วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 45



Queen Seon Deok ( 善德女王/ 선덕여왕)
เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 45
Cr. : Dailynews Online



“แต่ว่า เราไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน แล้วจะให้....”

“ไม่งั้นเราจะรอขุนนางที่ไม่รับผิดชอบและไม่รู้เวลา มาทำให้เสียงานใหญ่ของบ้านเมืองได้หรือ” ขุนนาง อีกคนกล่าว

“หึ....ที่สำคัญ เรามีตราประทับของพวกเขาที่รับรู้ว่าจะมีการประชุมแล้ว” ฮาจอง กล่าว

“งั้นก็ถือเป็นกรณีพิเศษ ให้ทุกคนที่มาประชุมพร้อมหน้าในวันนี้ แสดงความคิดเห็นก็พอแล้ว” เซจอง กล่าว

“นั่นสิครับ เรื่องอะไรต้องไปรอพวกเขาอีก ข้าเห็นด้วย” ฮาจอง กล่าว

“เกี่ยวกับกฎหมายการประชุมขุนนาง ไม่มีข้อไหนที่บอกว่าต้องให้ครบองค์ประชุมซะก่อน มีแต่บอกว่า ต้องลงมติเป็นเอกฉันท์ถึงจะผ่านกฎหมายได้จริงมั้ย” มีเซ็ง กล่าว

“ข้าก็เห็นด้วย”

“ใช่ ข้าก็เห็นด้วยเหมือนกัน”

“หึ....งั้นก็ตามใจ”

“ถ้าอย่างงั้น เราจะเริ่มการประชุมเกี่ยว กับหัวข้อดังต่อไปนี้....”

เมื่อคิมยูซิน รู้ว่ามีขุนนางเข้าประชุมเพียง 8 คน แต่ก็ยังมีการดึงดันเปิดประชุมอีกก็ไม่พอใจ

“ประเด็นก็คือถกเรื่องบทบาทขององค์หญิง” ไอชอง กล่าว

“ครับ แล้วจะทำไงดี” กุกซอน ถาม

“ทำแบบนี้มันถูกที่ไหน ทำไมไม่มีท่านยองชุนกับใต้เท้าคิมเข้าร่วมด้วยล่ะ”

“เอ่อ....หรือว่า....”

“ท่านยูซิน ได้ยินว่าเมื่อคืนนี้ ใต้เท้าคิมดื่มเหล้ากับท่านฮาจองจนดึกมาก ใช่หรือเปล่า”

“หรือว่า จงใจทำให้พ่อข้าเมาเหล้า จากนั้นก็ให้ขุนนาง 8 คน ผ่านความเห็นชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้” คิมยูซิน กล่าว

“ช่างเป็นการกระทำที่ต่ำช้านัก เป็นถึงองครักษ์แท้ ๆ ยังไปรวมหัวกับพวกขุนนางอีก” ไอชอง กล่าว

“ถ้าอย่างงั้น ตอนนี้ท่านยองชุนกับใต้เท้าคิมอยู่ไหน”

เมื่อพีดัมรู้ว่า ที่ยอจงจับตัวตนเองมาเป็นแผนของมีซิลก็สอบถาม

“นี่....ตอบข้ามาเร็ว มีแผนชั่วอะไรอีก”

“ไม่มีแผนต่างหากถึงได้ทำแบบนี้ อย่างน้อยข้าก็ต้องใช้ความคิดบ้างซี่”

“คนอย่างท่านจะมีความคิดอะไร”

“หึ....ข้อหนึ่งคือ เจ้าเป็นใคร ทำไมท่านมีซิลต้องมาสั่งการด้วยตัวเอง ถึงข้าจะเคยทำงานให้พวกเขามาบ้าง แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่มีซิลจะออกหน้าด้วยตัวเอง หึ....”

“หึ....”

“และข้อสอง นางบอกว่าวันนี้กับพรุ่งนี้ หึ....ข้าสงสัยว่าต้องเกิดอะไรขึ้นแน่ หึ...แต่จะเป็นเรื่องอะไรได้ หึ...”

“หรือว่า มีซิลคิดจะ...หึ...แก้มัดเร็ว แก้มัดให้ข้าเดี๋ยวนี้” พีดัม กล่าว

“ถ้าปล่อยเจ้าได้ง่าย ๆ ข้าคงไม่นั่งเก๊ก ซิมอยู่นี่หรอก เฮ่ย....”

“พูดไม่ฟังใช่ไหม”

“เลิกกดดันข้าซะทีเถอะ ข้ารู้ว่าการจับเจ้าเท่ากับฆ่าตัวเองทางอ้อม แต่ถ้าปล่อยเจ้าก็ต้องเป็นศัตรูกับท่านมีซิลแล้วใครจะกล้าล่ะ”

“นี่แปลว่าอยากตายใช่ไหม บอกให้ แก้มัดเดี๋ยวนี้ไง”

“เอ่อ.....ฮือ....คือ...เจ้าก็เกลี้ยกล่อมข้าซี่ บอกว่าถึงปล่อยเจ้าก็ไม่ต้องกลัวที่จะเป็นศัตรูกับมีซิล ข้าจะได้วางใจไง ฮือ...”

ด้านคิมซอยอน และ ยองชุน เมื่อเดินทางมาถึงที่ประชุมขุนนาง แต่ก็ไม่ได้เข้าประชุมถูกทหารของมีซิลขัดขวางไว้ แทพุงจึงนำเรื่องนี้มาบอกคิมยูซิน

“มีทหารมาขวางหรือ ท่านยูซิน เราจะไม่ทำอะไรบ้างหรือไง ช่างเป็นการกระทำที่น่าประณามที่สุด” ไอชอง กล่าว

“จุปัง โกโต ไปทูลองค์หญิงให้ทรงทราบ เกี่ยวกับเรื่องนี้ และรอฟังคำบัญชา” คิมยูซิน สั่ง

“ครับ”

“ยังมีอีก องครักษ์ทั้งหลาย ทุกคนตามข้ามา”

“ครับ”

เมื่อองค์หญิงต๊อกมานรู้วิธีการของมีซิล ก็ปรึกษาหารือกัน

“เป็นการกระทำที่ต่ำช้านัก ขวางไม่ให้คนอื่นเข้าประชุม ในขณะที่ตัวเองก็รวมหัวลงมติอย่างลับ ๆ” แวยา กล่าว

“ช่างเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริง ๆ...ว่ามีซิล..นางจะกล้าใช้วิธีสกปรกแบบนี้ ข้าไม่เชื่อว่านางจะทำได้” องค์หญิงต๊อกมาน ตรัส

“อันที่จริง ธาตุแท้ของนางคือแบบนี้อยู่แล้ว หึ...มีแต่องค์หญิงเท่านั้น ที่ประเมินค่านางสูงเกินไป” ชุนชู กล่าว

“นี่ไม่ใช่เวลาจะมาถกเถียง เราต้องรีบยับยั้งเรื่องนี้ซะ” ซอแจ กล่าว

“ทำแบบนี้ ข้าว่ายิ่งดีซะอีก...เกี่ยวกับเรื่องการเก็บส่วย ทั้งขุนนางระดับล่างและราษฎรต่างชื่นชมความคิดขององค์หญิงเป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกัน สภาขุนนางกลับสวนกระแส ลงมติที่ตรงกันข้าม แค่นี้ก็ถือว่าแย่แล้ว ที่สำคัญ ยังกีดกันไม่ให้ขุนนางเข้าประชุมอีก หึ....แล้วสุดท้ายผลจะเป็นไง” ชุนชู กล่าว
ฮาจองรีบมาดูท่านเซจองที่ถูกลอบทำร้าย ด้านจูจินเมื่อเห็นว่าท่านเซจองถูกทำร้าย ก็สั่งให้ทหารเตรียมพร้อมเดินหน้าเข้าวังหลวง เพื่อปราบปรามคนที่คิดปองร้าย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นคือ การก่อกบฏ

“นี่คือการก่อกบฏ...โดยมีซิล...เป็นต้น คิด” ต๊อกมานเดาความคิดมีซิลไว้ไม่ผิด

ขณะที่มีการต่อสู้กันอย่างหนัก โพจอง บอกยิมจงว่า ขณะที่ขุนนางทั้งหลายเดินออกจากห้องประชุม มีคนลอบสังหารท่านเซจอง โดยมีท่านยูซินกับท่านไอชองเป็นผู้นำ พาองครักษ์พกอาวุธเข้าไปถึงห้องประชุมขุนนาง และตอนนี้กำลังต่อสู้อยู่

“ท่านยูซินกับท่านไอชองน่ะหรือ”

“แล้วท่านเซจองล่ะ”

“อาการเขาเป็นไงบ้าง”

“ตอนนี้กำลังช่วยอยู่” โพจอง กล่าว

“แต่ยังไงก็ฟังไม่ขึ้น ทำไมท่านยูซิน ต้องคิดปองร้ายท่านเซจองด้วยล่ะ”

“สาเหตุเบื้องหลังยังต้องไต่สวนอีกที แต่ประเด็นในการประชุมวันนี้ คือต้องการให้องค์หญิงทรงวางมือจากราชกิจทั้งปวง แสดงว่าผู้บงการอาจเป็นองค์หญิงก็ได้...เพราะฉะนั้น ท่านชิซูให้พวกเจ้ารออยู่นี่ เพื่อจะฟังคำสั่งต่อไป อย่าเพิ่งทำอะไรวู่วามล่ะ” โพจอง กล่าว

มหาดเล็กเข้ามาทูลให้พระเจ้าจินพยองทราบว่าตอนนี้ด้านนอกเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว และอยากให้พระองค์เสด็จออกจากตำหนักก่อน ด้านแทนัมโพมาพบองค์หญิงต๊อกมาน เพื่อทูลเชิญไปเข้าเฝ้าฝ่าบาท

“ฝ่าบาทมีรับสั่งให้ไปเข้าเฝ้า หม่อมฉันจะคุ้มกันไปตำหนักยินคังเดี๋ยวนี้”

“น่าแปลก ทำไมฝ่าบาทให้เจ้ามาส่งข่าวล่ะ” องค์หญิงต๊อกมาน กล่าว

“รีบเสด็จเร็วเข้า”

ซอวอนถือสิทธิเข้ามาคุมตัวขุนนางผู้ใหญ่ไว้ โดยอ้างว่าเป็นเพราะพวกเขาถืออาวุธเข้ามาในที่ประชุม ทำลายกฎของราชสำนัก ถึงขนาดให้คนปองร้ายท่านเซจอง

“เราไม่เคยคิดร้าย ไม่มีใครทำร้ายท่าน เซจองแน่นอน” คิมยูซิน กล่าว

“จริงเท็จยังไงต้องรอไต่สวนถึงจะรู้ ตอนนี้ยอมให้จับก่อนเถอะ”

“นี่เป็นหลุมพรางชัด ๆ เราหลงกลพวกเขาเข้าแล้ว”

“พวกเจ้าถืออาวุธเข้ามา ยังกล้าปฏิเสธอีกหรือ....คุมตัวพวกเขาไปที่กรมอาญาให้หมด”

“ครับ”

“บังอาจนัก ไม่มีพระบัญชาจากฝ่าบาท ใครกล้ามาจับขุนนางผู้ใหญ่” ยองชุน กล่าว

“ใช่แล้ว แม้ว่าเมื่อกี้จะเกิดเหตุอันน่าเศร้ากับท่านเซจองก็จริง แต่ฝ่าบาทยังไม่ทรงทราบเรื่อง พวกเจ้าจะมาจับขุนนางผู้ใหญ่ มิเท่ากับผิดกฎหมายเห็น ๆ หรอกหรือ”

“ถ้ามีหมายจับที่ฝ่าบาททรงประทับตราด้วยพระองค์เอง ก็เอาออกมาได้ แต่ถ้าไม่มีละก้อ ใครก็ไม่มีสิทธิมาจับเรา”

“แต่ถ้าจะใช้กำลังละก็ พวกเรา....เห็นจะไม่ยอมจำนนง่าย ๆ แน่”

“งั้นก็ได้ ข้าจะไปทูลให้ฝ่าบาททรงทราบ แต่ระหว่างนี้ ใครก็ห้ามออกจากที่นี่แม้แต่คนเดียว” ซอวอน กล่าว

มีซิลวางแผนเตรียมให้คนไปขโมยตราหยกของพระเจ้าจินพยอง เพื่อลงประทับตราในการจับกุมผู้ต้องหาที่คิดก่อการกบฏ โดยจะโยนความผิดให้ต๊อกมานเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง นางจึงให้คนคุมตัวต๊อกมานไปที่ตำหนักยินคัง ด้านพระเจ้าจินพยองอ่านเกมของมีซิลออก จึงพาทุกคนหนีไปซ่อนตัวในที่ปลอดภัย ด้านโซวาเสนอตัวเป็นผู้นำตราหยกออกจากตำหนัก เพื่อหนีการช่วงชิงของมีซิล

“ฝ่าบาท ถ้าไง ให้หม่อมฉันเอาตราหยกหนีไปมั้ยเพคะ...คงไม่มีใคร...สามารถทำได้เหมือนหม่อมฉัน”

“แต่ว่า เจ้าจะมีวิธีหนีออกจากวังได้ยังไง”

“หึ...ได้ยินว่า ในวังมีทางลับที่จะออกไปข้างนอกได้ไม่ใช่หรือเพคะ เพราะฉะนั้น เราถึงมาหลบภัยที่นี่ก่อน”

“แต่ว่า ทางลับนั่น มีซิลก็รู้ว่ามันอยู่ ที่ไหน”

“ถ้าไงหม่อมฉัน ขอบังอาจทูลว่า ให้ฝ่าบาททรงเป็นเหยื่อล่อก็พอ” โซวา กล่าว

มีซิลเป็นห่วงอาการของท่านเซจอง แต่มีเซ็งว่า กำลังรักษาอยู่ คิดว่าน่าจะปลอดภัยในไม่ช้า

“ฝ่าบาทล่ะ”

“กำลังหาอยู่ครับ อีกไม่นานคงเจอ ยังไงก็อยู่ในตำหนักยินคังอยู่แล้ว เว้นแต่ฝ่าบาทจะกลายเป็นนก หรือไม่ก็เป็นขอมดำดิน เฮ่อ ๆ ๆ”

“ทางออกทุกเส้นทางของตำหนักยินคัง ส่งทหารไปเฝ้าหมดหรือเปล่า” มีซิล ถาม

“มีท่านชิซูคอยบัญชาการอยู่ พี่ใหญ่ไม่ต้องห่วงไปหรอก”

“ท่านเซจู...ท่านยองชุนบอกว่า ถ้าไม่มี พระบัญชา จะจับขุนนางผู้ใหญ่ไม่ได้ เลยขัดขืนอยู่น่ะครับ เราจะทำไงต่อดี” ซกพุง กล่าว

“ถามได้ ก็ไปจับมาให้หมดนั่นแหละ”

“ไม่ได้ บอกพวกเขาว่ารอเดี๋ยวก่อน” มีซิล ห้ามไว้

“ครับ” ซกพุงรับคำสั่งก่อนออกไป

“ยองชุนหรือ”

“ข้าจะไปเข้าเฝ้าและทูลให้ทรงทราบเอง”

“อะไรนะ”

“ส่วนเจ้ารับหน้าที่...คอยต้อนรับองค์หญิงต๊อกมาน” มีซิล กล่าว

จุปังและโกโตกระวนกระวาย เมื่อเห็นว่าองค์หญิงต๊อกมานกำลังถูกคุมตัวไป อีกทั้งตอนนี้ในวังกำลังยุ่งเหยิงไปหมด เลยไม่รู้จะช่วยองค์หญิงต๊อกมานได้อย่างไร

“โกโต เกิดมาข้าไม่เคยเห็นใครเป็นจอมพลังเหมือนอย่างเจ้า ไม่ต้องกลัว อย่าคิดว่านี่คือการประลอง นึกว่าเป็นการล่าสัตว์” ยูซิน กล่าว

“ครับ”

“จุปัง”

“หา...”

“เจ้าเป็นคนฉลาดมีไหวพริบ พยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญซึ่งหน้า สู้แบบใช้สมองหน่อย”







..............จบตอนที่ 45.............



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น