วันพุธที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 53



Queen Seon Deok ( 善德女王/ 선덕여왕)
เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 53
Cr. : Dailynews Online


แวยาวางแผนหนีจากการจับกุม โดยมีพวกเผ่าคาย่าในวังคอยให้การช่วยเหลือ ถึงแม้ว่าการหนีจะเหมือนเป็นการยอมรับว่ากลุ่มโพยามีอยู่จริงก็ตาม พีดัมสอบสวนแวยา ก่อนที่จะไปเข้าเฝ้าต๊อกมานเพื่อรายงานการสอบสวนให้ทราบ

“เรื่องนั้น ไปถึงไหนแล้ว”

“สืบชัดว่ายังมีเครือข่ายของกลุ่มโพยา ผู้นำก็คือแวยา เป็นที่แน่ชัดแล้ว...ตอนนี้เรากำลังเร่งสืบว่าพวกเขามีแหล่งกบดานอยู่ที่ไหนบ้าง ฝ่าบาท หม่อมฉันพีดัมขอบังอาจทูลซักนิด ในเมื่อความผิดของแวยาชัดเจน และด้วยความ สัมพันธ์กับท่านยูซิน จึงควรรับการไต่สวนด้วย เรื่องสอบปากคำแม่ทัพใหญ่ ขอฝ่าบาททรง อนุญาตด้วย” ต๊อกมานอึดอัดกับคำขอครั้งนี้

แวยาและซอแจหนีการจับกุมออกมาจากหน่วยตรวจการณ์ได้ ยอจงรีบไปบอกให้พีดัมที่กำลังเข้าเฝ้าต๊อกมานอยู่ได้รับรู้ ต๊อกมานจึงสั่งให้มีการสอบสวนยูซิน เพราะเห็นว่าเขาทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

ยองชุนไม่สบายใจที่รู้ว่าตอนนี้คิมยูซิน ตกเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะไม่คิดว่าคนที่จงรักภักดีอย่างยูซินจะให้การสนับสนุนเผ่าคาย่า

“นี่แปลว่า ท่านยูซินยังผูกพันกับเผ่าคาย่าอยู่หรือนี่”

“เป็นไปไม่ได้แน่ ความภักดีของท่าน ยูซิน ทุกคนต่างก็รู้ไม่ใช่หรือ”

“แต่ยังไงเขาก็เป็นชาวคาย่าแต่กำเนิดอยู่ดี ใครจะรับรองได้ว่าอนาคตจะไม่คิดเป็นอื่นน่ะ”

“ปัญหานั้น อาจไม่ได้อยู่แค่ตรงนี้ก็ได้ ...ไอ้เรื่องภักดีหรือไม่ภักดีอย่าเพิ่งไปคิด ที่แน่ ๆ คือความสมดุลของอำนาจ กำลังจะมีรอยร้าวเกิดขึ้น” จูจิน กล่าว

“พูดแบบนี้หมายความว่าไงครับ รอย ร้าวอะไรกัน”

“ระหว่างท่านยูซินกับท่านพีดัม เปรียบเหมือนพระหัตถ์ซ้ายขวาของฝ่าบาทไม่ใช่หรือ ...แล้วตอนนี้ มือซ้ายกับมือขวากำลังต่อสู้กันเองซะแล้ว”


“หมายความว่าท่านพีดัม ทำเพราะมีจุดประสงค์อื่นงั้นหรือ” ยองชุน ถามด้วยความไม่แน่ใจ

“เฮ่อ ๆ ๆ มันก็ไม่แน่นักหรอก”

คิมยูซินถูกเรียกตัวไปสอบ ด้านพีดัมที่คิดจะกำจัดเผ่าคาย่าจึงยื่นดาบให้ยูซินไปจัดการกับพวกนั้นให้หมด

“อะไรนะ ให้ข้าไปกวาดล้างกลุ่มโพยา ...ด้วยตัวเองหรือ”

“ถ้ายอมรับข้อเสนอนี้ ข้าจะไปทูลขอร้องฝ่าบาททันที”

“พีดัม...”

“เพราะท่านเป็นชาวคาย่า ส่วนแวยาซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทก็เป็นหัวหน้ากลุ่มโพยา...ยิ่งตอนนี้หนีออกจากวังโดยพลการด้วยแล้ว เท่ากับกินปูนร้อนท้องชัด ๆ...ถ้าท่านสามารถกวาดล้างพวกเขาและตัดหัวแวยามาให้เราได้...” พีดัม กล่าว

“คิดว่าไม่มีแวยาแล้ว กลุ่มโพยาจะสลายตัวหรือ อีกไม่นานก็จะมีผู้นำใหม่อีก ที่สำคัญ ความเมตตาที่ฝ่าบาททรงมีต่อเผ่าคาย่า และสิ่งที่ทุ่มเทไปมิกลายเป็นเสียเปล่าหรอกหรือ” ยูซิน กล่าว

“คงไม่ใช่ว่า...ท่านกลัวตัวเองจะสูญเสีย อำนาจหรอกนะ”

“พีดัม...”

“ทั้งฝ่าบาทและข้าล้วนไม่อยากเสียท่านไปเข้าใจมั้ย...ท่านก็น่าจะเสียสละบ้าง...ตัดขาดเผ่าคาย่าและยอมทิ้งอิทธิพลส่วนตัว...จากนั้นก็เริ่มต้นใหม่ซะ” คำพูดของพีดัม ทำให้คิมยูซินลำบากใจ

คุณชายชุนชูบอกต๊อกมานว่าตอนนี้ ทั้งสองฝ่ายมีการคานอำนาจกันอยู่ตามที่ต๊อกมานต้องการ พีดัมก็มีคนของมีซิลคอยหนุนหลัง หากคิมยูซินถูกกดดันมาก ความสมดุลของเขาก็จะหายไปและขุนนางจะพากันกลับไปสนับสนุนพีดัม

“หมายความว่า เราต้องปล่อยให้กลุ่มโพยาลอยนวลงั้นหรือ”
“เกี่ยวกับเรื่องนี้ หม่อมฉันก็คิดไม่ถูก เหมือนกัน”
“นี่แสดงว่าเจ้าไม่ต้องการคลุกคลีกับปัญหา แต่ขอมองในภาพรวมใช่ไหม”
“คนที่ยิ่งมีความรู้มาก การแยกแยะปัญหาจะทำได้ยากขึ้น เพราะจุดยืนและเวลาที่แตกต่างล้วนมีผลต่อการตัดสินใจ แต่ว่าถ้าจะให้ชี้ขาดจริง ๆ มันอาจมีผลทำให้เกิดการแตกหักได้”

“เจ้าจะพูดอะไรกับข้ากันแน่”

“ตอนนี้ท่านยูซิน หรือแม้แต่คนของเขา ฝ่าบาทไม่ควรไปก้าวก่าย” คุณชายชุนชู หาทางออกให้ต๊อกมาน

พีดัมสอบสวนคิมยูซินแล้วรู้ว่าเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับแวยา ยอจงบ่นว่าปล่อยไปแบบนี้ก็จับกลุ่มโพยาไม่ได้ จะทำให้ลำบากขึ้น พีดัมบอกว่าเขาไม่ได้คิดจับกลุ่มโพยา

“แล้วตกลงจะเอายังไงแน่” ยอจง กล่าว

“เพราะอะไรแวยาถึงต้องหลบหนี”

“ก็เขาเป็นหัวหน้ากลุ่มโพยา ไม่หนีก็แปลกแล้ว”

“ถ้าเขาหนีไป คิมยูซินก็จะลำบาก”

“เป็นใครก็ต้องเอาตัวรอดไว้ก่อนล่ะ”

“หมอนี่เสริมให้คิมยูซินปีกกล้าและยังซ่องสุมกำลัง เป้าหมายก็เพื่อชนเผ่าของเขา อีกประเด็นที่น่าคิดก็คือ เขาจะสร้างพระราชาที่มาจากเผ่าคาย่า คิดซิว่าจะเป็นใครได้” พีดัม กล่าว

“นี่แปลว่า...คิมยูซินหรือ”

“แน่นอนว่าคิมยูซินคงปฏิเสธ ข้าเชื่อว่าเป็นอย่างงั้น เรื่องแบบนี้เขาจะไม่มีวันทำแน่นอน...แต่แวยาก็ไม่ยอมรามือ เสนอเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็จะเริ่มห่างเหิน เพราะคิมยูซินไม่เชื่อฟัง ในขณะที่ คนในเผ่าก็เริ่มกดดันแวยามากขึ้น”

“ด้วยเหตุนี้ รู้ทั้งรู้ว่าจะทำให้ท่านยูซิน เป็นแพะรับบาป เขายังเลือกที่จะหนีอีก”

“เพื่ออะไรกันล่ะ เราแค่ตั้งคำถาม คำ ตอบก็จะออกมาเอง” พีดัม รู้ทันความคิดแวยา

ซอแจเป็นห่วงคิมยูซินที่จะตกที่นั่งลำบาก จากการที่เขาหนีออกมา แต่แวยาว่าเขาเจตนาที่จะกดดันคิมยูซิน เพื่อให้เปลี่ยนใจมาเป็นพวกกับตน ถ้ายังไม่ยอม เขาก็จะสร้างสถานการณ์บีบคั้นให้มากขึ้น

แวยาช่วยให้ยูซินหนีการไต่สวนออกจากวัง เพื่อให้คนสงสัยว่าเขากำลังคิดกบฏ แต่ซอแจกลับไม่คิดอย่างนั้น เพราะด้วยนิสัยของ คิมยูซิน ต่อให้ออกมาได้จริง เขาก็ไม่ฟังคำสั่งของเราอยู่ดี ซึ่งพีดัมอ่านเกมของแวยาออก

“ใช่แล้ว แผนต่อไปของแวยา ก็คือช่วยให้ยูซินหลบหนี”

“ถ้าคิมยูซินหนีไปกับกลุ่มโพยาในเวลาที่ล่อแหลมแบบนี้ เขาจะกลายเป็นนักโทษอาญาที่ไม่มีวันล้างมลทินได้”

“และนี่ก็คือ...วิธีที่แวยาจะได้เขาไป เป็นพวก”

“ใช่ ข้าเข้าใจแล้วล่ะ เฮ่อ ๆ ๆ”

“ที่น่าสนุกกว่านั้นก็คือ สิ่งที่แวยาหวังนักหนา ไม่แน่ว่า ข้าก็อยากได้อยู่เหมือนกัน” พีดัม กล่าว

ต๊อกมานตกลงที่จะให้ทหารแก่คิมยูซิน เพื่อหวังให้ไปเอาชีวิตของแวยามา และปราบชนเผ่าคาย่า แต่ยูซินเห็นว่าแม้จะปราบแวยาได้ แต่ก็ต้องมีผู้นำคนใหม่ขึ้นมาแทน มันอาจจะทำให้ต๊อกมานมีศัตรูเพิ่มมากขึ้น ต๊อกมานรู้สึกหนักใจขึ้น มาทันที นางขอให้เขาเลิกติดต่อกับเผ่าคาย่า ซึ่งยูซินก็ขอให้นางเมตตาเผ่าคาย่าเช่นกัน

มีการวางแผนส่งตัวพีดัมออกไปนอกเมือง โดยพีดัมให้ กีซุน พยองกุก และชองอัน ที่คาดว่าจะเป็นหนอนบ่อนไส้ เป็นคนไปส่งตัวยูซิน เพราะต้องการที่จะดัดหลังกลุ่มโพยา ด้าน จุปังเมื่อรู้ว่าจะมีการส่งตัวคิมยูซินออกไปข้างนอก ก็รีบมารายงานให้คุณชายชุนชูทราบ ซึ่งชุนชูเองก็สงสัยว่า การส่งตัวครั้งนี้ เป็นเหมือนการล่อให้กลุ่มโพยามาติดกับ เพราะต้องการที่จะช่วยยูซิน

และทุกอย่างก็เป็นไปตามที่หลายคนคาดการณ์ ซึ่งเรื่องที่กลุ่มโพยาเข้าช่วยเหลือคิมยูซิน ครั้งนี้ ก็รู้ถึงหูต๊อกมานในเวลารวดเร็ว

“ทำไมเกิดเรื่องแบบนี้ได้ เพราะอะไร”

“เอ่อ...คือว่า...ได้ยินว่า ระหว่างทางที่ไป จู่ ๆ ก็มีคนมา...แต่ว่า เห็นบอกว่าคนที่คุ้มกันเขาออกไป บางส่วนเป็นคนของกลุ่มโพยาพ่ะย่ะค่ะ มีสามคนที่เป็นหนอนบ่อนไส้ ฉะนั้นถึงเกิดเรื่องก็ไม่แปลกหรอกพ่ะย่ะค่ะ”

“ยังมีคนของพวกมันอยู่ในวังอีกหรือ ขนาดให้ทำงานแค่นี้ ยังมีไส้ศึกของกลุ่มโพยามายุ่งอีก แล้วทำไมพีดัมถึงได้เลินเล่อนัก”

“พ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉัน...ก็ไม่ทราบ คือ...” ต๊อกมาน ไม่พอใจอย่างหนัก เรียกหาพีดัมทันที

คิมยูซินกลายเป็นกบฏในทันทีตามเจตนาของพีดัมและคนอื่น ๆ มีเซ็งเรียกประชุมด่วนขุนนางในคืนนั้น พีดัมบอกกับทุกคนว่า คิมยูซินเป็นกบฏ โดยให้การสนับสนุนกลุ่มโพยา เช้าวันต่อมา เหล่าขุนนางทั้งหมดจึงรวมตัวกันเข้าเฝ้าต๊อกมาน เพื่อเรียกร้องให้มีการออกคำสั่งว่า คิมยูซินเป็นกบฏ พร้อมกับให้ปลดคิมซอยอนออกจากตำแหน่งเจ้ากรมทหาร และให้จูจิน ได้รับตำแหน่งนี้แทน ซึ่งปัญหานี้สร้างความกดดันให้ต๊อกมานเป็นอย่างมาก

คิมยูซินได้เผชิญหน้ากับแวยา เขาโกรธมาก เมื่อรู้ว่าการที่แวยาทำเช่นนี้ เพราะต้องการหาผู้นำให้กับเผ่าคาย่า แต่คิมยูซินไม่ยอม และว่าเขาอยากให้สลายกลุ่มโพยา แล้วกลับไปมอบตัว ในฐานะชาวชิลลา ซึ่งแวยาเห็นว่าสิ่งที่คิมยูซินพูด เป็นความเพ้อฝันชัด ๆ

พีดัมพยายามกดดันให้ต๊อกมานรับราชโองการที่ระบุให้คิมยูซินเป็นกบฏ แต่ต๊อกมานว่านางไว้ใจคนใกล้ตัวมากเกิน พีดัมรู้ว่าต๊อกมานย้อน แต่ก็ไม่สนใจ และยังพูดเตือนต๊อกมานด้วยว่า อย่าลืมที่เคยรับสั่ง ว่าการเป็นนักปกครองที่ดีต้องเข้มงวดต่อคนสนิทของตัวเอง แต่ให้ความเมตตาต่อราษฎร ฉะนั้น ถ้าทรงลำเอียง ก็อาจเป็นที่ครหาได้

ต๊อกมานเตรียมที่จะปลดคิมยูซินออกจากตำแหน่งแม่ทัพ แต่ถูกเหล่าองครักษ์จำนวนมากทักท้วงไว้ จุปังไม่สบายใจ จึงนำเรื่องนี้มาปรึกษากับคุณชายชุนชู

“มันช่างเป็นเรื่องที่...ฟังไม่ขึ้นเอาซะเลย ท่านก็รู้นิสัยท่านยูซินดีไม่ใช่หรือครับ จะบอกว่าเขาแปรพักตร์ ขายชาติ เป็นศัตรูของชิลลาหรือ เฮ่ย...ข้ากล้าท้าเลยว่าถามใครก็ได้ที่รู้จักท่านยูซิน เรื่องเหลวไหลแบบนี้ใครจะเชื่อว่าเป็นความจริง ไม่มีแน่นอน”

“ตอนนี้ปัญหาอยู่ที่ เขาหนีไปโดยมีกลุ่มโพยามาช่วยเหลือ และระหว่างนั้น ยังมีทหารถูกฆ่าตายด้วย แค่ประเด็นนี้ ก็กลายเป็นผู้ต้องสงสัยได้แล้ว”

“ถึงบอกว่านี่คือการปรักปรำ แถมไม่รู้จะอธิบายยังไงด้วย หลายปีนี้เขาออกรบตั้งเท่าไหร่ เป็นวีรบุรุษของเราก็ไม่ปานนะท่าน เฮ่ย....”

“เป็นแผนเหนือชั้นที่พีดัมวางไว้ เสียดายที่เขาหลงกล”

“งั้นท่านก็ไปทูลฝ่าบาทให้ที หาทางช่วยท่านยูซินหน่อย ได้ไหมครับ” จุปัง กล่าว

“กลุ่มโพยาเป็นพวกกบฏ และท่านยูซิน ก็มีส่วนเกี่ยวข้องจริง ๆ หน่วยงานของพีดัมมีหน้าที่ตรวจสอบ ถ้าจะบอกว่าเขากลั่นแกล้ง เราก็ไม่มีหลักฐาน”

“แย่ชะมัด แต่นี่คือการใส่ร้ายชัด ๆ ท่านก็รู้อยู่ ท่านยูซินของเราไม่เคยยุ่งกับการเมือง เขามีแต่ทำงานเพื่อบ้านเมืองอย่างจริงใจ ไม่ว่าจะออกรบหรือฝึกซ้อมหรือเป็นเพื่อนกับใคร เขามีแต่ความจริงใจให้ตลอด จริงนะครับ”

“จริงใจหรือ”

“ใช่ครับ จริงใจสุด ๆ ไป” ชุนชู สะดุด กับคำพูดของจุปัง

คุณชายชุนชูรีบมาเข้าเฝ้าต๊อกมาน เพื่อจะทูลให้ต๊อกมานตระหนักถึงความมั่นคงของบ้านเมือง และว่าความเห็นของเหล่าขุนนางสมควรแล้ว

“แต่ว่า หลายปีที่ผ่าน ท่านยูซินเป็นแม่ทัพที่มีผลงานต่อชิลลาและทำงานหนักมาตลอด ฉะนั้น ไม่เพียงต่อเหล่าทหารเท่านั้น แม้แต่หน่วยงานของทางการ หรือในสายตาชาวบ้าน เขาก็เป็นที่เคารพอย่างสูง....คนที่มีผลงาน กลับบอกว่าเขาเป็นศัตรูของบ้านเมือง แน่นอนว่ามีผลกระทบ และอาจสร้างความแตกแยกได้อย่างมาก”

“ถ้าเป็นในภาพรวมล่ะ”

“มีขุนนางหลายฝ่ายที่ไม่ชอบเขา เพราะบารมีที่สั่งสมมายาวนาน พวกเขาไม่ได้เห็นด้วยกับพีดัม เพียงแต่คิดว่า กลัวอิทธิพลของท่านยูซิน มากกว่า...แต่ว่า ถ้าท่านยูซินถูกกำจัด ฝ่ายสนับสนุนการทำงานของพีดัม ก็จะหมดไปด้วย”

“ถ้าอย่างงั้น ลองพูดถึงทางแก้หน่อยซิ” ต๊อกมาน กล่าว

“ไม่มีพ่ะย่ะค่ะ”

“เพราะอะไร”

“ถ้าท่านยูซินไม่กลับมา แต่หันไปเข้ากับกลุ่มโพยา เมื่อนั้นก็จะกลายเป็นศัตรูของบ้านเมืองจริง ๆ แต่ถ้ากลับมา จะมีข้อหากบฏรออยู่ ถูกจับกุมทันที เพราะฉะนั้น เขาอาจไม่ยอมกลับมาก็ได้...ทั้งหมดนี้ คือแผนของพีดัม เรียกว่ากลยุทธ์เหล็กเพชร”

“กลยุทธ์เหล็กเพชรหรือ”

“สิ่งที่แข็งที่สุดในโลกก็คือเหล็ก แผนที่ไม่มีช่องโหว่ให้ทำลาย จึงเรียกว่าเหล็กเพชร”

“จริงหรือที่ว่า ไม่มีช่องโหว่ให้แก้ไขได้เลย”

“ในแง่ของท่านยูซินอาจมีทางหนึ่งที่เป็นไปได้ แต่ว่านั่นคงจะยากนัก เพราะยังไง เขาก็เป็นแค่ปุถุชนคนหนึ่ง”

“คืออะไร”

“ความจริงใจพ่ะย่ะค่ะ ขอเพียง....จริงใจเท่านั้น”

“จริงใจหรือ”

“ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง มุ่งสู่เป้าหมายที่ถูกต้อง นั่นคือความตั้งใจจริงของคน ๆ หนึ่ง” คุณชายชุนชู กล่าว

ต๊อกมานประกาศให้คิมยูซินเป็นกบฏต่อบ้านเมือง

“สมัยก่อนพระเจ้าจินจอง ทรงตั้งปณิธานที่จะขยายดินแดน สร้างความยิ่งใหญ่ให้แก่แคว้น ชิลลาของเรา จากนั้นพระเจ้าจินฮึง ก็ทรงสานต่อ โดยยึดเผ่าคาย่าเข้าผนวกกับแคว้นชิลลาเพื่อความมั่นคง หลังจากนั้นสองฝ่ายจึงได้รวมกันเป็นหนึ่งเดียว ในขณะที่ข้า...หลายปีที่ผ่านมา ได้ยกเลิกความเหลื่อมล้ำระหว่างชาวคาย่าและชาวชิลลา โดยปฏิบัติอย่างเท่าเทียม อีกทั้งมอบที่ดินให้ได้เพาะปลูก แต่แล้วเผ่าคาย่า ยังมีกองกำลังที่จะต่อต้านเราอยู่ทุกเมื่อ จึงนับเป็นความผิดใหญ่หลวงเท่ากับคิดก่อกบฏ...ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มโพยา ทั้งแม่ทัพแวยา นายกองซอแจ และแม่ทัพใหญ่คิมยูซิน...ข้าขอประกาศ...ให้เป็นกบฏต่อบ้านเมือง....”

“ฝ่าบาท....ๆ ฝ่าบาท ที่หน้าตำหนักใหญ่ตอนนี้....หน้าตำหนักใหญ่....”

“ได้ข่าวว่าท่านยูซินกลับมาแน่ะครับ ได้ยินหรือเปล่า เขายอมกลับมามอบตัวแล้ว”

คิมยูซินเดินทางกลับมาที่วังหลวง เพื่อขอเข้าเฝ้าและรับโทษ ซึ่งการกลับมาของเขา ทำให้ต๊อกมานหาทางออกให้ตัวเองได้

“ฝ่าบาท หม่อมฉันคิมยูซิน...มาขอรับพระอาญา โปรดทรงพิจารณาความผิดด้วยเถอะ”

“ทุกคนยืนเฉยทำไม ใครก็ได้ ไปจับคิม ยูซินไว้เดี๋ยวนี้”

“พ่ะย่ะค่ะ”

“ขอบคุณมากนะ ท่านยูซิน”






................จบตอนที่ 53...............



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น