วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 58



Queen Seon Deok ( 善德女王/ 선덕여왕)
เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 58
Cr. : Dailynews Online


ในขณะที่คิมยูซินออกไปรบกับข้าศึก พีดัมได้ร่างหนังสือสัญญาขึ้นฉบับหนึ่งเพื่อจะผูกมัดองค์หญิงต๊อกมานเอาไว้

“นี่มันหมายความว่าไง”

“เหมือนที่ทรงทอดพระเนตรเห็นเป็นคำสัญญาที่หม่อมฉัน ขอมอบให้แก่ฝ่าบาท แล้วให้เราสองคนต่างเก็บรักษาไว้คนละฉบับ ...ถ้าฝ่าบาทไม่คิดทำอะไรเลย หม่อมฉันก็จะเปิดเผยให้ทุกคนได้รู้ด้วยตัวเอง ถ้าอนาคต ฝ่าบาททรงจากโลกนี้ไปก่อน หม่อมฉันก็จะถือตามคำสัญญาที่ให้ไว้ พีดัม จะขอวางมือจากราชกิจทั้งปวงและอำนาจยศศักดิ์ อีกทั้ง ตัดขาดกับทางโลกด้วย” พีดัม กล่าว

“พีดัม...”

“ดีที่ฝ่าบาททรงเป็นห่วงเรื่องนี้ หม่อมฉันกลับดีใจมากกว่า จริง ๆ ไม่ต้องมีหนังสือก็ได้ เพราะสำหรับหม่อมฉันแล้ว ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย ถ้าวันไหนไม่มีฝ่าบาท บ้านเมืองก็ไม่มีความสำคัญอีก มีอำนาจแล้วจะทำไม เป็นใหญ่เป็นโตไปก็เท่านั้น หม่อมฉันพีดัม ขอถวายคำสัญญา จะยึดมั่นต่อเงื่อนไขนี้ตลอดไป เพื่อเห็นแก่ฝ่าบาท”

พีดัมแสดงความจงรักภักดีต่อต๊อกมาน ในขณะที่คิมยูซิน เมื่อเขาสามารถพากองทัพชนะข้าศึกได้ ก็ถวายความเคารพต่อแคว้นชิลลา
“เพื่อแคว้นชิลลา....จงเจริญ”

“เพื่อฝ่าบาท และเพื่อแผ่นดินของพระนาง” พีดัม ยืนยันกับต๊อกมาน

ขณะที่ทุกคนกำลังวางแผนเพื่อปกป้องเมืองหลวงอยู่นั้น ไอชองก็รีบเข้ามาทูลให้องค์หญิงต๊อกมานทราบว่า คิมยูซินสามารถเอาชนะทหารแพ่กเจได้แล้ว และตอนนี้กำลังไปกอบกู้เมืองยีซอและชูวา ต๊อกมานดีใจไม่น้อยที่ คิมยูซินสามารถเอาชนะข้าศึกได้

คิมยูซินพากองทัพกลับเมืองหลวงพร้อมชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ ชาวบ้านต่างแซ่ซ้องสรรเสริญ

“ฝ่าบาท...หม่อมฉันคิมยูซิน บรรลุหน้าที่แล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“ผลงานที่ท่านมีต่อบ้านเมืองเรา แทบ ไม่มีสิ่งใดมาเปรียบได้ ข้าขอมอบเมือง “อึย กุก” เป็นสิ่งตอบแทน” ต๊อกมาน กล่าว

“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”

“แม่ทัพแวยาก็มีผลงาน ต่อไปให้อยู่ในกรมทหารของเรา เป็นกำลังสำคัญให้ท่านยูซิน ปกป้องบ้านเมืองต่อไป”

“เป็นพระกรุณายิ่งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“ตลอดเวลาที่ผ่าน ข้าให้ความสำคัญกับเรื่องปากท้องชาวบ้านเป็นพื้นฐานในการรวมแคว้น หลายปีนี้ จึงจัดสรรที่ทำกินให้ชาวบ้านมากขึ้นทุกปี แต่อาจมีปัญหา ทำให้การเกณฑ์ทหารไม่ได้ตามเป้าเพราะชาวบ้านอยู่สบายมากกว่าอยากรับใช้ทางการ ตรงข้ามกับแคว้นแพ่กเจ หลังจากสิ้นพระเจ้า “ซองวัง” ทางการเร่งฝึกปรือกองทัพจนมีความแข็งแกร่ง กลายเป็นว่าศึกคราวนี้ เราเป็นฝ่ายเสียเปรียบเพราะความสะเพร่าของข้า เพราะว่าข้ามีความเชื่อส่วนตัวว่า สงครามไหน ๆ ก็ไม่อาจสร้างความผาสุกให้แก่บ้านเมืองได้มากกว่าการเป็นปึกแผ่นมั่นคง เห็นทีต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ เราจะเร่งทำการพัฒนากองทัพ เพื่อที่ว่า ซักวันเราจะเหนือกว่าแคว้นแพ่กเจ ไม่ต้องกลัวพวกเขาอีก หลังจากที่เรานิ่งเฉยมานาน เห็นทีต้องปฏิรูปกองทัพใหม่ นับแต่นี้ชิลลาจะเข้าสู่ยุคสงครามอย่างเต็มตัว เราจะมีหน่วยงานในการฝึกทหารโดยเฉพาะ และให้ลดการผลิตเครื่องมือเกษตร หันมาพัฒนาเรื่องอาวุธแทนนอกจากนี้ ทหารที่อยู่ใต้สังกัดท่านเสนาบดีพีดัม ให้โอนเข้ากรมทหารทั้งหมด และฝึกเป็นหน่วยรบพิเศษแทน” ต๊อกมานบอกกับขุนนางทุกคน

“หา...โอนกลับอีกละ...ทำไมอย่างงั้นล่ะ...”

“ฝ่าบาท ทหารที่โอนไป ตอนนี้ท่านเสนาบดีก็ให้ฝึกซ้อมอย่างหนักอยู่แล้ว”

“นั่นสิฝ่าบาท รอให้ถึงเวลาออกรบ ค่อยโอนให้กรมทหารก็ยังไม่สายนะพ่ะย่ะค่ะ”

“นั่นสิพ่ะย่ะค่ะ ถ้าคับขันขึ้นมาจะได้...”

“เมืองหลวงของเรา ตอนนี้ยังไม่พ้นวิกฤติที่น่าห่วง ฝ่าบาท โปรดให้ทหารที่อยู่กับหม่อมฉันกลับเข้ากรมกองทั้งหมด เพื่อปฏิรูป กองทัพให้เป็นแบบแผนมากขึ้น”

“ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ที่ข้าอยากประกาศให้ทุกท่านได้รู้...ข้าคิดว่า...จะจัดพิธีแต่งงาน กับท่านพีดัม”

การที่องค์หญิงต๊อกมานประกาศจะอภิเษกสมรสกับพีดัม เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ด้านมีเซ็งและฮาจองก็คุยกันถึงเรื่องนี้ ฮาจองสันนิษฐานว่า การที่องค์หญิงต๊อกมานยอมอภิเษกกับพีดัม ก็เพื่อแลกกับกำลังทหาร

“สรุปคือฝ่าบาทไม่ใช่คนที่ยอมให้อะไรโดยไม่หวังผลตอบแทน เมื่อมีของให้คนอื่น ก็หวังผลตอบแทนเป็นสองเท่า”

“ใช่ แถมยังมีเหตุผลฟังขึ้น ไม่ผิดต่อความชอบธรรมด้วย”

“เลยดูไม่ออกว่ากรณีนี้เป็นผลดี....หรือผลเสียต่อเรากันแน่”

“โอ๊ย....น่าเสียดาย ถ้าตอนนี้ท่านซอวอนยังอยู่ รับรองว่ามองปุ๊บก็รู้ปั๊บ เฮ่ย....กลุ้มใจนัก”

“แต่อย่างน้อย ถือซะว่า ถ้าผ่านการแต่งงาน อิทธิพลของพีดัมจะมีมากกว่าคิมยูซิน ข้อนี้คงจะแน่นอน” มีเซ็ง กล่าว

คิมยูซินแสดงความดีใจในการตัดสินใจอภิเษกสมรสกับพีดัม แต่องค์หญิงต๊อกมานกลับย้อนถามว่า เขาไม่เสียใจเลยเหรอ

“ความเสียใจก็มีบ้าง”

“ถ้าอย่างงั้น แล้วไม่กลัวว่าอีกหน่อยอำนาจวาสนา จะไปอยู่กับพีดัมหมดหรือไง” ต๊อกมาน ถาม

“ก็เป็นห่วงจุดนี้เหมือนกัน”

“แล้วทำไม ยังบอกว่ายินดีกับข้า”

“ต้องมีบางคน หรือที่ที่หนึ่งให้ฝ่าบาทได้ทรงพักผ่อนบ้าง ที่ซึ่งเป็นสิ่งที่หม่อมฉันให้ไม่ได้ แม้กระทั่งฝ่าบาทช่วยหม่อมฉันออกจาก กลุ่มโพยา หม่อมฉันยังไม่อาจตอบแทนใด ๆ ทำให้รู้สึกละอายใจนัก ทรงอภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันรู้สึกเสียใจ” คิมยูซิน กล่าว

ด้านพีดัม แม้เขาจะรู้ว่าได้ตัวขององค์หญิงต๊อกมานมาก็จริง แต่ในใจของต๊อกมานยังเชื่อคิมยูซินมากกว่าเขา ส่วนคุณชายชุนชู ที่ยังแปลกใจกับการตัดสินใจของต๊อกมาน จึงได้ถามเหตุผล จนรู้ว่าพีดัมเขียนสัญญาเอาไว้ฉบับหนึ่ง

“วันใดที่ไม่มีฝ่าบาท หม่อมฉันจะขอวางมือจากราชกิจและอำนาจยศศักดิ์ ติดตามฝ่าบาทไปในปรโลก...นี่คือสิ่งที่เขาเขียนให้ฝ่าบาทหรือ”

“ใช่....เจ้าไม่เชื่อหรือไง”

“ไม่ใช่อย่างงั้น เมื่อกล้าให้สัญญาก็ต้องมาจากความจริงใจ ที่สำคัญ ฝ่าบาทน่าจะดูออกว่าเขามีความจริงใจมากน้อยแค่ไหน แต่ว่าใจคนมักเปลี่ยนง่ายเสมอ โดยเฉพาะตอนนี้ พีดัมมีอำนาจอย่างที่หวังไว้แล้ว ฝ่าบาทน่าจะทรงทราบดี อำนาจนั้น ไม่อาจอยู่ใต้จิตสำนึกของคนทั่วไป หลังแต่งงาน เขาจะยิ่งมีอำนาจล้นฟ้า และอนาคต เพียงแค่จิตสำนึกอย่างเดียว อาจไม่พอแก่การควบคุมอำนาจ ถึงตอนนั้น สัญญาฉบับนี้ จะมีผลให้ใครมาปฏิบัติตามได้ และถ้าเขาคิดว่ามันไม่สำคัญอีกล่ะ” คุณชายชุนชู กล่าว

“ใช่ เจ้าพูดมาก็ถูก แต่บางคนอาจสวนทางกับอำนาจก็เป็นได้ เช่น ท่านยูซิน กับกลุ่มโพยาก็คือตัวอย่าง”

“นี่คืออะไร ฝ่าบาท” ต๊อกมาน ส่ง กระดาษแผ่นหนึ่งให้ชุนชูอ่าน

“ถ้าพีดัม ไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับข้า ก็ให้เจ้า ประหารเขาซะ”

“เอ่อ ฝ่าบาท...”

“อีกหน่อยด้วยความสัมพันธ์ส่วนตัว ข้าอาจลังเลไม่กล้าทำอะไร ฉะนั้นจึงฝากจดหมายนี่ให้เจ้าได้เก็บไว้ เจ้าต้องทำตามที่สั่ง โดยเฉพาะ ขอให้เห็นใจข้าบ้าง ที่จำเป็นต้องใช้วิธีนี้ผูกมัดเขา เพื่อจะได้ไม่ให้เขาไปไหน” ต๊อกมานขอร้อง ทำให้ชุนชูหนักใจไม่น้อย

พีดัมคิดว่าตัวเองได้ในสิ่งที่ตั้งใจไว้แล้ว จึงนำแผนที่สามแคว้นไปให้คิมยูซิน บอกว่าเป็นสิ่งที่มุนโนได้ปูทางเอาไว้

“แล้วทำไมเจ้า....อยู่ดี ๆ เอามาให้ข้าล่ะ”

“เป็นการติดสินบน ให้ท่านอย่าเป็นศัตรูกับข้ามั้ง....ยังไงขอให้ศึกษาให้ดี ถือว่าทั้งหมดนี้เป็นสมบัติของท่าน” พีดัม กล่าว

“หึ....ไม่ว่าเจ้าจะมีเจตนาอื่นหรือเปล่า แต่สินบนแบบนี้ ข้าขอรับด้วยความซาบซึ้งอย่างมาก ขอบใจมากนะ”

“ท่านมักจะถือว่าตัวเองเป็นหมากตัวหนึ่งในประวัติศาสตร์ แต่ข้าไม่ใช่ มิน่าอาจารย์ถึงบอกว่า ท่านน่าจะเป็นเจ้าของหนังสือพวกนี้มากกว่า” พีดัม คิดในใจ

ยอจงแอบไปค้นห้องของพีดัม จนได้เห็นสัญญาระหว่างเขากับองค์หญิงต๊อกมาน จึงลอบนำออกมาให้มีเซ็งและเหล่าขุนนางได้ดู

“อะไรกันนี่ ระหว่างฝ่าบาทและพีดัม ที่แท้มีสัญญาลับต่อกันหรอกหรือ”

“งั้นก็แปลว่า เรายอมให้ฝ่าบาทยึดกองกำลังไปต่อหน้าต่อตาน่ะสิ” จูจิน กล่าว

“มิน่าเล่า ข้าถึงรู้สึกแปลก ๆ อยู่ ที่แท้นางวางแผนไว้แต่แรก จะยึดทหารไปทั้งหมด”

“เฮ่ย....แม้แต่ท่านพีดัม ก็หลงกลฝ่าบาทโดยไม่รู้ตัวเหมือนกัน”

“แล้วเราจะอยู่เฉยได้หรือครับ”

“เรื่องอะไรจะอยู่เฉย แบบนี้มันไม่ยุติธรรม เรายอมไม่ได้แน่นอน” ฮาจอง กล่าว

“เห็นทีต้องบอกให้ท่านพีดัมเข้าใจ และแสดงจุดยืนของพวกเราให้ชัดเจนว่าไม่เห็นด้วย”

“แน่นอน ต้องบอกให้เขารู้”

“ใช่ ๆ....ต้องบอก ปล่อยไว้ไม่ได้หรอก....” เหล่าขุนนางบ่นกันไปเรื่อย

“ทุกท่านเงียบก่อน....เรื่องนี้ไปคุยกับท่านพีดัมคงไม่มีประโยชน์ ทุกท่านไม่รู้หรือว่าเขาเป็นคนยังไงน่ะ”

“ข้าก็ว่างั้น ลองถึงขนาดเขียนสัญญาผูกมัดตัวเองแบบนี้ แสดงว่าไม่เห็นพวกเราอยู่ในสายตาซักนิด” โพจอง กล่าว

“ถูกต้อง ถึงเราไปคุยก็เถอะ เขากล้าบอกให้ฝ่าบาทฉีกสัญญามั้ยล่ะ หรือไม่ก็....ยกเลิกการแต่งงานซะ ไม่มีทางหรอกยังไงเขาก็ไม่ทำ”

“ถ้าอย่างงั้น เราควรจะทำไงดี”

“หาวิธี....บีบให้เขาลงเรือลำเดียวกับเราให้ได้ดีหรือเปล่า” จูจิน กล่าว

“ใช่แล้ว เมื่อเขามีความคิดจะออกนอกลู่นอกทาง เราก็ต้องชี้นำให้กลับมาดี ๆ”

“ถ้าไง ข้ามีแผนหนึ่งน่าจะลองดู....ไม่แน่ว่าอาจได้ผลก็ได้” มีเซ็งมีความคิดขึ้นมาทันที

มีเซ็งเดินทางไปที่เมืองทันฮันซอง เพื่อพบทูตทางการค้า เขาได้เล่าเรื่องของพีดัมและองค์หญิงต๊อกมานให้ท่านทูตฟัง

“อะไรนะ เสนาบดีใหม่ที่ชื่อพีดัมน่ะหรือ”

“ใช่ ด้วยเหตุนี้ ถ้าพวกท่านยอมให้ความช่วยเหลือตามที่เราขอร้องละก็ สิ่งที่ต้องการ เราก็จะให้เหมือนกัน....ที่ควรรู้ก็คือ ตอนนี้ท่านพีดัมคือผู้มีอำนาจสูงสุดในชิลลา ซ้ำยังจะแต่งงานกับฝ่าบาทของเรา”

“แต่ว่า ทำแบบนี้จะไม่มีปัญหาแน่หรือ” ท่านทูตยังหวั่นใจ

“นี่เป็นเรื่องภายในของเรา ขอแค่ช่วยนิดหน่อยเท่านั้น”

“ถือว่าทำเพื่อสิ่งที่ฝ่ายเราต้องการก็ได้ เหมือนกันน่ะนะ ถ้างั้น ข้าจะนำข้อเสนอที่ท่านพูดเมื่อกี้ เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรได้หรือเปล่า”

“ได้อยู่แล้ว”มีเซ็ง กล่าว

คณะทูตแห่งต้าถัง “ซูไจ้เหยียน” เข้าเฝ้าองค์หญิงต๊อกมานเพื่อเจริญสัมพันธไมตรี

“กระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นหรือ ด้วยวิธีไหน จงบอกมาหน่อยซิ”

“ฮ่องเต้ของเราตรัสว่า การที่ชิลลามีข้าศึกมารุกรานบ่อยครั้ง เหตุเพราะมีผู้หญิงเป็นผู้ครองเมือง ทำให้เพื่อนบ้านใกล้เคียงต่างก็สบประมาท จึงคิดราวีอยู่เนือง ๆ....จึงเห็นควรให้เลือกเชื้อพระวงศ์ซักคน ขึ้นดำรงตำแหน่งพระราชาซะ แล้วเราจะส่งทหารมาดูแลความปลอดภัยให้ชิลลา ไม่ทราบฝ่าบาททรงเห็นว่ายังไง” ท่านทูต กล่าว ทำให้เหล่าขุนนางไม่พอใจนัก

ต๊อกมานก็ไม่พอใจเช่นกัน จึงสั่งให้ไอชองพาท่านทูตไปพักที่ตำหนัก และให้ชุนชูไปสอบถามว่าเรื่องที่เขาพูดเมื่อสักครู่เป็นความต้องการของใครกันแน่ หรือกุเรื่องขึ้นมาเอง ซึ่งหากกุขึ้นเองเรื่องนี้จะมีโทษเทียบเท่าก่อกบฏ พร้อมสั่งให้ไอชองคุมตัวท่านทูตเอาไว้

ฝั่งของมีเซ็งไม่สบายใจนักที่ได้รู้ว่าองค์หญิงต๊อกมานสั่งให้คุมตัวท่านทูตไว้ อีกทั้งนางยังสงสัยอะไรบางอย่าง จึงได้หาทางติดต่อกับท่านทูตเพื่อหาทางแก้ไข ด้านต๊อกมานเองก็กำชับไอชองว่า หากพวกทูตต้องการติดสินบน ก็ให้ทหารรับเอาไว้ แต่ข่าวที่ส่งออกมาต้องให้นางคนเดียวเท่านั้น แต่ถ้าจะขอนางละก็ ให้ปฏิเสธไว้

ทูตทั้งสองที่ถูกกักตัวไว้ เริ่มไม่ไหว เพราะคิดว่าเสนาบดีพีดัม ต้องมาช่วยอย่างที่มีเซ็งเคยบอกไว้ แต่มาคิดอีกที ดูเหมือนว่าองค์หญิงต๊อกมานจะมีอำนาจมากกว่า จึงเริ่มวิตกกับคำพูดของมีเซ็ง เพราะหากยังถูกกักตัวอยู่แบบนี้ จะไม่ได้ทำงานตามที่ฮ่องเต้รับสั่งมา เพื่อหวังจะให้ชิลลาส่งทหารให้

ไอชองได้ข่าวบางอย่างมา จึงรีบมาทูลให้องค์หญิงต๊อกมานทราบ

“พ่อค้าแซ่หยางฝากจดหมายให้พ่อค้าอีกคนชื่อ “ชอนตง” และมีผู้ติดตามคนหนึ่ง ขอพบเจ้าหน้าที่ในกรมพิธีการชื่อวังยุน....ยังมีพัดนี่ ท่านทูตบอกว่าจะมอบให้ท่านเสนาบดี”

“มอบพัดนี่ ให้กับพีดัมหรือ”

“พ่ะย่ะค่ะ เห็นบอกว่าเป็นของฝาก”

“หรือไม่ก็ คิดจะติดสินบนพีดัม ให้ช่วยเจรจาให้ปล่อยตัวหรือเปล่าพ่ะย่ะค่ะ”

“แสดงว่า น่าจะเป็นพัดที่หายาก”

“จริงๆ ไม่ได้หายากหรอก” คุณชายชุนชู กล่าว

“เจ้าเคยเห็นพัดแบบนี้หรือ”

“พ่ะย่ะค่ะ ข้างนอกเรียกว่าพัดกาดำ เพราะทำจากขนของอีกา ปกติพัดที่ทำจากขนนกจริงๆ ต้องเป็นนกยูงหรือนกพิราบถึงจะนับว่ามีค่า....เดี๋ยวก่อน ฝ่าบาทให้หม่อมฉันดูหน่อยได้ไหม” คุณชายชุนชู เห็นข้อความบางอย่างในพัด

“เป็นวิธีในการส่งสาส์นลับงั้นหรือ”

“ใช่ ข้าเคยได้ยินมา แต่ไม่แน่ใจนัก ครั้งหนึ่งทูตโกคูรยอไปเมืองแวกุก ก็เคยใช้พัดขนนกแอบส่งข้อความบางอย่างออกมา ถูกพ่อค้าแพ่กเจคนหนึ่งชื่อ “วังจิน” แอบรู้ความลับนี้เข้า จึงได้ไขปริศนาให้ทุกคนได้รู้”

“ก็คือ....ใช้วิธีนี้น่ะหรือ” องค์หญิงต๊อกมานอึ้ง เมื่อได้รู้เรื่องราว

พวกมีเซ็งไม่สบายใจที่ยังไม่สามารถช่วยคณะทูตจากต้าถังได้ จึงไปสารภาพกับพีดัมว่าพวกเขารู้เรื่องสัญญาลับที่พีดัมทำไว้กับองค์หญิงต๊อกมานแล้ว และต้องการแก้เกม จึงอ้างชื่อพีดัมเพื่อไปเจรจาทำการค้ากับท่านทูตต้าถัง

คิมยูซินอ่านข้อความที่เขียนในพัด กาดำ

“ให้ทูตจากต้าถัง ทูลราชินีชิลลา ว่า ผู้หญิงครองเมืองจะทำให้สั่นคลอน ส่วนทางเราจะช่วยเหลือตามที่เรียกร้องมา ส่งทหาร 3 หมื่นไปเสริมทัพต้าถังที่กำลังเปิดศึกกับโกคูรยอ”

“ผู้แทนพระองค์ต้าถัง ทูตเอก “ซูไจ้ เหยียน” กับชิลลา เสนาบดีพีดัม” ต๊อกมานตกใจเมื่อได้ยินชื่อพีดัม

ด้านพีดัมก็เพิ่งรู้ความจริงว่า เขากำลังถูก พวกมีเซ็งกดดัน

“นี่แปลว่า ที่วันก่อนทูตต้าถังบังอาจใช้วาจาลบหลู่ฝ่าบาทของเรา เป็นการยุยงของพวกท่านใช่ไหม”

“ใช่ สิ่งที่เราทำ นอกจากบีบให้ท่านมาเป็นฝ่ายเราแล้ว”

“ยังจะถือโอกาสบีบให้ฝ่าบาท...สละบัลลังก์ให้คนอื่นขึ้นแทนซะ” มีเซ็ง กล่าว

“นั่นสิ ที่จริงความคิดแต่แรกของท่าน ก็อยากเป็นพระราชาอยู่แล้วไม่ใช่หรือ”

“ตอนนี้ เรามาไกลเกินกว่าจะกลับตัวได้แล้ว ท่านพีดัม”





..............จบตอนที่ 58................



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น