วันอังคารที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 49



Queen Seon Deok ( 善德女王/ 선덕여왕)
เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 49
Cr. : Dailynews Online


ขณะเดียวกันต๊อกมานกำลังเผชิญ หน้าอยู่กับมีซิลที่ลานฝึก นางท้าทายมีซิลอยู่ใน ใจ มีซิลจ้องต๊อกมานด้วยแววตาเคียดแค้น พร้อมกับยิงธนูปักเข้ากลางอกด้านซ้ายของต๊อกมานจนนางเซล้มลง แต่ไม่นานต๊อกมานก็แข็งใจลุกขึ้นอีกครั้งพร้อมหยิบมีดโซยับที่ห้อยคอไว้ออกมา ซึ่งธนูปักเข้ากับมีดโซยับ ทำให้ต๊อกมานไม่เป็นอะไรมาก

ที่ตำหนักยินคัง คิมยูซินนำกำลังทหารมาช่วยอารักขาพระเจ้าจินพยอง จนเกิดการต่อสู้กับทหารของมีซิลที่เฝ้าอยู่ด้านหน้า แต่ทหารของมีซิลก็พ่ายแพ้ย่อยยับ

“คิมยูซิน”

“หึ....พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท หม่อมฉันคือ คิมยูซิน ฝ่าบาททรงวางพระทัยได้แล้ว....หม่อมฉันพาองครักษ์ มาถวายอารักขาฝ่าบาทแล้ว”

“หา....แล้วต๊อกมานล่ะ ต๊อกมานอยู่ไหน” พระเจ้าจินพยอง กล่าว

ด้านเซจองและซอวอนรู้ว่ากำลังเสียเปรียบจึงรีบเตรียมตัวไปบอกให้มีซิลรู้ จะได้รีบหนี

ต๊อกมานขอบใจพีดัมที่พาพวกมาช่วยสมทบ จนสามารถกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบ มีซิล พร้อมกับสั่งให้สกัดมีซิลอย่าให้ออกจากวังหลวง พร้อมจับตัวมาให้ได้

มีซิลสั่งการให้ซอวอนเตรียมเกี้ยวไว้เพื่อพานางหนีออกนอกวังหลวง

“ใต้เท้าคิม....พาทหารมุ่งมาทางนี้แล้วครับ”

“หมายความว่า เราใช้ทางนี้ออกไปไม่ได้แล้วใช่ไหม”

“ไม่แน่ทางอื่นอาจจะถูกปิดด้วย คงต้องฝ่าวงล้อมซะแล้ว....ไม่ว่ายังไงก็ต้องพาท่านเซจูออกไป ได้ยินมั้ย” ซอวอน กล่าว

“ครับ”

“ไม่ต้องทำให้วุ่นวายนักหรอก”

“ท่านเซจู”

“ให้ฝ่าวงล้อม แล้วออกไปทางประตูหน้าของวังหลวง” มีซิล กล่าว

“ถึงเราจะหนีออกไป แต่ถ้าเจอทหาร เมื่อไหร่ ทุกคนต้องแห่มาเล่นงานเซจูแน่ เพราะ ฉะนั้น ยังไงก็ต้องปกป้องท่านเซจูไว้ แล้วนางจะไม่ลืมความดีความชอบของทุกคน ใครที่เสียสละเพื่อนาง, เราจะจดจำไว้ เพื่อท่านเซจูแล้ว เราพร้อมจะยอมตาย”

“ทุกคนในที่นี้ได้ดีก็เพราะท่านเซจู ใครบ้างที่ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากนาง....ก็เชิญไปได้” โพจอง กล่าว

“ครับ เพื่อท่านเซจูแล้ว เราพร้อมสละชีวิต”

“พวกเรายอมตายเพื่อท่านเซจู” เหล่าทหารพร้อมใจกันเปล่งเสียง

“งั้นก็ไปได้ กองทัพของมีซิล”

“เย้....”

กุกซอนทูลให้ต๊อกมานทราบว่ามีซิล กำลังหนีออกไปทางประตู “วา-พยอง” ทิศเหนือ ต๊อกมานจึงรีบนำความมาบอกให้คิมยูซิน ทราบทันที

“อะไรนะ นางจะออกทางประตูวาพยองหรือ”

“อะไรนะ มีซิลน่ะหรือ”

“อาจเป็นกลลวงของนางก็ได้” ต๊อกมาน สันนิษฐาน

“ไม่พ่ะย่ะค่ะ นางหนีไปทางนั้นจริง ๆ”

“นึกว่านางจะใช้แผนหลอกซ้ายล่อขวา แต่จริง ๆ ไม่ใช่ ถ้าอย่างงั้น ตอนนี้เราจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบมากกว่า เพราะทหารของท่าน จูจินยังมาไม่ถึง”

“ใช่”

“บอกทหารทุกคน ให้ไปที่ประตูทิศเหนือ” ต๊อกมาน กล่าว

“พ่ะย่ะค่ะ”

“เราจะปล่อยให้มีซิลหนีไปไม่ได้ ข้าจะไปดูด้วยตัวเอง”

ที่ประตู “วาพยอง” องครักษ์ของ ต๊อกมาน กำลังสู้อยู่กับฝ่ายของมีซิล ด้านโกโตรีบนำบัญชาจากต๊อกมาน ไปขอความช่วยเหลือจากจูจิน ให้รีบไปช่วยสกัดกั้นมีซิล ซึ่งจูจินไม่รอช้า รีบส่งคนไปช่วยสู้กับฝั่งของมีซิลทันที

ไอชองทูลให้ต๊อกมานทราบว่า ตอนนี้มีซิลสามารถฝ่าวงล้อมออกไปได้สำเร็จ ซึ่งใต้เท้าคิมกำลังไล่ล่าอยู่

“คนที่มีซิลพาไปมีจำนวนเท่าไหร่”

“อาจจะไม่มากนัก แต่คิดว่าคงไปสมทบ กับทหารของท่านเซจองที่ปกป้องเมืองหลวงอยู่” คิมยูซิน กล่าว

“ตอนนี้ให้ท่านจูจิน ไปช่วยใต้เท้าคิมจับพวกเขากลับมาให้หมด”

“พ่ะย่ะค่ะ องค์หญิง”

“ทำงานให้เร็วล่ะ ก่อนที่พวกเขาจะออกจากเมืองหลวง, ต้องจับมาให้ได้....ไม่งั้นถ้าไปรวมตัวที่ใดที่หนึ่งเข้าอีก ไม่แน่ว่า จะเกิดสงครามกลางเมือง”

“สงคราม....กลางเมืองหรือ”

มีซิลวางแผนการไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยการติดต่อกับเจ้าเมือง “แทยาซอง” เอาไว้

“เมืองแทยาซองหรือ”

“ถ้าเป็นเมืองนี้ละก็ ชัยภูมิดีนัก เป็น ที่ ๆ ใครก็ไม่อาจโจมตีได้ง่าย ๆ แหม.... แบบ นี้ค่อยมีความหวังขึ้นมาหน่อย”

“แต่ว่า ตอนนี้เราจะพักผ่อนมากไม่ได้ เพราะกำลังทหารมีไม่พอ ก่อนที่พวกเขาจะตามมา,เราต้องไปให้ถึงแทยาซองก่อน”

“เฮ่อ....ทหารของเรา บางส่วนยังอยู่กับฮาจอง รีบไปเถอะ” เซจอง กล่าว

“ได้ เฮ่ย....”

“ท่านเซจู....เดินทางต่อได้แล้ว”

“ได้ ส่งข่าวไปถึงเมืองแทยาซองแล้วใช่ไหม” มีซิล กล่าว

“ใช่ ขอเพียงเข้าถึงเขต “คูจิน” เจ้าเมืองจะออกมาต้อนรับเราทันที”

“ดี”

“ยังไงก็อย่าเพิ่งท้อน่ะครับ”

“แน่นอนอยู่แล้ว เพราะจุดยืนของเราได้สลับกันแล้ว นับแต่นี้ไป คนที่ต้องทำงานแข่งกับเวลาก็คือต๊อกมาน” มีซิล กล่าว

ด้านต๊อกมานกำลังเครียดกับการที่มีซิล สามารถฝ่าวงล้อมออกไปนอกวังได้สำเร็จ

“ก่อนอื่น เราต้องคุมราชสำนักให้ได้ทั้งหมด”

“ใช่ เพราะ 40 ปีมานี้ อยู่ใต้การ ปกครองของมีซิลมาตลอด” คิมยูซิน กล่าว

“แค่แบ่งว่าใครเป็นพวกนาง ใครเป็นฝ่ายเรา แค่นี้ก็เป็นเรื่องยากแล้ว”

“ใต้เท้าคิมมาขอเฝ้า”

“ทำงานเป็นไงบ้าง”

“ทรงอภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ....เราตามไป เกือบทันอยู่แล้ว จู่ ๆ เจ้าเมืองแทยาซอง ก็พาทหารออกมาขวางหน้าเราไว้” คิมซอยอน รายงาน

“เจ้าเมืองแทยาซองหรือ”

“ใช่ เมืองแทยาซอง และพวกเขาก็ไปอยู่ที่นั่น”

ฮาจองกำลังตื่นเต้นกับเมืองแทยาซอง ซึ่งถือเป็นเมืองป้อมปราการที่แข็งแรง ซึ่งมีเซ็งเสริมอีกว่า ไม่ใช่แค่นั้น แต่ยังมีอีกหลายเมืองที่แสดงความจำนงว่ายินดีให้ความช่วยเหลือแก่เราอีก มีซิลจึงย้ำกับทุกคนว่าขอเพียงเราไม่ยอมแพ้ สักวันจะต้องชนะอีก

ชิซูสั่งทหารแบ่งเป็นกลุ่มเล็กหลาย ๆ กลุ่ม ลาดตระเวนไปทุกแห่งตลอดเวลา ที่สำคัญ ระวังจะมีไส้ศึก

“สุดท้าย....ยังต้องสู้รบอีกหรือครับ” ซกพุง สงสัย

“อาจจะเป็นอย่างงั้น”

“ตลอดเวลาที่ผ่าน ไม่ว่าท่านเซจูจะทำอะไร, มักคิดถึงบ้านเมืองเสมอ”

“เดี๋ยวนี้ไม่ใช่อย่างงั้นแล้วหรือ”

“มันไม่สำคัญอีกแล้ว”

“เพราะอะไร”

“เพราะนางให้เกียรติข้า มอบหมายงานสำคัญให้ข้าทำ ให้ข้าได้เป็นหัวหน้าหน่วยองค รักษ์ พ่อแม่ลูกเมีย ได้อยู่อย่างมีความสุข หึ.... สิ่งที่ข้ามี ไม่ใช่ใครให้....แต่มาจากท่านเซจูคนเดียว”

“หมายความว่า นางสำคัญกว่าบ้านเมืองหรือ”

“ข้าก็รู้สึกเสียใจ แต่ว่า....หึ....ถึงขั้นนี้ทำให้เรียนรู้เรื่องหนึ่ง ว่าข้า....แท้จริงแล้ว แทบ ไม่มีความหมายต่อใครเลย....หึ....คำพูดของข้าอาจทำให้ท่านไม่สบายใจ ต้องขออภัยด้วย”

“ข้าก็คิดเหมือนเจ้า” ชิซู กล่าว

ต๊อกมานเรียกประชุมหลายฝ่าย เพราะไม่อยากให้เหตุการณ์ร้าย ๆ อย่างสงครามกลางเมืองเกิดขึ้น นางจึงคิดที่จะปรับโครงสร้างกองทัพใหม่ เป็นอันดับแรก

“ใช่ เพราะหลายปีนี้กองทัพขึ้นกับซอวอนคนเดียว ถ้าไม่สังคายนาซะใหม่ ทหารจะไม่มีกำลังใจต่อสู้อีก” คิมซอยอน กล่าว

“หม่อมฉันกับท่านพ่อจะช่วยกัน.... สะสางเรื่องนี้ให้เรียบร้อย”

“ดีมาก ส่วนท่านยองชุนกับชุนชู รับผิดชอบเรื่องตรวจสอบเจ้าหน้าที่ทำงานในวัง ว่า ตอนนี้เหลืออยู่มากน้อยแค่ไหน”

“พ่ะย่ะค่ะ”

“ส่วนข้ากับท่านไอชอง จะตรวจรายชื่อขุนนางและหน่วยงาน ที่อยู่ใต้อำนาจของมีซิล, จัดการโยกย้ายให้เหมาะสม”

“แต่ว่า รอบ ๆ เมืองแทยาซอง เราต้องส่งทหารไปคุมหรือเปล่า” ไอชอง กล่าว

“ก็ดี รบกวนใต้เท้าคิม ให้คอยประสานงานกับท่านจูจิน บอกให้เขาส่งทหารไปปักหลักอยู่รอบเมืองแทยาซอง โดยเฉพาะประตูเมืองทุกด้าน ให้จับตาดูไว้”

“พ่ะย่ะค่ะ”

“ถ้าไม่รีบคุมสถานการณ์ให้เรียบร้อย บ้านเมืองจะยิ่งวุ่นวายและขับเคลื่อนลำบาก จึง ต้องขอให้ทุกคนเร่งมือ” ต๊อกมาน กล่าว

ยอจงสงสัยว่าทำไมพีดัมถึงไม่เข้าร่วมประชุมกับต๊อกมานด้วย ซึ่งพีดัมว่า เพราะเขาไม่ใช่ขุนนาง ยอจงจึงแนะนำให้เขาขอตำแหน่งจากองค์หญิง แต่พีดัมปฏิเสธ อ้างว่าชอบทำงานที่เป็นอิสระมากกว่า

“ไม่ใช่อย่างงั้น เมื่อก่อนอาจจะยังไงก็ได้ แต่ตอนนี้เรามีผลงาน มากน้อยก็ควรมีการตอบแทนบ้าง....เอ่อ....คุณชายชุนชูมีท่านยองชุน ท่านยูซินก็มีใต้เท้าคิม ท่านไอชองเป็นหัวหน้าองครักษ์ แถมพ่อก็เป็นขุนนางผู้ใหญ่ แล้วเจ้าล่ะ ไม่เห็นมีอะไรสักอย่างเลย....ขืนเป็นแบบนี้ ทำงานจนตายก็ไม่เหลืออะไรแน่”

“หึ....”

“พีดัม”

“พ่ะย่ะค่ะ”

“พอมีลูกน้องบางคน ให้ไปทำงานในเมืองแทยาซองได้หรือเปล่า” ต๊อกมาน กล่าว

“ได้ หม่อมฉันจะหาดู”

“ถ้าอย่างงั้น ให้เจ้ารับผิดชอบ ส่งคนแอบเข้าเมืองแทยาซอง ให้คอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของมีซิล....หึ....รบกวนเจ้าหน่อยนะ ใช้คนอื่นก็ไม่ไว้ใจเหมือนเจ้า”

“พ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันเข้าใจดี เห็นมั้ยล่ะ องค์หญิงทรงไว้ใจข้า ถึงได้มอบงานสำคัญให้ทำอยู่เรื่อย” พีดัมหันไปบอกยอจง

“เข้าใจผิดแล้ว บางคนก็ดูแลทหาร บางคนก็อยู่ในวัง มีแต่เราสองคนที่ไปตะลอน ๆ อยู่ข้างนอก คอยหาข่าวอะไรก็ไม่รู้” ยอจง กล่าว

“ชอบมองคนในแง่ร้ายอยู่เรื่อย เดี๋ยวเถอะ”

“ข้าไม่ได้คิดในแง่ร้าย แต่เพราะเจ้าอยู่กับมุนโนนานเกินไปเลยไม่รู้จักคำว่าทำงานเป็นกลุ่ม”

“ข้าก็รู้จักคำนี้เหมือนกันล่ะน่า ฮึ....” พีดัม กล่าว

พวกทหารที่ถูกคุมตัวไว้ร้องเรียนว่าถูกปรักปรำ ทุกอย่างเป็นคำสั่งของท่านซอวอน พวกเขาแค่ทำตามเท่านั้น

“คนพวกนี้ เคยติดตามท่านซอวอนไปรบที่เนิน “พันยาง” ในสมัยก่อนน่ะครับ”

“ศึกที่พันยางน่ะหรือ”

“ใช่ พอกลับมา ท่านซอวอนก็ให้เลื่อนตำแหน่งหมด” จุปัง กล่าว

“ส่วนพวกนี้ ก็เคยไปออกรบที่ “ชูแคยอง” เหมือนกัน”

“ชูแคยองหรือ”

“อึม...”

“เมื่อกี้ เรากำลังดูประวัติทหารแต่ละคน เพื่อดูว่าคนไหนที่สนิทกับท่านซอวอนเป็นพิเศษน่ะครับ” แวยา กล่าว

“แต่ว่า คือ....ข้าว่าใช้วิธีแบบนี้คงแยกแยะลำบากน่ะครับ เพราะว่าท่านซอวอนคุมกองทัพมาตั้ง 25 ปี ระหว่างนั้นผ่านศึกใหญ่น้อยมาตั้งเท่าไหร่ ที่สำคัญ คนที่ได้ดิบได้ดีเพราะเขาก็มีมากจนนับไม่ถ้วน แล้วจะให้ไล่เรียงทีละคน...”

“เฮ่ย...”

“ถึงงั้นก็ไม่มีวิธีอื่น เราต้องค่อย ๆ แกะ รอย เพื่อให้รู้ว่าใครสนิทกับท่านซอวอนบ้าง” คิมยูซิน กล่าว

“โธ่เอ๊ย...แต่มัน...”

“ถ้าไม่ทำแบบนี้ เราจะสั่งทหารให้ไปสู้กับมีซิลได้ยังไง...ฉะนั้นไม่ว่ายังไงก็ต้องแยกให้ได้ เพื่อที่เราจะได้ทำงานต่อ”

“ครับ”

ต๊อกมานไปตรวจดูการสร้างตำหนักใหม่ แต่ไม่มีอะไรคืบหน้า ซึ่งขุนนางได้รายงานว่า ที่เป็นแบบนี้เพราะงบประมาณและการดำเนินงาน อยู่ในความรับผิดชอบของท่านเซจองกับฮาจอง เพียงสองคนเท่านั้น คนอื่นแทบไม่รู้เรื่องเลย และตั้งแต่ท่านเซจูออกจากวังไปงานก็ค้างไว้อยู่

“ถึงอย่างงั้นก็เถอะ เรื่องแบบนี้ ทำไมรู้แค่คนสองคนเท่านั้น”

“เอ่อ...นั่น...เป็นเพราะว่า...ส่วนใหญ่โครง การที่ใช้งบประมาณสูง มักมีการดำเนินงานอย่างลับ ๆ คนนอกเลยไม่รู้พ่ะย่ะค่ะ”

“หึ...งั้นก็ช่างเถอะ ท่านไปได้แล้ว”

“พ่ะย่ะค่ะ”

“องค์หญิง...ตามกำหนดควรจะมีอาวุธส่ง มา แต่จนวันนี้ยังไม่เห็นวี่แววพ่ะย่ะค่ะ” ไอชอง กล่าว

“อาวุธอะไรกัน”

“เราไปจ้างช่างฝีมือ ช่างไม้ ช่างเหล็กและช่างต่อเรือ 50 คนจากเมืองแวกุกให้มาทำงาน เพื่อให้ช่วยประดิษฐ์อาวุธใหม่ เป็นงานที่ท่านซอวอนดูแลพ่ะย่ะค่ะ”

“แล้วยังไง สุดท้ายไม่มีมาสักอย่างหรือ” ต๊อกมาน กล่าว

“พ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันให้คนไปรอที่ท่าเรือ เพื่อรับของ แต่กลัวว่า ไม่แน่ฝ่ายมีซิลอาจตัดหน้ารับไปก่อนก็ได้”

และก็เป็นไปอย่างที่ไอชองคาด เพราะอาวุธทั้งหมดถูกส่งมาให้มีซิลเรียบร้อยแล้ว

ป้อมปราการที่กำลังก่อสร้างในเมือง “กวางมุน” จู่ ๆ เกิดเพลิงไหม้ขึ้นอย่างหนัก เรื่องนี้รู้ถึงหูต๊อกมานและมีซิล ต๊อกมานสั่งให้คนไปดูว่าใครบกพร่องต่อหน้าที่จนทำให้เกิดเพลิง ไหม้ขึ้น แล้วรีบกลับมารายงาน

“เพราะแต่ละหน่วยงานไม่ได้ขึ้นตรงต่อเรา ทำให้ยากจะรู้ได้ว่า คนไหนทำอะไรบ้าง มีราย งานหรือไม่มีรายงาน” คุณชายชุนชู กล่าว

“ใช่ ดูแล้วก็ไม่ต่างกับมีไส้ศึกอยู่ทั่ววัง ที่ พร้อมจะเอาเรื่องของเราไปบอกคนอื่นได้ทุกเมื่อ”

“หึ...”

“องค์หญิง อาวุธที่มาถึงท่าเรือแนโพ ทั้งหมด...ถูกส่งไปเมืองแทยาซองพ่ะย่ะค่ะ” ไอชอง รีบร้อนเข้ามารายงาน

“องค์หญิง เห็นทีต้องทำอะไรบางอย่างแล้ว ขืนปล่อยไว้แบบนี้ ที่ที่มีซิลอยู่จะกลายเป็น เมืองหลวงแทน”

พีดัมจับตัวคนเดินสาสน์จากเมืองกวางมุน ได้ที่เมืองแทยาซอง เจ้าตัวสารภาพว่ากำลังจะ ไปส่งข่าวที่นั่น

“ทรงไว้ชีวิตด้วย หม่อมฉันแค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น”

“ทำไมไม่มาเมืองหลวง กลับไปส่งข่าวให้มีซิลแทน”

“เพราะที่แล้วมา ท่านเซจูเป็นคนดูแลการสร้างป้อมปราการ ท่านเจ้าเมืองเลยสั่งว่าให้ไป รายงานนางแทน”

“พวกไม้ถูกเผาเสียหายหมด ที่มาส่งข่าวเพื่อจะของบประมาณเพิ่มอีกพ่ะย่ะค่ะ” ยอจง กล่าว

“ใช่ หม่อมฉันไม่ได้ทำอะไรผิด นี่เป็นคำสั่งจากเบื้องบน ทรงไว้ชีวิตด้วยเถอะพ่ะย่ะค่ะ ฮือ...”

จากคำบอกเล่าของคนส่งสาสน์ ทำให้ต๊อกมานเริ่มเห็นถึงอิทธิพลของมีซิลมากขึ้น นาง จึงสั่งเรียกประชุมทุกฝ่ายทันที

“เมื่อมาถึงวันนี้แล้ว เรื่องอดีตข้าจะไม่ถือสาอีก แต่ว่า นับแต่วันนี้ไป เหตุบ้านการเมือง และรายงานต่าง ๆ ถ้าใครกล้าไปส่งข่าวให้คนอื่น ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรา ไม่ว่าตำแหน่งใหญ่เล็กแค่ไหน ข้าจะสั่งให้ประหารทันที...กฎข้อนี้ รวมไปถึงขุนนางท้องถิ่นและคนเดินสาสน์ด้วย ต่อไปถ้าการข่าวต่าง ๆ ไม่มาถึงเมืองหลวง หาก แต่ไปรายงานขุนนางคนอื่นแทน จะถือเป็นความ ผิดอย่างมหันต์ ให้ประกาศไปตามนี้”

“พ่ะย่ะค่ะองค์หญิง”

“ที่สำคัญ ให้ส่งกำลังทหาร ไปประจำที่เมือง “คอยอจู” “แทคาย่า” เมือง “ชูวา” หรือแม้แต่เมืองแทยาซองก็ต้องมีทหารจากเมืองหลวงไปเฝ้าไว้”

“พ่ะย่ะค่ะ”

“เราจะตัดเส้นทางการสื่อสารที่จะไปยังแทยาซอง ให้มีซิลที่อยู่ในเมืองนั้นและ รอบ ๆ บริเวณ ถูกโดดเดี่ยวโดยสิ้นเชิง เข้าใจแล้วใช่ไหม” ต๊อกมาน กล่าว

“พ่ะย่ะค่ะ”

ต๊อกมานกลับมาที่ห้อง คิดถึงคำพูดของโซวาที่พบของบางอย่างเข้าขณะถูกขังอยู่ในห้องลับส่วนตัวของมีซิล ต๊อกมานจึงหยิบของที่โซวาให้ไว้มาดู

“นี่คือคำสั่ง....ให้ฆ่ามีซิล เพื่อผดุง.... ความเป็นธรรมให้บ้านเมือง....นี่คือ....สิ่งที่พระเจ้าจินฮึง” ต๊อกมานเห็นคำสั่งของพระเจ้าจินฮึง แล้วอึ้งไปไม่รู้จะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดี

พีดัมเป็นห่วงต๊อกมาน เพราะตอนนี้คงมีเรื่องที่ต้องทำให้คิดอีกมากมาย แต่ต๊อกมานว่าอย่าห่วงไปเลยและว่าเมื่อบ้านเมืองสงบกว่านี้ นางมีงานใหญ่ให้เขาทำ

“งานใหญ่ที่รับสั่ง ทรงหมายถึง....”

“งานที่เจ้ากับยอจงรับหน้าที่หาข่าวสาร อีกหน่อยเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ข้าคิดว่าจะตั้งเป็นหน่วยสืบราชการลับขึ้นมา เรื่องนี้คงไม่มีใครเหมาะกว่าเจ้าอีก เพราะจนวันนี้ อะไรที่เกี่ยวกับเรื่องความลับ ข้าจะไว้ใจให้เจ้าไปทำเสมอ”

“หึ....”

“หึ ๆ บางครั้งดู ๆ ไป เจ้าช่างเหมือนเด็กจริง ๆ นิดหน่อยก็ดีใจแล้ว”

“ใช่ หม่อมฉันดีใจ ที่องค์หญิงทรงไว้ใจหม่อมฉัน”

“ข้ามีงานชิ้นแรกจะให้ทำ”

“ได้ เชิญรับสั่งมาเถอะ”

“ก่อนจะกลับมาเมืองหลวง ข้าได้ฝังกล่องเล็ก ๆ ใบหนึ่ง ไว้ใต้ต้นไม้ที่หน้าค่ายกลุ่มโพยา”

“กล่องเล็ก ๆ หรือ”

“อึม....เจ้าช่วยไปเอามาให้หน่อย และต้องเอามาอย่างเงียบ ๆ ด้วย”

“ได้ หม่อมฉันจะไปเดี๋ยวนี้” พีดัมทำตามคำสั่งด้วยความเต็มใจ

ต๊อกมานบอกเรื่องที่ใช้ให้พีดัมไปเอากล่องใต้ต้นไม้ที่หน้าค่ายกลุ่มโพยาให้กับคิมยูซิน และไอชองทราบ เมื่อพีดัมกลับมาจะได้รู้ว่าของในนั้นคืออะไร ส่วนพีดัมเมื่อหากล่องเจอ ด้วยความอยากรู้ว่าเป็นอะไร จึงเปิดดู ทำให้รู้ว่าสิ่งที่อยู่ด้านในเป็นจดหมายที่เขียนสั่งให้สังหารมีซิล

“พระเจ้าจินฮึง สั่งให้เอาชีวิตมีซิล ถ้าอย่างงั้น ทำไมคำสั่งนี้ยังถูกเก็บไว้....และมีซิล ทำไมต้องเก็บมันไว้อีก เพราะอะไร....ทำไม?” พีดัมคิดทบทวนเพราะไม่เข้าใจในการกระทำของมีซิล

จุปัง โกโต และแทพุง ถูกส่งมาหาข่าวสารในแทยาซอง ระหว่างนั้นเขาเห็นพีดัมกำลังออกจากด่านตรวจค้น โกโตสงสัย เพราะรู้มาว่าพีดัม ไปทำงานให้องค์หญิง แต่จุปังจำได้ว่าโซวาเคยบอกว่าของนั่นสำคัญมาก ไม่ควรให้พีดัม เก็บไว้ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับพีดัมด้วย จุปังได้แต่มองตามไปด้วยความสงสัย

พีดัมมาพบมีซิลที่แทยาซอง มีซิลยังสงสัยว่าเขามาทำไม หรือเพราะต๊อกมานส่งเขามาสังหารนาง แต่พีดัมว่าที่มาเพราะว่าเรื่องข้องใจบางอย่าง

“ข้อข้องใจหรือ?”

“เพราะอะไร..เป็นเพราะอะไรกัน...วันนั้นทำไมท่านให้ยอจง พยายามชวนข้าออกไปเที่ยว บอกเหตุผลมาหน่อยซิ ตอบมาเร็วซี่”

“เพราะเจ้าคือขวากหนามไง” มีซิล กล่าว

“ขวากหนามหรือ....ท่านเห็นข้าเป็นอุปสรรค....ที่จะก้าวสู่อำนาจงั้นหรือ”

“ทำไมคิดอย่างงั้นล่ะ”

“ข้าเกิดมา....ก็เป็นขวากหนามของท่าน คอยเป็นเสี้ยนหนามสำคัญ....ไม่ให้ถึงเป้าหมาย.... ถ้าอย่างงั้น วันนั้นก็น่าจะทิ้งข้าไปอีกหน สั่งให้ฆ่าข้าซะ จะได้หมดเรื่องหมดราว” พีดัม กล่าว

“ใช่ เป็นความผิดพลาดของข้าเอง.... เพราะตัดสินใจผิดในวันนั้น จึงมีผลในวันนี้”

“ผิด....พลาดหรือ ผิดพลาดนี่นะ ท่าน บอกว่าผิดพลาด....ถ้าอย่างงั้น เพราะอะไร .... ทำไมถึงได้” พีดัมถามอย่างเจ็บปวด

มีเซ็งได้ยินว่ามีผู้บุกรุก จึงพาโพจองเข้ามาในห้องของมีซิล แต่ถูกมีซิลไล่ออกไปจากห้อง และสั่งไม่ให้ยุ่งกับเรื่องนี้

ด้วยความสงสัยมีเซ็งจำเล่าเรื่องนี้ให้ ฮาจองและซอวอนฟัง ว่าเพราะอะไรมีซิลถึงต้องปกป้องพีดัมนัก ซอวอนคิดแล้วเครียดจึงไปถามมีซิล

“ท่านเซจู เมื่อกี้พีดัมมาทำอะไรที่นี่.... ท่านเซจู”

“วันที่เขาไปช่วยองค์หญิงให้หนีออกจากวัง ได้ทำให้หลายคนเกิดความสงสัย.....เขาเองก็เหมือนกัน อยากรู้สาเหตุก็เลยมาถาม ข้า....ถามว่าทำไมไม่ฆ่าเขาซะ กลับปล่อยให้รอดอีก” มีซิล กล่าว

จุปังนำเรื่องที่พีดัมไปที่เมืองแทยาซองไปบอกคิมยูซินทราบ เขาจึงรีบไปรายงานให้ต๊อกมานรู้

“ของที่องค์หญิงรับสั่งให้ไปหา คืออะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ....ตอนนี้มีซิล อยู่ที่เมืองแทยาซอง....พักก่อน ที่นางออกไปนอกเมือง”

“ท่านยูซิน”

“พ่ะย่ะค่ะ การระแวงคนอื่นล่วงหน้า เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ขอทรงอภัยด้วย” ยูซิน กล่าว

พีดัมกลับมาที่ตำหนักของต๊อกมาน นางถามหาสิ่งของที่ให้ไปหา แต่พีดัมบอกว่า ไม่พบอะไรเลย เจอแต่กล่องเปล่า ต๊อกมานสังเกตเห็นพิรุธ จึงถามย้ำว่าไม่พบอะไรจริงหรือ ซึ่งพีดัมยังยืนยันว่าไม่พบอะไร

“ถ้างั้น ที่เจ้าไปเมืองแทยาซอง เป็นความจริงหรือเปล่า....และยังได้พบมีซิลด้วยใช่ไหม”

“ใช่..เพราะหม่อมฉันเห็นว่าไม่ควรกลับมามือเปล่า ก็เลย..คิดจะไปลอบสังหารนาง..ขอเพียงมีซิลตายซะ เรื่องวุ่น ๆ ก็จะได้จบลง..แต่ว่า หม่อมฉันกลับล้มเหลว”

“ข้าขอถามเป็นครั้งสุดท้าย เจ้า....กับมี ซิล....มีความเกี่ยวข้องหรือเปล่า” ต๊อกมาน กล่าว

ด้านมีซิล นางก็ถูกมีเซ็ง ฮาจอง และเซจองคาดคั้นเรื่องของพีดัม ว่าเขาเกี่ยวข้องอะไรกับนางกันแน่ ซึ่งมีซิลก็บอกให้ทุกคนรู้ความจริงว่า แท้จริงแล้วพีดัมเป็นลูกของนาง ทำเอาทุกคนพากันตระหนก





..............จบตอนที่ 49.............