุสั้นด้วย หึ....เจ้าก็ไม่ต้องตัดขาดกับลูกชายตัวเอง หึ...แต่แล้ว มาจนถึงวันนี้ เพิ่งจะคิดได้...หึ...เฮ่อ...ไม่รู้สึกว่าช้าไปหน่อยหรือ” พระเจ้าจินพยอง กล่าว

“ใช่ หม่อมฉันก็ว่าช้าไปหน่อย”

“เจ้าไม่เคยหวังในสิ่งนี้ แต่จู่ ๆ ก็คิดจะมา....ทำลายความฝันของคนอื่นด้วยใช่ไหม”

“ฝ่าบาทเพคะ...ฝ่าบาท ๆ...ทรงเป็นไงบ้าง...”

“แต่ก็ช่วยไม่ได้อยู่ดี เพราะสิ่งนี้ ทำให้หม่อมฉันอยู่ไม่เป็นสุข...กับตำแหน่งราชินี” มีซิล กล่าว

มีซิลประกาศให้ขุนนางทุกคนได้รับรู้ทั่วกันว่า ผลการไต่สวนท่านยองชุน รวมทั้งคิมซอยอนและคิมยูซินได้ข้อสรุปออกมาเรียบร้อย ผู้อยู่เบื้องหลังวางแผนลอบสังหารใต้เท้าเซจองก็คือองค์หญิงต๊อกมาน...ฝ่าบาทจึงทรงเห็นว่า นางเป็นถึงองค์หญิง แต่กลับเป็นผู้นำกลุ่มคนที่มุ่งร้ายหวังทำลายรากฐานการปกครองของเรา ด้วยเหตุนี้จึงให้เร่งจับกุมองค์หญิงมาลงโทษซะ ส่วนผู้ที่สมรู้ร่วมคิดก็ให้ถอดถอนจากตำแหน่งและรับการไต่สวนไปตามความผิด และจากนี้ เราจะมีหน่วยงานใหม่ ทำหน้าที่ปกป้องราชสำนักในชื่อว่าหน่วยความมั่นคง

“หน่วยความมั่นคงอะไรกัน”

“หน่วยความมั่นคงนี้ จะนำโดยท่าน เซจอ เจ้ากรมทหาร ท่านซอวอน รวมทั้งข้าอีกคนเป็นผู้บัญชาการ ทำงานขึ้นตรงต่อฝ่าบาท มีฐานะเหนือกว่าสภาขุนนางอีกขั้นหนึ่ง ที่สำคัญหน่วยงานนี้ ยังมีหน้าที่ในการไต่สวนผู้กระทำความผิด คิดร้ายต่อบ้านเมือง และใครก็ตามที่ส่อแววเป็นภัยต่อราชสำนัก เนื่องจากฝ่าบาทมีปัญหาด้านพระอนามัย จึงให้ข้ามีซิลรับผิดชอบ ดูแลหน่วยงานนี้อย่างเต็มตัว” มีซิล กล่าว ทำให้ขุนนางบางคนฟังแล้วตกใจ เพราะตรงกับคำพูดของต๊อกมานที่บอกว่ามีซิลจะขึ้นครองราชย์

“แต่มีเรื่องหนึ่ง....มีเรื่องหนึ่ง ข้าอยาก ถามให้แน่ใจ”

“ได้ เชิญท่านว่ามาได้”

“แล้วเราก็จะเชื่อฟังท่าน”

“ได้ เชิญพูดมาก่อน”

“ฝ่าบาททรงประชวร ไม่ทราบว่าหนักหนาแค่ไหน ทั้งหมดนี้เป็นพระประสงค์จริงหรือเปล่า นี่คือสิ่งที่ข้าอยากรู้”

“เอาเถอะ ท่านสงสัยอะไรก็ว่ามา”

“แม้ว่าจะมีราชโองการที่มีตราประทับ ของฝ่าบาท แต่องค์หญิงต๊อกมาน เป็นพระธิดาองค์เดียวของฝ่าบาท สายพระโลหิตโดยแท้ ...โอ๊ะ...”

“ขออภัยที่ตอนนี้ข้ารู้สึกอารมณ์ไม่ดี จึงไม่อยากคำนึงถึงมารยาท,ขอพูดกับทุกท่านตรง ๆ ....ที่แล้วมาท่านทั้งหลายเคยทำอะไรไว้บ้าง ขณะที่ขุนนางมัวแต่ห่วงผลประโยชน์ตัวเอง เอาตัวรอด ทำงานผัดผ่อนไปวัน ๆ นั้น ข้ามีซิล ได้ช่วยเหลือพระเจ้าจินฮึงพระเจ้าจินจิและรวมถึง....พระราชาองค์ปัจจุบัน ปกป้องบ้านเมืองอยู่ตลอดเวลาไม่เคยหยุดหย่อน ....รัชทายาทของฝ่าบาท สายพระโลหิตโดยแท้น่ะหรือ เคยทำอะไรเป็นเรื่องเป็นราวบ้างมั้ย ไม่มีเลย มีแต่ข้าเท่านั้น เพราะข้าทุ่มเทแรงกายแรงใจทำนุบำรุงบ้านเมืองและรักษาความสงบมาตลอด....ถ้าใครคิดว่าข้าไม่มีผลงาน ก็ขอให้พูดมาตรง ๆ ไม่ต้องอ้อมค้อม....ถ้าไม่มีละก็ ตั้งแต่วันนี้ไป เรื่องรัชทายาท สายพระโลหิตโดยแท้ ใครก็อย่าพูดให้ข้าได้ยิน นี่คือทางเลือกที่ชาญฉลาด...ข้ามีซิล ขอประกาศในนามแห่งพระราชาชิลลา จะใช้กฎความมั่นคง นับแต่นี้ในเมืองหลวงซอนาบู ห้ามมีการชุมนุมเกินกว่า 5 คนขึ้นไป และนอกจากทหารแล้ว ใครก็ห้ามพกอาวุธติดตัว....ได้ยินหรือเปล่า” มีซิล กล่าว

เรื่องการประกาศของมีซิลสร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันก็มีแผ่นประกาศจากองค์หญิงต๊อกมานให้จับตัวมีซิล แต่ยังไม่ทันที่จะคลายความสงสัย พวกชาวบ้านก็ถูกคุมตัวไป ข้อหาที่ชุมนุมกันเกิน 5 คน

ซอวอนสั่งให้ซกพุงกับปาร์คอึยไปดูแล กรมทหารแทนเขา พร้อมกับให้ส่งทหารไปเฝ้ายามทุกแห่ง โดยเฉพาะบ้านขุนนางและบรรดาเชื้อพระวงศ์ทั้งหลาย

“องครักษ์อื่นมีอะไรเคลื่อนไหวหรือเปล่า”

“จนวันนี้ยังไม่มีครับ” ซกพุง รายงาน

“ดูไปอีกซักพัก ถ้าเห็นอะไรผิดปกติ รีบมารายงานข้า”

“ครับ”

“อยู่ดี ๆ ให้ส่งทหารไปเฝ้าตามบ้านขุนนางฝ่าบาททรงเห็นชอบจริงหรือเปล่า จนวันนี้ยังไม่มีใครได้เห็นพระพักตร์เลย”

“นี่เป็นคำสั่งท่านเซจู สิ่งที่นางทำ ไม่เคยผิดต่อความชอบธรรม” ซกพุง กล่าว

จูจินมาพบกับมีซิล นางมอบตำแหน่งเสนาบดีให้เขาตามที่เคยตกลงกันไว้ พร้อมทั้งให้มาประจำการในเมืองหลวง

“ท่านเซจูจะให้พ่อเป็นเสนาบดี”

“ถ้าอย่างงั้น ต่อไปท่านจะมาอยู่เมืองหลวงคนเดียวหรือครับ....แล้วกำลังทหารของเราล่ะ”

“เป็นที่รู้กันว่าในเมืองหลวงห้ามมีทหารพกอาวุธ ไพร่พลของเราก็ต้องให้อยู่เมืองซังจูไปก่อน” จูจิน กล่าว

“นี่ก็แปลว่า....”

“นางกำลังตัดแข้งตัดขาของเรา...หึ...”

“ถึงเวลา นางจะขึ้นครองราชย์อย่างแน่นอน” ต๊อกมาน เข้ามาทำให้จูจินตกใจ

“องค์หญิงต๊อกมาน หึ...”

ซอวอนรู้ว่าชิซูมีแผนตามหาต๊อกมาน ด้วยการปล่อยคนของยอจงออกมาจากที่คุมขัง และสะกดรอยตามคน ๆ นั้นไป

“คน ๆ นั้นใช่ไหม”

“ครับ มันเป็นลูกน้องเจ้ายอจง ตอนถูกซ้อมแกล้งทำเป็นลม เราก็ทำเป็นว่าเขาตายแล้ว เอามาโยนทิ้งพร้อมกัน”

“เราหลอกเขาได้แน่ มันไม่รู้ตัวล่ะ”

“ครับ คนอื่นก็เตี๊ยมไว้หมด ไม่มีใครมีพิรุธ มันไปทางโน้นแล้ว”

“หึ....นายท่าน โอย....”

“กิดชอน ทำไมเจ้าถึง....” ยอจง กล่าวเมื่อเห็นลูกน้องตัวเองเจ็บหนัก

“โอย....”

“อ้าว....กิดชอน ๆ”

“รีบไปดูข้างนอกก่อน มีใครสะกดรอยตามหรือเปล่า”

“ครับ”

จุปังสามารถพาโซวาหนีออกมาจากห้องลับของมีซิลได้ จากนั้นเขาจึงพานางไปสมทบกับต๊อกมานที่ยังหลบซ่อนตัวอยู่ในวังหลวง เพราะต้องการรอเวลาที่จะเข้าไปช่วยคิมยูซิน และไอชอง ด้วยการปลอมตัวเป็นหน่วยพยาบาลเข้าไป แต่มีซิลรู้แผนการนี้เข้าซะก่อน

“ปลอมตัวเข้ามาเพื่อจะช่วยยูซินกับไอชองงั้นหรือ”

“ใช่ ปลอมเป็นทหารฝ่ายพยาบาล”

“มีทั้งหมดกี่คน”

“น่าจะ 6 คนได้”

“ปล่อยตัวยูซินออกไปซะ” มีซิล สั่ง

“ครับ ข้าทราบแล้ว”

คิมยูซินและพวกแกล้งทำเป็นตาย จึงถูกนำตัวมาทิ้ง ขณะเดียวกันชิซูก็แอบตามคนของยอจงมายังที่กบดานของต๊อกมาน

“ไม่ต้องสนใจคนอื่น ที่สำคัญ...คือองค์หญิงคนเดียว”

“ถ้าอย่างงั้น....”

“ส่งคนทั้งหมด ล้อมที่นั่นเอาไว้” ชิซูสั่งคนล้อมที่ซ่อนตัวของต๊อกมาน

“ครับ....ไปล้อมไว้”

คิมยูซินและพวกใช้แผนแกล้งตาย หลบออกมาได้สำเร็จ จึงรีบไปสมทบกับต๊อกมาน

“องค์หญิง”

“ท่านยูซิน”

“นั่นใครน่ะ” ซอแจ ได้ยินเสียงดังจากด้านนอก

“เฮ้ย...ระวัง...มีคนบุกรุก...พวกไหนน่ะ...ป้องกันไว้เร็ว...ย้าก...”

“โอ๊ะ...หึ...องค์หญิง แย่แล้วพ่ะย่ะค่ะ เราถูก...พวกทหารล้อมไว้หมดแล้ว โอย...”

“หา....หึ....” ต๊อกมานตกใจ

ขณะที่มีซิล เมื่อรู้ว่าพวกต๊อกมานถูกคนของนางล้อมไว้ได้แล้วก็พอใจไม่น้อย และคิดว่าถึงเวลาที่จะจบเรื่องของเราได้แล้ว






................จบตอนที่ 46...............



เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 45



Queen Seon Deok ( 善德女王/ 선덕여왕)
เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 45
Cr. : Dailynews Online



“แต่ว่า เราไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน แล้วจะให้....”

“ไม่งั้นเราจะรอขุนนางที่ไม่รับผิดชอบและไม่รู้เวลา มาทำให้เสียงานใหญ่ของบ้านเมืองได้หรือ” ขุนนาง อีกคนกล่าว

“หึ....ที่สำคัญ เรามีตราประทับของพวกเขาที่รับรู้ว่าจะมีการประชุมแล้ว” ฮาจอง กล่าว

“งั้นก็ถือเป็นกรณีพิเศษ ให้ทุกคนที่มาประชุมพร้อมหน้าในวันนี้ แสดงความคิดเห็นก็พอแล้ว” เซจอง กล่าว

“นั่นสิครับ เรื่องอะไรต้องไปรอพวกเขาอีก ข้าเห็นด้วย” ฮาจอง กล่าว

“เกี่ยวกับกฎหมายการประชุมขุนนาง ไม่มีข้อไหนที่บอกว่าต้องให้ครบองค์ประชุมซะก่อน มีแต่บอกว่า ต้องลงมติเป็นเอกฉันท์ถึงจะผ่านกฎหมายได้จริงมั้ย” มีเซ็ง กล่าว

“ข้าก็เห็นด้วย”

“ใช่ ข้าก็เห็นด้วยเหมือนกัน”

“หึ....งั้นก็ตามใจ”

“ถ้าอย่างงั้น เราจะเริ่มการประชุมเกี่ยว กับหัวข้อดังต่อไปนี้....”

เมื่อคิมยูซิน รู้ว่ามีขุนนางเข้าประชุมเพียง 8 คน แต่ก็ยังมีการดึงดันเปิดประชุมอีกก็ไม่พอใจ

“ประเด็นก็คือถกเรื่องบทบาทขององค์หญิง” ไอชอง กล่าว

“ครับ แล้วจะทำไงดี” กุกซอน ถาม

“ทำแบบนี้มันถูกที่ไหน ทำไมไม่มีท่านยองชุนกับใต้เท้าคิมเข้าร่วมด้วยล่ะ”

“เอ่อ....หรือว่า....”

“ท่านยูซิน ได้ยินว่าเมื่อคืนนี้ ใต้เท้าคิมดื่มเหล้ากับท่านฮาจองจนดึกมาก ใช่หรือเปล่า”

“หรือว่า จงใจทำให้พ่อข้าเมาเหล้า จากนั้นก็ให้ขุนนาง 8 คน ผ่านความเห็นชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้” คิมยูซิน กล่าว

“ช่างเป็นการกระทำที่ต่ำช้านัก เป็นถึงองครักษ์แท้ ๆ ยังไปรวมหัวกับพวกขุนนางอีก” ไอชอง กล่าว

“ถ้าอย่างงั้น ตอนนี้ท่านยองชุนกับใต้เท้าคิมอยู่ไหน”

เมื่อพีดัมรู้ว่า ที่ยอจงจับตัวตนเองมาเป็นแผนของมีซิลก็สอบถาม

“นี่....ตอบข้ามาเร็ว มีแผนชั่วอะไรอีก”

“ไม่มีแผนต่างหากถึงได้ทำแบบนี้ อย่างน้อยข้าก็ต้องใช้ความคิดบ้างซี่”

“คนอย่างท่านจะมีความคิดอะไร”

“หึ....ข้อหนึ่งคือ เจ้าเป็นใคร ทำไมท่านมีซิลต้องมาสั่งการด้วยตัวเอง ถึงข้าจะเคยทำงานให้พวกเขามาบ้าง แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่มีซิลจะออกหน้าด้วยตัวเอง หึ....”

“หึ....”

“และข้อสอง นางบอกว่าวันนี้กับพรุ่งนี้ หึ....ข้าสงสัยว่าต้องเกิดอะไรขึ้นแน่ หึ...แต่จะเป็นเรื่องอะไรได้ หึ...”

“หรือว่า มีซิลคิดจะ...หึ...แก้มัดเร็ว แก้มัดให้ข้าเดี๋ยวนี้” พีดัม กล่าว

“ถ้าปล่อยเจ้าได้ง่าย ๆ ข้าคงไม่นั่งเก๊ก ซิมอยู่นี่หรอก เฮ่ย....”

“พูดไม่ฟังใช่ไหม”

“เลิกกดดันข้าซะทีเถอะ ข้ารู้ว่าการจับเจ้าเท่ากับฆ่าตัวเองทางอ้อม แต่ถ้าปล่อยเจ้าก็ต้องเป็นศัตรูกับท่านมีซิลแล้วใครจะกล้าล่ะ”

“นี่แปลว่าอยากตายใช่ไหม บอกให้ แก้มัดเดี๋ยวนี้ไง”

“เอ่อ.....ฮือ....คือ...เจ้าก็เกลี้ยกล่อมข้าซี่ บอกว่าถึงปล่อยเจ้าก็ไม่ต้องกลัวที่จะเป็นศัตรูกับมีซิล ข้าจะได้วางใจไง ฮือ...”

ด้านคิมซอยอน และ ยองชุน เมื่อเดินทางมาถึงที่ประชุมขุนนาง แต่ก็ไม่ได้เข้าประชุมถูกทหารของมีซิลขัดขวางไว้ แทพุงจึงนำเรื่องนี้มาบอกคิมยูซิน

“มีทหารมาขวางหรือ ท่านยูซิน เราจะไม่ทำอะไรบ้างหรือไง ช่างเป็นการกระทำที่น่าประณามที่สุด” ไอชอง กล่าว

“จุปัง โกโต ไปทูลองค์หญิงให้ทรงทราบ เกี่ยวกับเรื่องนี้ และรอฟังคำบัญชา” คิมยูซิน สั่ง

“ครับ”

“ยังมีอีก องครักษ์ทั้งหลาย ทุกคนตามข้ามา”

“ครับ”

เมื่อองค์หญิงต๊อกมานรู้วิธีการของมีซิล ก็ปรึกษาหารือกัน

“เป็นการกระทำที่ต่ำช้านัก ขวางไม่ให้คนอื่นเข้าประชุม ในขณะที่ตัวเองก็รวมหัวลงมติอย่างลับ ๆ” แวยา กล่าว

“ช่างเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริง ๆ...ว่ามีซิล..นางจะกล้าใช้วิธีสกปรกแบบนี้ ข้าไม่เชื่อว่านางจะทำได้” องค์หญิงต๊อกมาน ตรัส

“อันที่จริง ธาตุแท้ของนางคือแบบนี้อยู่แล้ว หึ...มีแต่องค์หญิงเท่านั้น ที่ประเมินค่านางสูงเกินไป” ชุนชู กล่าว

“นี่ไม่ใช่เวลาจะมาถกเถียง เราต้องรีบยับยั้งเรื่องนี้ซะ” ซอแจ กล่าว

“ทำแบบนี้ ข้าว่ายิ่งดีซะอีก...เกี่ยวกับเรื่องการเก็บส่วย ทั้งขุนนางระดับล่างและราษฎรต่างชื่นชมความคิดขององค์หญิงเป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกัน สภาขุนนางกลับสวนกระแส ลงมติที่ตรงกันข้าม แค่นี้ก็ถือว่าแย่แล้ว ที่สำคัญ ยังกีดกันไม่ให้ขุนนางเข้าประชุมอีก หึ....แล้วสุดท้ายผลจะเป็นไง” ชุนชู กล่าว
ฮาจองรีบมาดูท่านเซจองที่ถูกลอบทำร้าย ด้านจูจินเมื่อเห็นว่าท่านเซจองถูกทำร้าย ก็สั่งให้ทหารเตรียมพร้อมเดินหน้าเข้าวังหลวง เพื่อปราบปรามคนที่คิดปองร้าย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นคือ การก่อกบฏ

“นี่คือการก่อกบฏ...โดยมีซิล...เป็นต้น คิด” ต๊อกมานเดาความคิดมีซิลไว้ไม่ผิด

ขณะที่มีการต่อสู้กันอย่างหนัก โพจอง บอกยิมจงว่า ขณะที่ขุนนางทั้งหลายเดินออกจากห้องประชุม มีคนลอบสังหารท่านเซจอง โดยมีท่านยูซินกับท่านไอชองเป็นผู้นำ พาองครักษ์พกอาวุธเข้าไปถึงห้องประชุมขุนนาง และตอนนี้กำลังต่อสู้อยู่

“ท่านยูซินกับท่านไอชองน่ะหรือ”

“แล้วท่านเซจองล่ะ”

“อาการเขาเป็นไงบ้าง”

“ตอนนี้กำลังช่วยอยู่” โพจอง กล่าว

“แต่ยังไงก็ฟังไม่ขึ้น ทำไมท่านยูซิน ต้องคิดปองร้ายท่านเซจองด้วยล่ะ”

“สาเหตุเบื้องหลังยังต้องไต่สวนอีกที แต่ประเด็นในการประชุมวันนี้ คือต้องการให้องค์หญิงทรงวางมือจากราชกิจทั้งปวง แสดงว่าผู้บงการอาจเป็นองค์หญิงก็ได้...เพราะฉะนั้น ท่านชิซูให้พวกเจ้ารออยู่นี่ เพื่อจะฟังคำสั่งต่อไป อย่าเพิ่งทำอะไรวู่วามล่ะ” โพจอง กล่าว

มหาดเล็กเข้ามาทูลให้พระเจ้าจินพยองทราบว่าตอนนี้ด้านนอกเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว และอยากให้พระองค์เสด็จออกจากตำหนักก่อน ด้านแทนัมโพมาพบองค์หญิงต๊อกมาน เพื่อทูลเชิญไปเข้าเฝ้าฝ่าบาท

“ฝ่าบาทมีรับสั่งให้ไปเข้าเฝ้า หม่อมฉันจะคุ้มกันไปตำหนักยินคังเดี๋ยวนี้”

“น่าแปลก ทำไมฝ่าบาทให้เจ้ามาส่งข่าวล่ะ” องค์หญิงต๊อกมาน กล่าว

“รีบเสด็จเร็วเข้า”

ซอวอนถือสิทธิเข้ามาคุมตัวขุนนางผู้ใหญ่ไว้ โดยอ้างว่าเป็นเพราะพวกเขาถืออาวุธเข้ามาในที่ประชุม ทำลายกฎของราชสำนัก ถึงขนาดให้คนปองร้ายท่านเซจอง

“เราไม่เคยคิดร้าย ไม่มีใครทำร้ายท่าน เซจองแน่นอน” คิมยูซิน กล่าว

“จริงเท็จยังไงต้องรอไต่สวนถึงจะรู้ ตอนนี้ยอมให้จับก่อนเถอะ”

“นี่เป็นหลุมพรางชัด ๆ เราหลงกลพวกเขาเข้าแล้ว”

“พวกเจ้าถืออาวุธเข้ามา ยังกล้าปฏิเสธอีกหรือ....คุมตัวพวกเขาไปที่กรมอาญาให้หมด”

“ครับ”

“บังอาจนัก ไม่มีพระบัญชาจากฝ่าบาท ใครกล้ามาจับขุนนางผู้ใหญ่” ยองชุน กล่าว

“ใช่แล้ว แม้ว่าเมื่อกี้จะเกิดเหตุอันน่าเศร้ากับท่านเซจองก็จริง แต่ฝ่าบาทยังไม่ทรงทราบเรื่อง พวกเจ้าจะมาจับขุนนางผู้ใหญ่ มิเท่ากับผิดกฎหมายเห็น ๆ หรอกหรือ”

“ถ้ามีหมายจับที่ฝ่าบาททรงประทับตราด้วยพระองค์เอง ก็เอาออกมาได้ แต่ถ้าไม่มีละก้อ ใครก็ไม่มีสิทธิมาจับเรา”

“แต่ถ้าจะใช้กำลังละก็ พวกเรา....เห็นจะไม่ยอมจำนนง่าย ๆ แน่”

“งั้นก็ได้ ข้าจะไปทูลให้ฝ่าบาททรงทราบ แต่ระหว่างนี้ ใครก็ห้ามออกจากที่นี่แม้แต่คนเดียว” ซอวอน กล่าว

มีซิลวางแผนเตรียมให้คนไปขโมยตราหยกของพระเจ้าจินพยอง เพื่อลงประทับตราในการจับกุมผู้ต้องหาที่คิดก่อการกบฏ โดยจะโยนความผิดให้ต๊อกมานเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง นางจึงให้คนคุมตัวต๊อกมานไปที่ตำหนักยินคัง ด้านพระเจ้าจินพยองอ่านเกมของมีซิลออก จึงพาทุกคนหนีไปซ่อนตัวในที่ปลอดภัย ด้านโซวาเสนอตัวเป็นผู้นำตราหยกออกจากตำหนัก เพื่อหนีการช่วงชิงของมีซิล

“ฝ่าบาท ถ้าไง ให้หม่อมฉันเอาตราหยกหนีไปมั้ยเพคะ...คงไม่มีใคร...สามารถทำได้เหมือนหม่อมฉัน”

“แต่ว่า เจ้าจะมีวิธีหนีออกจากวังได้ยังไง”

“หึ...ได้ยินว่า ในวังมีทางลับที่จะออกไปข้างนอกได้ไม่ใช่หรือเพคะ เพราะฉะนั้น เราถึงมาหลบภัยที่นี่ก่อน”

“แต่ว่า ทางลับนั่น มีซิลก็รู้ว่ามันอยู่ ที่ไหน”

“ถ้าไงหม่อมฉัน ขอบังอาจทูลว่า ให้ฝ่าบาททรงเป็นเหยื่อล่อก็พอ” โซวา กล่าว

มีซิลเป็นห่วงอาการของท่านเซจอง แต่มีเซ็งว่า กำลังรักษาอยู่ คิดว่าน่าจะปลอดภัยในไม่ช้า

“ฝ่าบาทล่ะ”

“กำลังหาอยู่ครับ อีกไม่นานคงเจอ ยังไงก็อยู่ในตำหนักยินคังอยู่แล้ว เว้นแต่ฝ่าบาทจะกลายเป็นนก หรือไม่ก็เป็นขอมดำดิน เฮ่อ ๆ ๆ”

“ทางออกทุกเส้นทางของตำหนักยินคัง ส่งทหารไปเฝ้าหมดหรือเปล่า” มีซิล ถาม

“มีท่านชิซูคอยบัญชาการอยู่ พี่ใหญ่ไม่ต้องห่วงไปหรอก”

“ท่านเซจู...ท่านยองชุนบอกว่า ถ้าไม่มี พระบัญชา จะจับขุนนางผู้ใหญ่ไม่ได้ เลยขัดขืนอยู่น่ะครับ เราจะทำไงต่อดี” ซกพุง กล่าว

“ถามได้ ก็ไปจับมาให้หมดนั่นแหละ”

“ไม่ได้ บอกพวกเขาว่ารอเดี๋ยวก่อน” มีซิล ห้ามไว้

“ครับ” ซกพุงรับคำสั่งก่อนออกไป

“ยองชุนหรือ”

“ข้าจะไปเข้าเฝ้าและทูลให้ทรงทราบเอง”

“อะไรนะ”

“ส่วนเจ้ารับหน้าที่...คอยต้อนรับองค์หญิงต๊อกมาน” มีซิล กล่าว

จุปังและโกโตกระวนกระวาย เมื่อเห็นว่าองค์หญิงต๊อกมานกำลังถูกคุมตัวไป อีกทั้งตอนนี้ในวังกำลังยุ่งเหยิงไปหมด เลยไม่รู้จะช่วยองค์หญิงต๊อกมานได้อย่างไร

“โกโต เกิดมาข้าไม่เคยเห็นใครเป็นจอมพลังเหมือนอย่างเจ้า ไม่ต้องกลัว อย่าคิดว่านี่คือการประลอง นึกว่าเป็นการล่าสัตว์” ยูซิน กล่าว

“ครับ”

“จุปัง”

“หา...”

“เจ้าเป็นคนฉลาดมีไหวพริบ พยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญซึ่งหน้า สู้แบบใช้สมองหน่อย”







..............จบตอนที่ 45.............