วันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 41



Queen Seon Deok ( 善德女王/ 선덕여왕)
เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 41
Cr. : Dailynews Online


การกระทำของคุณชายชุนชูสร้างความ ไม่พอใจให้คิมยูซินเช่นกัน เพราะเขาเห็นว่ามีซิล กำลังคิดที่จะหลอกใช้คุณชาย แต่คุณชายชุนชูไม่ฟัง พร้อมทั้งขอตัวออกไปข้างนอก

“ทำไมเรื่องถึงกลายเป็นแบบนี้ คุณชายชุนชูจะยอมลดตัวเป็นหุ่นเชิดให้มีซิลจริงหรือนี่”

“ทำไมเขาถึงไม่เข้าใจเจตนาของฝ่าบาท เราจะปล่อยปละละเลยไม่ได้อีกแล้ว” ฮูหยินคิม กล่าว

“หึ....”

“มีซิล....ช่างเป็นคนที่ร้ายกาจนัก ขนาดเด็กที่ไม่ประสีประสาต่อการเมือง นางยังหลอกใช้ได้ลงคอ เขาเป็นทายาทคนเดียวของชอนมยอง เด็กขนาดนั้นยังเป่าหูให้หลงผิดได้” พระมเหสีมายา กล่าว

“ท่านยองชุน”

“พ่ะย่ะค่ะ”

“ทำไมนั่งเงียบไม่พูดล่ะ....กำลังคิดเรื่องอะไรอยู่หรือ” พระเจ้าจินพยอง ถาม

“ฝ่าบาท หม่อมฉันยองชุน....ขอบังอาจทูลเรื่องบางอย่าง....ให้คุณชายชุนชูเป็นรัชทายาท หม่อมฉันเห็นว่าเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง”

“ท่านยองชุน นี่ท่าน....พูดอะไรออกมารู้มั้ย”

“ไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นโอรสขององค์หญิงชอนมยอง เราน่าจะสนับสนุนเขาแต่แรก ให้เป็นรัชทายาทก็หมดเรื่องแล้ว” ยองชุน กล่าว

“เขากำลังจะเกี่ยวดองกับหลานสาวมีซิล ที่ชื่อโพยาง แล้วเขยในตระกูลของนาง อีกหน่อยจะเป็นพระราชาได้หรือ”

“ท่านยองชุน”

“ฝ่าบาท โปรดทรงใช้สติแยกแยะ แม้ว่ามีซิลจะสนับสนุนเขา แต่ยังไงก็ถือเป็นผลดีต่อ ราชสำนักมากกว่า ไม่แน่ถ้าผ่านทางเขา ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับมีซิล อาจค่อย ๆ ดีขึ้นก็ได้” ยองชุน กล่าว

คำพูดของคุณชายชุนชู ทำให้มีซิลอดคิดได้ว่านางไม่เคยคิด ไม่กล้าแม้แต่จะข้ามกำแพงอันหนาทึบของการเป็นเชื้อพระวงศ์ หรือคิดเปลี่ยนระบบการครองราชย์ แต่เขากลับทำได้ พวกเขาทำได้หมด

ต๊อกมานรีบมาเข้าเฝ้าพระเจ้าจินพยอง แต่ยังไม่ทันที่จะได้เข้าเฝ้า นางก็บังเอิญได้ยิน ยองชุนและคิมซอยอนคุยกันถึงเรื่องของคุณชายชุนชู

“เขาเป็นพระนัดดาของฝ่าบาท โอรสขององค์หญิงชอนมยองไม่ใช่หรือ”

“ถึงอย่างงั้นก็ไม่ควร..”

“ข้าไม่คิดว่าตัวเองจะผิดตรงไหน ถ้าให้ผู้หญิงครองราชย์ก็สู้เป็นคุณชายชุนชูดีกว่า อย่างน้อยก็ดูจะเข้ากับธรรมเนียมของเรา....เขาเป็นทายาทคนเดียวขององค์หญิงชอนมยอง ท่านก็รู้อยู่” ยองชุน กล่าว

“ใช่ ข้ารู้ดี แถมยังเป็นหลานอาของท่านด้วย....เป็นอย่างงั้นหรือเปล่า เขาเป็นลูกพี่ชายคือท่านยองซู โดยส่วนตัวแล้ว จึงถือเป็นหลานของท่าน”

“ฮึ่ม....นี่ท่าน....จะบอกว่าข้าหวังประโยชน์ส่วนตัว จึงสนับสนุนคุณชายงั้นหรือ ท่านกำลังคิดแบบนี้อยู่ใช่ไหม”

“ก็ความคิดของท่าน มีแต่อคติลำเอียงเข้าข้างหลานทั้งนั้น”

“หุบปากเดี๋ยวนี้ พวกท่านรู้จักสำรวมบ้าง” พระเจ้าจินพยอง ปราม

พีดัมมาต่อว่ายอจงเกี่ยวกับเรื่องของคุณชายชุนชู แต่เขาปฏิเสธว่าไม่เคยรู้เรื่องเลยจริง ๆ

“ท่านน่ะกระล่อนเป็นที่หนึ่ง ไม่เคยจริงใจกับใคร” พีดัม กล่าว

“แหม....พูดอะไรอย่างงั้นเล่า”

“เฮ่อ ๆ ๆ เพราะอย่างงี้ข้าถึงชอบท่านไง ตราบใดไม่เจอคนที่โหดกว่าข้า เชื่อว่าท่าน ไม่กล้าทรยศข้าหรอก...ฮึ่ม...เฮ่ย...แล้วจะทำไงดีเฮ่ย...”

“เอ่อ....แหม....ข้าก็บอกแล้วไง ถ้าเจ้าจะหนุนให้ต๊อกมาน....” ยอจง กล่าว

“อยากตายใช่ไหม”

“โอ๊ย....น่าเบื่อจริง มองข้าดี ๆ ได้ไหม เอาเถอะ ถ้าจะหนุนให้องค์หญิงต๊อกมาน ได้ครองราชย์จริงละก็ คุณชายชุนชูคือคู่แข่งสำคัญ”

“ไม่นึกว่าเขาจะออกหน้าเร็วขนาดนี้”

“ไหน ๆ มาถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าองค์หญิงต๊อกมานปราบเขาได้ ปัญหาก็จะจบ....หรือไม่จริงล่ะ เพื่ออำนาจแล้ว พ่อแม่ยังตัดขาดได้ นับประสา อะไรกับหลานชายที่ไม่สนิทชิดเชื้อด้วยแล้ว หือ.... อึ้ม....แค่นี้ก็สิ้นเรื่อง”

“จะบ้าหรือ ท่านไม่รู้นิสัยองค์หญิงต๊อกมานหรอก”

“แล้วยังไง” ยอจง ไม่เข้าใจ

“หึ....สำหรับองค์หญิง ถ้าจะเป็นศัตรูกับชุนชู....นางคงยอมแพ้ตั้งแต่แรกแล้ว....แน่นอน”

องค์หญิงต๊อกมาน ได้เข้าเฝ้าพระเจ้า จินพยอง นางรับปากกับพระเจ้าจินพยองว่า ขอให้เขาสบายใจได้ เพราะนางไม่เคยแข่งขันกับคุณชายชุนชู

“หึ....ถ้าอย่างงั้น เราจะปล่อยให้มีซิลทำตามใจชอบอีกหรือ”

“องค์หญิง นี่เป็นแผนของมีซิลชัด ๆ ถ้าเรายอมวางมือมิเท่ากับเป็นไปตามที่นางคิดไว้หรอกหรือ” คิมซอยอน กล่าว

“สิ่งที่นางต้องการ คือให้ข้ากับยองชุนเกิดความขัดแย้งขึ้นมา และนี่คือ....เป้าหมายที่แท้จริงของนางด้วย”

“ถ้าอย่างงั้น เจ้าจะทำไงต่อไป” พระเจ้า จินพยอง กล่าว

“เตรียมใจยอมรับความผิดหวัง หม่อมฉันขอยอมแพ้”

“เดี๋ยว....องค์หญิง...”

“แต่ว่า อดเป็นห่วงอนาคตของชุนชูไม่ได้” ต๊อกมาน กล่าว

“เขายังเด็กเกินกว่าจะลงสู่เวทีการเมือง ช่างน่าสงสารนัก ต่อไปคงจะถูกหลอกใช้อีก”

เมื่อจุปังรู้เรื่องก็คิดที่จะไปพูดขอร้องคุณชายชุนชู เนื่องจากเห็นใจองค์หญิงต๊อกมาน ที่อุตส่าห์ทำงานเพื่อบ้านเมืองมาตั้งนาน แต่โกโตห้ามไว้ เพราะไม่เชื่อว่าคุณชายชุนชูจะยอมลดตัวลงมาคุยกับจุปังง่าย ๆ

“ท่านยูซิน จริงหรือเปล่า ทำแบบนี้มันจะถูกหรือ คุณชายชุนชูบอกว่าจะเป็นรัชทายาท เขามีสิทธิที่ไหนกันครับ” จุปัง กล่าว

“เขาไม่ได้ออกหน้าเอง แต่ถูกมีซิลบงการ”

“รู้แล้วน่า อย่าพูดมาก”

“ถึงงั้นก็เถอะ ไม่ว่ายังไง องค์หญิงต๊อกมานก็ต้องชนะเขาให้ได้”

“แน่นอน ข้าก็ว่างั้น ถึงจะเป็นโอรสองค์หญิงชอนมยองก็เถอะ เขาก็เป็นฝ่ายผิด”

“อย่าห่วงเลย ไม่สำเร็จหรอก” ยูซิน กล่าวอย่างมั่นใจ

“เพราะอะไรครับ”

“แคยางสู่สวรรค์ ดวงใหม่มาแทน ชิลลา ฟ้าใส ทั้งหมดนี้หมายถึงองค์หญิงทั้งสอง”

“แล้วยังไง” แทพุง สงสัย

“คำว่าแคยางสู่สวรรค์ หมายถึงองค์หญิงชอนมยองสิ้นพระชนม์ ส่วนดวงใหม่ที่มาแทน ก็คือองค์หญิงต๊อกมาน....เพราะฉะนั้นการแข่งกับคุณชายชุนชู ก็เหมือนดาวสองดวงกำลังแย่งชิงกัน เท่ากับบั่นทอนกำลังตัวเองชัด ๆ และเป็นการตกหลุมพรางของมีซิลด้วย”

“ก็ถึงบอกไงครับ นี่คือความร้ายกาจของมีซิลเห็น ๆ จะเอาใครเป็นหุ่นเชิดก็ไม่ว่า ทำไมต้องเป็นโอรสขององค์หญิงชอนมยองด้วย หือ....นางก็มีคนออกเยอะแยะ ท่านเซจองเอย ท่านซอวอนเลย ช่วยนางไม่ได้หรือ เฮ่ย....” จุปัง กล่าว

“ท่านซอวอน ท่านเซจองหรือ”

“สามีก็ตั้งหลายคน ไหนจะลูกชาย อีก เฮ่ย....หือ....เป็นไรครับ....ทำไมดูงง ๆ.... อย่างงั้นล่ะ”

“จริงด้วย ใช่แล้ว....โอ๊ย....แย่จริง ทำไมข้านึกไม่ถึงนะนี่ หึ....” ยูซิน กล่าว

มีซิลอธิบายให้เซจองรู้ว่า การที่นางต้องการให้คุณชายชุนชูขึ้นครองราชย์ เพราะองค์หญิงต๊อกมานประกาศว่าจะครองราชย์โดยไม่มีคู่ครอง เท่ากับว่าปิดทางไม่ให้พวกนางได้แทรกแซงอำนาจ จากการที่คิดจะดึงราชบุตรเขยมาเป็นพวก เซจองเข้าใจในสถานการณ์ แต่ก็ยังขอให้มีซิลรับปากเขาเรื่องหนึ่ง นั่นคือ เรื่องแต่งงานระหว่างชุนชูกับโพยาง เพราะไม่อยากให้พวกเขาเกี่ยวดองกัน ซึ่งมีซิลไม่คัดค้าน

ฮาจองยังหวั่นใจกับการกระทำของมีซิล แต่เซจองอยากให้เขาเชื่อใจแม่ของตัวเอง

“เชื่อสิครับ ทำไมจะไม่เชื่อ แต่ว่า.... ข้าไม่เชื่อท่านซอวอนมากกว่า ใครจะรู้ว่าเขามีลูกเล่นหรือเปล่า เกิดอนาคต ชุนชูได้เป็นพระราชา แล้วไปแต่งงานกับผู้หญิงบ้านเขา ท่านซอวอน มิกลายเป็นพระญาติที่มีอิทธิพลเหนือกว่าฝ่ายเราหรอกหรือครับ เราก็ถูกข่มแย่น่ะสิ” ฮาจอง กล่าว

“พ่อก็ไม่ยอมเหมือนกัน ถึงให้แม่เจ้าสัญญามาก่อน ถ้าเป็นอย่างงั้นจริง บ้านเรามิถูกพวกเขากวาดล้างหมดสิ้นหรอกหรือ ส่วนพ่อกับแม่เจ้า ก็ไม่รู้จะอยู่ได้นานแค่ไหน”

“เห็นจะไม่ได้การ ไว้วันไหนเจอท่านแม่ข้าต้องไปพูดกับนางอีกครั้ง เฮ่ย....หึ....” ฮาจอง กล่าว

โซวาอยากรู้ว่าต๊อกมานจะทำอย่างไรต่อไป จะแย่งชิงตำแหน่งกับคุณชายชุนชูจริง ๆ หรือ

“เฮ่อ....ตอนเกิดสุริยคราส ข้าเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น นึกถึงว่าจะได้เปิดฉากต่อสู้กับมีซิล ใจข้าก็มีแต่ความฮึกเหิม แต่แล้ว ตอนนี้กลายเป็นชุนชูมาแทนที่ ข้ากลับรู้สึกกลัวนัก” ต๊อกมาน กล่าว

“คุณชายก็เหลือเกิน ต่อให้อายุยังน้อย ก็ไม่ควรทำเรื่องแบบนี้นะเพคะ”

“นี่คงเป็น....สิ่งที่ต้องแลกกับการต่อสู้กับมีซิลมั้ง ตอนนี้ข้ารู้สึกสับสน ไม่รู้จะทำไงต่อไปดีแล้ว”

“ท่านยูซินมาขอเฝ้า”

“ท่านมาแล้วหรือ เชิญนั่ง”

“องค์หญิง มีเรื่องแปลกบางอย่าง แต่ไหนแต่ไรมา มีซิลหวังให้ท่านเซจองครองราชย์ แล้วตัวเองเป็นมเหสี ส่วนเซจองก็อาศัยบารมีนางเพื่อหวังครองบัลลังก์เช่นกัน....แต่ตอนนี้ กลับมีชุนชูโผล่มา ซ้ำยังจะแต่งงานกับโพยาง ซึ่งเป็นคนของฝ่ายท่านซอวอน แล้วอย่างงี้ ท่านเซจองจะยอมรับเรื่องนี้ได้ยังไง....ทรงคิดว่า ท่านเซจองจะยอมอ่อนข้อง่าย ๆ หรือเปล่า” ยูซิน กล่าว

“ข้าคิดแต่ว่า สิ่งที่นางทำก็เพื่อต้องการ.... สร้างความร้าวฉานให้เกิดกับฝ่ายเราเท่านั้น”

“ใช่ หม่อมฉันคิดว่ามีความเป็นไปได้สองทาง หนึ่งคือบั่นทองกำลังของเรา โดยสร้าง ความแตกแยกระหว่างองค์หญิงกับคุณชายชุนชูให้มาก แต่จริง ๆ มันคือไพ่ลวงต่างหาก”

“แล้วยังไง ข้อสองล่ะ” ต๊อกมาน กล่าว

“ข้อสองก็คือ...เฮ่อ...เรื่องนี้อาจจะเหนือความคาดหมาย แม้แต่หม่อมฉันก็ไม่อยากเชื่อ และไม่อยากให้เป็นอย่างงั้นจริง ๆ”

“หึ....คืออะไรกันแน่ รีบพูดมาเร็ว ๆ” ต๊อกมาน กล่าว

“เหตุผลข้อสอง ข้อสองก็คือ....”

พระเจ้าจินพยองเรียกคุณชายชุนชูมาพบ เพื่ออธิบายให้เขาเข้าใจเกี่ยวกับการกระทำของเขา

“ถึงเจ้าจะอายุน้อย ไม่รู้เรื่องการเมือง แต่ก็ไม่ควรทำเรื่องแบบนี้....รู้มั้ยว่าเพราะความเบาปัญญาของเจ้า ทำให้ต๊อกมานเกิดความเข้าใจผิด หรือแม้แต่วิญญาณแม่เจ้าได้รู้ นางคงต้องร้องไห้ในปรโลก....เฮ่อ....มีหลายคนที่ยอมลดตัว เป็นหุ่นเชิดให้มีซิลแล้วแต่นางจะบงการ แต่ก็ไม่เคยได้เป็นรัชทายาท เพราะนางจะไม่ให้ใครได้เป็นพระราชาง่าย ๆ....หึ....เรื่องนี้เจ้าต้องจำไว้ด้วย”

ยองชุนมาขอคุยตามลำพังกับองค์ชายชุนชู เนื่องจากต้องการรู้เหตุผลว่าทำไมถึงร่วมมือกับมีซิลและไปก่อกวนการประชุมของขุนนาง

“ข้าทำอย่างงั้น คิดว่าไม่ถูกหรือไง”

“เสด็จแม่ของคุณชายคือองค์หญิงชอน มยอง ทรงสิ้นพระชนม์เพราะใครไม่ทันไรก็ลืม แล้วหรือ....ใคร ๆ ก็รู้ว่ามีซิลต้องการหลอกใช้คุณชาย ซึ่งเป็นเรื่องจริงแน่” ยองชุน กล่าว

“ฝ่าบาทรับสั่งว่า ใครที่เป็นหุ่นเชิดให้มีซิล จะไม่มีทางได้เป็นรัชทายาทแน่นอน”

“ฝ่าบาททรงมีความคิดแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก”

“ถ้าอย่างงั้น ความคิดของท่านยองชุนล่ะ เป็นยังไงบ้าง ชีวิตคนเรา หรือแม้แต่อนาคตเป็นสิ่งที่คาดเดายาก และข้ายังเด็กอยู่มาก เพราะฉะนั้นข้าก็เลย....ท่านคิดว่าข้า....จะอยู่ได้นานกว่ามีซิลหรือเปล่า”

“หา....หมายความว่า....”

“ถ้าท่านมองเห็นเรื่องนี้ และยินดีมาเป็นผู้ช่วยข้า อีกหน่อยถ้าข้าเป็นรัชทายาทจริง รับรองว่าจะไม่ลืมความดีความชอบของท่านเลย แล้วตอนนี้ท่านจะคิดยังไง ยอมที่จะ....มาช่วยข้าทำงานมั้ย” คุณชายชุนชู กล่าว

พีดัมเข้ามาพบองค์หญิงต๊อกมาน เมื่อเห็นต๊อกมานนั่งเหม่อ จึงอดถามไม่ได้ว่า คิดถึงเรื่องแย่งชิงตำแหน่งกับคุณชายชุนชูอยู่ หรือคิดที่จะยอมแพ้

“ข้ากับชุนชูจะไม่มีวันแย่งกันเอง ข้อนี้ยังไงข้าก็ไม่เปลี่ยนใจ เพราะรู้แล้วว่ามีซิล ต้องการยุยงให้เราแตกหัก และรวมถึงการสร้างความร้าวฉานในราชสำนักด้วย ตอนนี้ท่านยองชุน....ก็ดูจะเสียหลักไปคนหนึ่งแล้ว ที่น่าแปลกก็คือ ทำไมจนวันนี้ ยังไม่เห็นมีซิลทำอะไรซ้ำอีก ความเงียบทำให้ข้าไม่สบายใจ.... หรือว่า ข้อสันนิษฐานที่สองของท่านยูซิน จะเป็นจริงมากกว่า”

“คืออะไรแน่”

“เฮ่อ....ช่างเถอะ คงไม่เป็นอย่างงั้นหรอก ข้าเชื่อว่ามีซิล ยังไงก็ไม่มีทางทำแบบนั้น....มีซิล....” ต๊อกมาน กล่าว

คุณชายชุนชูมาขอพบโพยาง แต่ซอวอนบอกว่า นางไม่อยู่เนื่องจากไม่สบาย เขาเลยส่งตัวไปหาหมอ คุณชายจึงฝากบอกโพยางด้วยว่า เขามาหา และขอให้นางหายเร็ว ๆก่อนจะกลับออกไป

โฮแจ วังยุน และพีทัน ถูกนัดมาพบที่บ้านของท่านเซจอง โดยมีซอวอนแอบตามมาคอยสังเกตการณ์ไม่ห่าง พร้อมกับสั่งให้โพจองรีบไปส่งข่าวให้ปาร์คอึย ต๊อกชุนและซอยอ รีบมาพบเขาที่บ้านเดี๋ยวนี้ บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะหารือ

ยองชุนเห็นด้วยกับการที่คุณชายชุนชูจะขึ้นครองราชย์ เพราะเขาอยู่ในฐานะโอรสขององค์หญิงชอนมยอง

“แต่ว่า ในขณะที่องค์หญิงต๊อกมานทรงประกาศจะเป็นรัชทายาทเอง แล้วเราทำอย่างงั้น มิเท่ากับสวนกระแสหรือครับ” ยิมจง กล่าว

“แต่องค์หญิงก็ทรงยืนกรานหนักแน่น ว่าจะไม่มีวันแย่งชิงกับคุณชาย....ซึ่งมันก็ถูกแล้ว ถ้าองค์หญิงต๊อกมานเกิดบาดหมางกับคุณชายชุนชูจริง คนที่ได้ประโยชน์ก็คือมีซิลเท่านั้น ที่บอกให้เจ้ารู้ เพราะไม่อยากให้ไปรวมกลุ่มกับองครักษ์อื่น แค่รอคำสั่งจากข้าก็พอ เข้าใจมั้ย”

“ครับ”

คุณชายชุนชูมาพบยอจง เขาอดถาม องค์ชายชุนชูไม่ได้ว่า ไม่กลัวถูกมีซิลหลอกใช้หรือ เพราะได้ยินมาว่าเป็นแผนของท่านมีซิล ที่จะให้คุณชายกับองค์หญิงต๊อกมานกลายเป็น อริกัน

“หึ...ฉลาดจริง ๆ ที่ท่านก็รู้จักคิดแบบนี้”

“หา...”

“วันนี้พีดัมมานี่หรือเปล่า” คุณชายชุนชู ถาม

“มาครับ ปากก็บอกว่าองค์หญิงต๊อกมานจะไม่มีวันแย่งชิงกับคุณชาย แต่ในใจก็อดเป็นห่วงไม่ได้นะครับ เฮ่อ ๆ ๆ”

“หึ ๆ งั้นหรือ”

“เฮ่อ ๆ ๆ...คุณชายก็มีแผนอื่นอยู่แล้วใช่ไหม”

“ท่าน...ช่วยข้าทำงานอย่างหนึ่งได้ไหม”

“หา...อะไรครับ...อ๋อ...เฮ่อ ๆ ๆ” ยอจง กล่าว

ท่านเซจองฝากจดหมายฉบับหนึ่งให้โฮแจเอาไปให้พ่อของเขาให้ได้ ในขณะที่คิมยูซิน ที่คอยดูความเคลื่อนไหวของพวกเขาอยู่ ก็ไปรายงานให้ไอชองและองค์หญิงต๊อกมานทราบว่าพวกเขาสังสรรค์กันอยู่ที่บ้านของท่านเซจอง

“ส่วนทางท่านซอวอน ก็มีโพจอง ซกพุง ต๊อกชอน ปาร์คอึย ไปสังสรรค์เหมือนกัน”

“ท่านเซจองและซอวอน ต่างก็เร่งหาสมัครพรรคพวก” องค์หญิงต๊อกมาน กล่าว

“แต่คนที่กังวลมากกว่า น่าจะเป็นท่านเซจอง เพราะถ้าคุณชายชุนชูกับโพยางได้แต่งงานจริง ท่านเซจองคงจะไม่พอใจอย่างมาก”

“หมายความว่า สุดท้ายพวกเขาอาจ กลายเป็นศัตรูหรือเปล่า”

“การที่แต่ละฝ่ายพยายามรวบรวมคนให้มาก ก็เพื่อป้องกันอีกฝ่ายไม่ให้มาก้ำเกินตัวเอง”

“หึ....เหตุการณ์ดูไม่ค่อยปกตินัก” ไอชอง กล่าว

“มีซิล แผนที่เราวางไว้ ถูกทำลายก็เพราะมีซิลคนเดียว”

“ใช่ ได้ยินว่าท่านยองชุน....ได้ไปพบคุณชายชุนชูตามลำพัง แต่คุยเรื่องอะไรบ้าง,ไม่มีใครรู้” คิมยูซิน กล่าว

“แต่ว่า ที่บาดหมางจริง ๆ กลับเป็นท่านซอวอนกับท่านเซจองต่างหาก”

“ถ้าอย่างงั้น นี่คือ....”

“อีกอย่าง ในช่วงคาบเกี่ยวแบบนี้ มีซิล กลับเก็บตัวไม่พบใคร...ถ้ามีซิลหวังจะให้ชุนชูเป็นหุ่นเชิดจริง ป่านนี้น่าจะดีดลูกคิดรางแก้วไปถึงไหน ๆ แต่นี่...นางกลับไม่ทำอะไรเลย นี่สิน่าแปลก...หรือว่านางจะกำจัดท่านเซจองให้พ้นทาง” องค์หญิงต๊อกมาน กล่าว

“เรื่องนี้คงเป็นไปไม่ได้ ท่านเซจองมีอิทธิพลต่อสภาขุนนาง ที่สำคัญเป็นคนที่กุมอำนาจฝ่ายบริหารส่วนใหญ่”

“ใช่ ที่สำคัญ ถ้าเราไม่มีรัชทายาท เขาจะมีสิทธิครองราชย์ต่อทันที”

“เมื่อเป็นแบบนี้ การจะขจัดท่านเซจองคงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก” ไอชอง กล่าว

“อีกอย่าง ถ้ามีซิลคิดตัดขาดกับท่านเซ จองจริง นางคงไม่ปล่อยให้ยืดเยื้อนานนัก ใช้วิธีลอบสังหารก็ได้...ถ้าอย่างงั้น ข้อสันนิษฐานนี้ก็เป็นอันตกไป งั้นก็...อาจจะ...หรือว่า...จะเป็นอย่างท่านยูซินพูดจริง ๆ ข้อสันนิษฐานที่สอง... หึ...ตายล่ะจะเกิดเรื่องอย่างงั้นจริงหรือ” องค์หญิงต๊อกมาน กล่าว

ซอวอนเพิ่งรู้จากสาวใช้ว่า มีชายหลายคนมาลักพาตัวโพยางไป โพจองที่บังเอิญมาได้ยิน ก็ขอว่าอย่าให้เป็นฝีมือของมีซิลเลย

“ถ้าชุนชูกับโพยางแต่งงานกันจริง ฐานะ ของท่านเซจองก็จะง่อนแง่น เขาเลยใช้วิธีตัดไฟแต่ต้นลมหรือเปล่าครับ”

“เขาไม่กล้าอย่างงั้นหรอก คนอย่างท่าน เซจองจะไม่ใช้วิธีสกปรก” ซอวอน กล่าว

“ใช่ ท่านเซจองอาจจะไม่คิด แต่ยังมีฮาจองอีกคน หมอนี่มันต่ำช้านัก สามารถทำได้ทุกอย่างน่ะครับ”

คุณชายชุนชูทำทีเข้ามาช่วยโพยาง สร้าง ความดีใจให้โพยางยิ่งนัก โดยไม่ทันเฉลียวใจเลยว่า การที่นางถูกลักพาตัวมาเป็นฝีมือของคุณชายชุนชูนั่นเอง

มีซิลให้สาวใช้ไปตามพีดัมมาพบ เพราะ รู้มาว่าเขามารอเพื่อจะเข้าพบนานแล้ว

“แผนที่ท่านวางไว้ คราวนี้คงจะสำเร็จยาก....องค์หญิงต๊อกมานทรงยืนยัน จะไม่แย่งชิงกับคุณชายชุนชูเด็ดขาด ถึงคราวจำเป็นจริง ๆ องค์หญิงก็จะหลีกทางให้ ไม่มีการแก่งแย่งอีก...นางมีจุดยืนชัดเจนที่หวังจะครองราชย์ให้ได้ ตั้งแต่แรกเริ่มก็มีความคิดที่ไม่เหมือนคนอื่นอยู่แล้ว....เพราะฉะนั้นถ้าคุณชายชุนชูยอมเดินตามหมากของท่าน เห็นทีจะไปไม่ถึงเป้าหมาย” พีดัม กล่าว

“แล้วยังไง เจ้ามาเพื่ออะไร”

“นี่ไม่ใช่เวลา...ที่จะมานอนอย่างสำราญบานใจได้อีก...เพราะอะไร ท่านถึงเอาแต่นอนและไม่พบใครเลย”

“แค่นี้ เจ้าเลยอยากรู้ใช่ไหม ทำไมในช่วงคับขัน ข้ากลับไม่แสดงทีท่าอะไร เอาแต่เก็บตัว มีคนส่งเจ้ามาล่ะสิ...อ้อ...หึ ๆ ๆ อาจไม่ใช่อย่างงั้น เจ้าเสนอหน้ามาเอง เพราะอยากได้ผลงานใช่ไหม ใช่แน่ เป็นอย่างงั้นล่ะสิ” มีซิล กล่าว

“ข้าอยากรู้ว่าท่าน...จะนอนถึงเมื่อไหร่ถึงจะพอใจ”

“ยังหรอก ยังไม่พอใจ”

“หา...อะไรนะ” พีดัม ตกใจกับคำพูดของมีซิล

“เจ้าอยากจะ...ตามข้าไปทำอะไรสนุก ๆ เอามั้ย”

ท่านซอวอนและโพจองมาพบฮาจอง เพื่อถามเรื่องของโพยาง แต่ฮาจองปฏิเสธว่าเขาไม่รู้เรื่อง แต่พวกเขาสองคนไม่เชื่อ พร้อมกับให้ส่งตัวโพยางมาเดี๋ยวนี้ แต่ฮาจองก็ยังปฏิเสธเสียงแข็ง พร้อมกับตัดบทว่าไม่เชื่อก็ตามใจ

ไอชองเข้ามาบอกให้องค์หญิงต๊อกมานและคิมยูซินทราบว่าตอนนี้ท่านเซจองกับท่านซอวอนทะเลาะกัน โดยมีสาเหตุมาจากการที่โพยางหายสาบสูญไป

“โพยางหายสาบสูญหรือ หึ...”

“ถ้าหาก...เป็นเพราะท่านเซจองจับโพยาง ไปจริงละก้อ...ประเด็นก็คือการครองราชย์ของคุณชายชุนชู จึงต้องขัดขวางไม่ให้แต่งงานกับคุณหนูโพยางหรือเปล่า” ไอชอง กล่าว

“เป็นไปไม่ได้”

“โพยาง...นี่แปลว่า...ที่นางหายตัวไป...”

“ไม่ผิดแน่ เป็นฝีมือคุณชายชุนชู” ยูซิน กล่าว

“ท่านเอาอะไรมาพูดน่ะ คุณชายชุนชูหรือ”

มีเซ็งก็ทราบข่าวการทะเลาะกันของท่านซอวอนกับท่านเซจอง เพราะการหายตัวไปของโพยางเช่นกัน เขาจึงเตรียมที่จะไปพบกับมีซิล แต่แทนัมโพว่า ตอนนี้มีซิล ออกไปเที่ยวนอกเมือง ซึ่งการที่มีซิลออกไปนอกเมืองครั้งนี้ มีชิซูและพีดัมตามไปด้วย

ส่วนต๊อกมานก็สั่งให้ยูซินตามหาตัวคุณชายชุนชูให้พบ ระหว่างนั้นทหารได้เข้ามารายงานว่าพบตัวคุณชายชุนชูแล้ว ตอนนี้กำลังไปที่ตำหนักใหญ่

คุณชายชุนชูมาเข้าเฝ้าพระเจ้าจินพยอง เพื่อบอกให้ทราบว่า เขาได้แต่งงานกับโพยาง และเข้าหอด้วยกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“แต่งงาน เจ้าบอกว่าแต่งงานหรือ กับ ผู้หญิงคนนี้”

“ในที่สุดเจ้าซอวอนก็....หึ....”

“หา....นี่มัน....ทำไมถึงได้....” ฮาจองตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน

“เพราะฉะนั้น หม่อมฉันจึงพามาเข้าเฝ้า เพื่อขอให้ฝ่าบาททรงยอมรับด้วย” คุณชายชุนชู กล่าว

ต๊อกมานเริ่มเข้าใจในการกระทำของคุณชายชุนชู และมั่นใจว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น เป็นเพราะเขาต้องการสร้างขั้วอำนาจขึ้นมาใหม่ และที่ผ่านมา เขาเพียงหลอกใช้มีซิล เท่านั้น ซึ่งตรงกับข้อสันนิษฐานของคิมยูซิน ก่อนหน้านี้ แม้พระเจ้าจินพยองจะเห็นว่า เขายังเด็กนักที่จะลงสู่เวทีการเมือง แต่ต๊อกมาน กลับไม่คิดอย่างนั้น เพราะนางเห็นว่า ชุนชูไม่ใช่เด็กอย่างที่หลายคนคิด และแท้จริงแล้ว เขาอยู่บนสนามการเมืองมานานแล้ว





..............จบตอนที่ 41...........



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น