วันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 20



Queen Seon Deok ( 善德女王/ 선덕여왕)
เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 20
Cr. : Dailynews Online


ชอนมยองและยูซินตามมาถึงที่นัดหมาย เห็นทั้งสองกำลังยืนคุยกันอยู่ ต๊อกมานพยายามที่จะบอกความจริงให้มายารู้

“หม่อมฉันผิดเองที่ขัดรับสั่งองค์หญิง แต่ว่าหม่อมฉันจำเป็นต้องสืบให้รู้....หึ....พระมเหสี เจ้าของมีดพกเล่มนั้น ก็คือ....”

“ต๊อกมาน....ๆ....” ชอนมยอง ร้องห้าม

“อย่าทรงห้ามอีกเลย หม่อมฉัน....ยังไงก็ต้องสืบให้รู้ว่าตัวเองเป็นใคร....หม่อมฉัน.... เป็นลูกใครกันแน่ หึ....”

“งั้นข้าจะบอกเอง เสด็จแม่ ต๊อกมาน.... เป็นผู้หญิงเพคะ....นางเป็นผู้หญิง....เป็นผู้หญิง ลูกสาวเพคะ เป็นธิดาของเสด็จแม่”

“หา....”

“น้องแท้ ๆ ของหม่อมฉัน น้องฝาแฝดที่ถูกพรากจากขณะเพิ่งเกิดมาไม่นาน เป็นน้องฝาแฝดของหม่อมฉันเพคะ

“หา.....” มายา ตกใจกับความจริงที่เพิ่งรู้

“เอ่อ....หึ....องค์หญิง คือ....ทำไมรับสั่งอย่างงั้น ถึงจะ....ไม่พอพระทัยหม่อมฉันแค่ไหน แต่เรื่องแบบนี้....ก็....ไม่ควรจะล้อเล่น”

“เอ่อ....จริงหรือลูก....เด็กคนนี้ เขาเป็นผู้หญิง ที่สำคัญคือ....เป็นน้องฝาแฝดของเจ้าด้วย จริงหรือลูก”

“ฮือ....จริงเพคะ นี่เป็นเรื่องจริง”

“คือ....เอ่อ....องค์หญิงทรงเข้าพระทัยผิดแล้ว อย่าทรงรับสั่งล้อเล่นสิ หึ....” ต๊อกมาน กล่าว

“คนที่เป็นเจ้าของมีดโซยับ แอบวางฎีกาเพิ่มเติม”

“ฮือ...”

“หลงคิดว่านางในของเสด็จพ่อคือแม่บังเกิดเกล้าแท้ ๆ ถูกคนของมีซิลที่ชื่อชิซูจองล้างจองผลาญหมายเอาชีวิต ก็คือเด็กคนนี้ ก็คือต๊อกมานเพคะ” ชอนมยอง กล่าว

“จริงหรือนี่ ที่แท้เจ้าก็คือ....เจ้าก็คือ....” มายา เดินเข้ามาจับมือต๊อกมานเอาไว้

“เอ่อ....พระมเหสี ไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันเป็นแค่องครักษ์ธรรมดา เป็นเรื่องที่องค์หญิงทรงล้อเล่นมากกว่า เพื่อดัดนิสัยดื้อรั้นของหม่อมฉัน หึ....ตอนนี้หม่อมฉันเข้าใจดีแล้ว หม่อมฉันจะไปจะไปเขาจุงอั๊กเดี๋ยวนี้ ฮือ....เอ่อ....”

“ต๊อกมาน ฮือ....ที่แท้เจ้าชื่อต๊อกมานหรอกหรือ ฮือ....เกิดมายังไม่ทันตั้งชื่อก็ต้องถูก....ส่งตัวออกไป ที่แท้ลูกของแม่ชื่อ”

“หึ....ไม่ใช่เด็ดขาด ไม่ใช่หม่อมฉันแน่นอน หึ....เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับหม่อมฉัน”

“เดี๋ยว....ฮือ....ฮือ....ขวางนางไว้เร็ว พามาพบแม่เดี๋ยวนี้ ฮือ....แม่ยังไม่ทันเห็นหน้าให้ชัดเลย แม่อยากจับมือนางหน่อย ฮือ ๆ ๆ ฮือ ๆ ๆ”

ต๊อกมานวิ่งหนีออกมา โดยมียูซินรีบ ตามมาเพื่ออธิบายว่าองค์หญิงชอนมยองไม่ได้เล่นตลก แต่ต๊อกมานคือพระขนิษฐาขององค์หญิงจริง ๆ

ด้านชอนมยองก็เล่าเรื่องของต๊อกมานให้มายาฟัง พร้อมขอเวลาให้ต๊อกมานได้ตั้งสติสักหน่อย เพราะเรื่องมันเกิดขึ้นกะทันหัน และขอให้มายาอดทน นางจะเป็นคนไปคุยกับต๊อกมานให้เข้าใจเอง

“เกิดมา ข้าไม่เคยนั่งกอดเข่ากับพื้นเหมือนที่เจ้าทำอยู่ตอนนี้ ใคร ๆ บอกว่าเป็นองค์หญิงต้องมีความสำรวม เพราะฉะนั้น ต่อไปเจ้าก็ควร.....”

“อะไรคือเหตุผล....ทำไมข้าต้องถูก ทอดทิ้ง....พ่อแม่บังเกิดเกล้ากลับทิ้งข้า ในขณะที่มีซิลตามหาข้า” ต๊อกมาน กล่าว

“แคว้นของเรา เคยมีเรื่องเล่าขานต่อกันมา....ยามใดที่มีแฝดกำเนิด ทายาทชายจะสูญสิ้น....ยิ่งถ้าพระราชามีลูกแฝดด้วยแล้ว จะไร้ซึ่งรัชทายาทในการสืบบัลลังก์ต่อไป เพราะฉะนั้น เราสองคน ทันทีที่เกิดมา มีซิลก็จ้องจะประกาศเรื่องนี้ เพื่อปลดเสด็จแม่ออกจากตำแหน่งมเหสี แล้วนางจะได้ขึ้นแทน....ทำให้เสด็จพ่อ....จำเป็นต้องปิดเรื่องนี้ไว้ รวมถึงทำให้เจ้า....”

“ถ้างั้น ถึงวันนี้ก็ยังคิดเหมือนเดิมสิ พอเห็นฎีกาที่ข้าแอบไปวาง ก็คิดจะฆ่าข้าปิดปาก”

“นั่นเป็นเพราะ....”

“หึ....เฮ่อ....ไม่น่าเลยจริง ๆ สมัยก่อนถ้าข้าตามท่านอาคังตั๊กไปโรมันซะ หึ....คงมีความสุขมากกว่านี้เยอะ ฮึ่ม...” ชอนมยองรู้สึกเห็นใจต๊อกมาน

ต๊อกมานตัดสินใจที่จะออกจากวัง แต่ถูกยูซินห้ามไว้ พร้อมทั้งไล่ทุกคนออกไปจากห้องนอนก่อน

“ข้าต่างหากที่ควรออกไป ข้าไม่มีสิทธิอยู่ที่นี่ไม่ใช่หรือ อุตส่าห์รอดตายจากพายุทะเลทราย เจอสงครามหนักหน่วงก็ยังรอดมาได้ หึ....ผ่าน อุปสรรคมาตั้งเท่าไหร่ เฮอะ....บ้าชะมัด ไม่ได้หวังลาภยศอะไรซักหน่อย กว่าจะดั้นด้นมาถึงนี่ ฮือ....กว่าจะอยู่ถึงทุกวันนี้ ฮือ....สิ่งที่ข้าเกลียดที่สุดในโลก คือความไม่จริงใจต่อกันหึ....” ต๊อกมาน พูดจบก็ถูกยูซินดึงเข้ามากอด

“อย่าทิ้งข้าไป....ถ้าเจ้ายืนกรานจะไปจริง นอกจากจับเจ้าไปขังแล้วคงไม่มีวิธีอื่น เพื่อไม่ให้เจ้าไป ทุกครั้งที่กลุ้มใจ ข้าจะมาที่นี่....เฮ่อ....แม้ไม่รู้ว่าที่นี่จะเหมาะกับเจ้าหรือเปล่า แต่ก็อยากให้อยู่ชั่วคราว ข้า....มักจะฝึกจิตด้วยการฟันก้อนหิน เลยอยากให้เจ้าลองเอาอย่างดู เผื่อจะช่วยได้บ้าง ....ข้างล่างมีกระท่อมเล็ก ๆ พอให้พัก....”

“ข้าเข้าใจแล้ว เชิญกลับไปเถอะ....หึ.... ข้าไม่หนีไปไหนหรอก” ต๊อกมานตัดสินใจอยู่ต่อ แม้จะเจ็บปวด

มายาไม่ยอมเล่าเรื่องที่ไปพบต๊อกมานให้พระเจ้าจินพยองฟัง เพราะกลัวว่าพระราชาจะมีคำสั่งเหมือนตอนที่คลอดธิดาแล้วให้โซวาพาหนี เพื่อเป็นการรักษาเมืองเอาไว้ แล้วมายาก็ไปหาชอนมยองเพื่อเล่าเรื่องของโซวาให้ฟัง ชอนมยองตกใจ เพราะคิดว่านางตายแล้ว อีกทั้งนางยังเป็นคนที่ต๊อกมานพยายามตามหาอยู่

“ถ้าอย่างงั้น นางในคนนั้น....นางในคนนั้น....ชิซูก็กลับมาด้วยเพคะ”

“หา....ชิซูหรือ”

“หลายปีก่อนโซวาถูกชิซูตามล่าจนนึก ว่าตายแล้ว ต๊อกมานอยากรู้ชาติกำเนิดของตัวเอง จึงเดินทางมานี่คนเดียวเพคะ”

“อ้อ....อย่างงั้นหรอกหรือ งั้นก็แปลว่า ชิซูเป็นคนพาโซวากลับมาน่ะสิ โชคดีที่ตอนนี้โซวาอยู่กับเราก็ค่อยยังชั่ว”

“นางอยู่ไหนเพคะ หม่อมฉันจะขอพบนางหน่อย”

“ไม่ได้หรอก ตอนนี้อย่าเพิ่งไปพบเลย แม่งงไปหมดแล้ว”

“แล้วจะทำไงดีเพคะ”

“ต๊อกมานน่าจะเจ็บปวดกว่าใคร ไม่ว่ายังไง แม่ก็อยากช่วยนางก่อนแล้วค่อยว่า”

“เพคะ ถ้าอย่างงั้น ก่อนที่ทุกอย่างจะกระจ่างชัด หม่อมฉันจะให้ต๊อกมานไปอยู่ที่ที่ปลอดภัยก่อน”

“อึม....อีกอย่าง เรื่องของโซวา เจ้าอย่าเพิ่งไปบอกใครให้รู้ โดยเฉพาะต๊อกมานก็ยิ่ง ห้ามพูด”

“เพคะ เกิดนางรู้เข้า ไม่รู้จะก่อเรื่องอะไรมาอีก”

โพจองอยากรู้ว่าใครเอารูปปั้นหยกไปขายให้พ่อค้ายาโป๊ จึงให้ลูกน้องไปสอบปากคำพ่อค้าคนนั้นอีกครั้ง

“หลายวันก่อน เห็นบอกว่าใต้เท้าอึยเจสั่งให้ค้นตัวองครักษ์เพื่อจะหาของกลางใช่ไหม”

“ครับ”

“แต่จับใครไม่ได้เลยหรือ”

“ครับ พอมีพระบัญชาจากฝ่าบาท ใต้เท้าอึยเจกับท่านยองชุนก็สั่งให้หยุดการค้นตัวเหล่าองครักษ์ทันที” โพจอง กล่าว

“ใต้เท้าครับ”

“เขาเป็นใคร”

“คนคนนี้ ที่ให้ยาเพิ่มกำลังแลกกับรูปปั้นหยกไงครับ ยิมจงไปคุยกับเขา พอรู้ว่าเป็นของของตำหนักแทวาก็ยึดกลับไปทันที” ซกพุง กล่าว

“พวกเจ้าพาเขาไปชี้ตัวคนที่เอารูปปั้นไปแลกเปลี่ยน แต่อย่าให้พวกองครักษ์รู้ตัวซะก่อน”

“ครับ”

ระหว่างการฝึกซ้อมของหน่วยยองวาจุปังและโกโตถูกนางในขอร้องให้ไปช่วยอธิบาย ให้องค์หญิงชอนมยองฟังทีว่า ต๊อกมานและยูซินหายไปไหน แต่ช่วงที่เดินกลับออกมานั้นโกโตและจุปังได้เจอกับคนซอวอน ทำให้พ่อค้าชี้ตัว “จุปัง”

ชอนมยองมาดักพบยูซินเพื่อถามถึงเรื่องต๊อกมาน ซึ่งยูซินว่า ต๊อกมานเจอเรื่องแบบนี้เข้าคงยากที่จะทำใจ

“ใช่ เราได้พบกัน แต่ไม่สามารถยอมรับเป็นพี่น้องได้อย่างเปิดเผย....รู้ว่าต๊อกมานเป็นน้องข้า ตามหลักน่าจะดีใจมากกว่า แต่ว่า ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ได้นะ”

“แล้วจะทรงทำไงต่อไป”

“ตอนนี้เสด็จแม่ ทรงเสียพระทัยยิ่งกว่าข้าหลายเท่านัก”

“หมายความว่า จะให้ต๊อกมานไปอยู่ที่อื่นอีกหรือ....เหมือนอย่างที่นางพูด ทางที่ดีคือไปจากที่นี่หรือพ่ะย่ะค่ะ”

“ข้าอยากให้นางไปเขาจุงอั๊กก่อน ที่เหลือทางนี้ ข้าจะแก้ปัญหาให้เอง”

“หึ....”

“พรุ่งนี้ข้าจะมาอีก ท่านยูซิน....ขอบคุณที่มีท่านอยู่เคียงข้าง....ถ้าตอนนี้ไม่มีท่าน ข้าคงไม่สามารถเผชิญกับเรื่องพวกนี้ตามลำพังได้....ยังไงซะ ท่านก็ต้องอยู่กับข้าล่ะ”

จุปังถูกจับตัวไปเพื่อเค้นถามเรื่องที่พวก เขานำฎีกาไปถวายในตำหนักแทวากลางดึกโดยที่ไม่มีใครรู้ เมื่อโกโตและเพื่อน ๆ ตื่นขึ้นมาไม่เห็นจุปัง จึงรีบไปบอกไอชองให้ทราบ ไอชอง จึงรีบไปบอกยิมจง เพื่อให้เขาไปรายงานอึยเจให้ทราบอีกที

“นี่มันอะไรกัน เรื่องจบไปแล้ว ใครรื้อฟื้นขึ้นมาอีก”

“พวกซกพุงกับต๊อกชอนที่สังกัดอยู่ฝ่ายกลาโหมน่ะครับ เมื่อคืนคนของหน่วยยองวาที่ชื่อจุปัง เหมือนถูกพวกเขาจับไป”

“ต้องเป็นท่านซอวอนแน่” ยองชุน กล่าว

“จริง ๆ แล้ว องครักษ์ที่ชื่อจุปังและโกโต เป็นคนที่เข้าไปในตำหนักแทวาน่ะครับ”

“อะไรนะ เป็นฝีมือคนของหน่วยยองวาหรือ”

จุปังยังถูกซ้อมอย่างหนัก เพราะซอวอนต้องการรู้ว่าจุปังเข้าไปทำอะไรในตำหนักแทวา

“เพราะ....เรื่อง....ฎีกาน่ะครับ จะถวายฎีกาเพิ่มเติมให้....ฝ่าบาทได้ทอดพระเนตร จึงแอบเข้าไปวางอีกชุดหนึ่งไม่ให้ใครรู้ นอกนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรน่ะครับ ฮือ ๆ ๆ”

“ฎีกาเกี่ยวกับเรื่องอะไร”

“ไม่ ๆ ๆ เรื่องนี้ข้าไม่รู้ ไม่รู้จริง ๆ เพราะไม่ได้เปิดอ่าน ไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ข้าไม่ได้เปิดอ่านเลย ฮือ...จริง ๆ นะ ข้าไม่ได้โกหก เชื่อข้าสิ ฮือ ๆ” จุปัง อ้อนวอน

เมื่อซอวอนเห็นท่าทีของจุปังแล้ว พอทำให้เชื่อได้ว่าเขาไม่รู้เรื่องเนื้อหาของฎีกา จึงถามใหม่ว่าใครเป็นคนสั่งให้เอาไปวาง จุปังจึงบอกว่า ต๊อกมาน ส่วนใครจะบงการมาอีกทีนั้น เขาไม่ทราบ ซอวอนไม่อยากจะเชื่อ จึงสั่งให้ประหารจุปัง ดีที่อึยเจมาห้ามไว้ได้ทัน

“หยุดนะ....”

“ใต้เท้าทำไมมาถึงนี่ได้ล่ะ”

“จับคนร้ายที่เข้าไปในตำหนักแทวาได้แล้วหรือ”

“ใช่ครับ องครักษ์ช่วยจับมาให้” ซอวอน กล่าว

“ดูเหมือนไม่ใช่งานของท่านนะ.... ตำหนักแทวาขึ้นอยู่กับกรมวัง จับคนได้ก็ควรจะรายงานข้าก่อนไม่ใช่หรือ”

“เป็นเรื่องกรมวังก็จริง แต่การเข้าไปในตำหนักแทวาเกี่ยวพันถึงความลับทางราช การ ถ้าเป็นหนอนบ่อนไส้จริง....”

“นั่นก็เป็นหน้าที่กรมวังอยู่ดี....งานใครก็งานมัน ท่านเป็นทหารมีสิทธิมาก้าวก่ายหน้าที่ข้าด้วยหรือ....ส่งตัวให้ข้าซะ” ซอวอน กล่าว

“งั้นก็ตามใจท่าน”

“เอาตัวเขาไป”

“ครับ”

เมื่อนำตัวจุปังกลับมาแล้ว อึยเจจึงทำการคาดคั้นจุปังและโกโตในเรื่องเดียวกัน ทั้งสองจึงสารภาพว่าคนที่ใช้ไปทำ ก็คือต๊อกมาน

“คนที่ได้ครอบครองมีดสั้นโซยับ ไม่ใช่ทั้งโซวาหรือมีซิล แต่กลับเป็นต๊อกมานงั้นหรือ เป็นไปได้ไงนี่” อึยเจคิดอย่างสงสัย

มีซิลรู้เรื่องเข้า ก็พยายามหาเหตุผลว่าทำไมต๊อกมานจะต้องนำฎีกาไปถวายให้พระเจ้าจินพยองด้วย อีกทั้งยังทำเพียงลำพัง ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง ซึ่งคำพูดของมีซิลก็ทำให้ทุกคนต่างพากันสงสัยในตัวต๊อกมาน

“แล้วเขาจะมีอะไรต้องทูลให้ฝ่าบาท ทรงทราบนักหนา เพราะอะไร แค่องครักษ์เล็ก ๆ จะมีอะไรสำคัญ”

“งั้นสรุปก็คือ เจ้าหนุ่มที่ชื่อต๊อกมาน มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างชนิดดิ้นไม่หลุด” ซอวอนกล่าว

องค์หญิงชอนมยองได้พบกับต๊อกมานที่นั่งซึมอยู่ จึงถามว่ายังโกรธเรื่องนั้นอยู่อีกหรือ

“จริง ๆ แล้ว ข้าแทบไม่ได้คิดอะไรเลย....ไม่ใช่ ต้องบอกว่าไม่รู้จะคิดเรื่องอะไรมากกว่า เมื่อก่อนอยู่กับแม่ข้า เห็นนางมองข้าแล้วหัวเราะ ข้ามักรู้สึกหลงตัวเอง คิดว่าเป็นคนเก่งและฉลาดนักหนา....แต่พอรู้ความจริงเกี่ยวกับชาติกำเนิด ข้าก็มีแต่ร้องไห้อย่างเดียว....ที่จริงหลังจากแม่ตายแล้ว ข้าแทบไม่เคยร้องไห้อีก แต่ตอนนี้กลับร้อง....ฮือ....อย่างห้ามไม่อยู่ หึ...ฮือ....เฮ่อ....มันเป็นเรื่องที่น่าแปลก เหมือนข้าสูญเสียตัวตนไป ฮือ....เฮ่อ....ข้าจะไปอยู่ทะเลทรายเหมือนเดิม”

“ต๊อกมาน”

“ถ้าอยู่ที่นั่น น้ำตาจะแห้งเร็วมาก ฮือ.... สมัยก่อน ข้าก็ควรอยู่แต่ที่นั่นแล้ว”

“แต่ว่าต๊อกมาน เราเป็นพี่น้องนะ เราจะร่วมมือกันเล่นงานมีซิล”

“ข้าไม่ควรอยู่ต่อด้วยซ้ำ ไหนว่าข้าไม่ควรมีชีวิตอยู่ไง คนที่ไม่มีตัวตน จะมีพี่น้องและช่วยใครทำอะไรได้ ฮือ....คนที่ไม่มีความหมาย น่าจะหายไปจากโลกนี้ซะ....หึ....มันถึงจะถูก”

“ต๊อกมาน เชื่อข้าซักครั้งได้ไหม”

“ฮึ่ม....เฮ่อ....ถ้าจะขอร้องไม่ให้ข้าไปละก็ ข้าก็ขอขอบคุณ และไม่มีวันลืมด้วย”

ชอนมยองมาขอร้องให้ยูซินช่วยห้ามต๊อกมานไม่ให้กลับไปอยู่ที่ทะเลทรายเหมือนเดิมที เพราะ เชื่อว่าต๊อกมานน่าจะฟังยูซิน มากกว่า

“ได้โปรด ช่วยพูดกับนางหน่อยได้ไหม.... ข้าไปพูดแล้ว นางไม่ยอมฟัง....กว่าจะเจอน้องไม่ใช่ง่าย ๆ ฮือ....ที่สำคัญกว่านั้น คือความอยู่รอดของข้า เกิดจากการเสียสละของต๊อกมานถึงอยู่มาจนวันนี้ ตอนอยู่หมู่บ้านที่แห้งแล้ง ทั้งที่วัดยูไล เป็นเพราะนางช่วยข้าไว้ทั้งนั้น.... ฮือ....อีกอย่าง ถ้าไม่เพราะได้เจอนาง ข้าคงเลิกล้มความตั้งใจที่จะสู้กับมีซิล และอาจจะออกบวชด้วยซ้ำ....ฮือ....ข้าจะไม่ให้นางไป ง่าย ๆ ฮือ....ข้าอยากให้นางอยู่ต่อ เพราะมีอีกมากมายที่จะชดใช้ให้นาง”

“แต่ว่าสิ่งที่นางต้องการจริง ๆ เราไม่ อาจให้นางได้นะพ่ะย่ะค่ะ ฐานะแท้จริงของนาง เราไม่สามารถทำให้นางเป็นที่ยอมรับเหมือนปกติได้....ต๊อกมาน....เป็นคนถือตัวและหยิ่งในศักดิ์ศรี ทำให้นางอยู่มาถึงวันนี้ ที่นี่สำหรับนางแล้ว เหมือนที่ที่ทำลายทุกอย่างที่นางมี”

“ถ้าอย่างงั้น ข้าควรจะทำไงกับนางดี ข้าจะทำยังไง ฮือ....ท่านก็เหมือนกัน อย่าเห็นใจนางฝ่ายเดียว สงสารข้าบ้างสิ ให้นางอยู่ต่อเพื่อข้าได้ไหม ฮือ....ข้าไม่อยากให้นางไปลำบากอีก ฮือ ๆ ๆ ฮือ ๆ ๆ ฮือ ๆ ๆ”

ยูซินสงสารองค์หญิงชอนมยองจึงรีบ มาขวางต๊อกมานไว้ ไม่ให้กลับไปอยู่ที่ทะเล ทรายอีก

“ถ้าอีกหน่อยท่านแพ้มีซิล ไปหาข้า ที่ทะเลทรายก็ได้”

“หึ....อะไรคือการเป็นองครักษ์ สำหรับเจ้าคงคิดว่า คือทางผ่านไว้สำหรับสืบหาชาติกำเนิดของตัวเอง จุปัง โกโต แทพุง กุกซอน หรือแม้แต่ซียอ ไม่มีความหมาย ต่อเจ้าเลยหรือ ไม่ใช่ ยังมีอีกคน ข้า....คิม ยูซิน หัวหน้าของเจ้าก็เหมือนกัน....ใช่ไหม ข้า....ไม่มีความหมายต่อเจ้าเลย....ตอบข้ามาเร็วสิ บอกให้ตอบมา”

“ไม่ใช่อย่างงั้นแน่นอน สำหรับข้าแล้ว ทุกคนเป็นเพื่อนที่แสนดี แม้แต่ท่าน ยูซิน....ก็เป็นคนที่ข้าไว้ใจ”

“งั้นหรือ งั้นข้าขอพูดตรง ๆ บ้าง ข้าไม่อยากให้เจ้าเป็นองค์หญิง แต่เป็นองครักษ์เหมือนเดิม ให้ข้าคอยดุด่าว่ากล่าว อยู่เป็นลูกน้องข้าก็พอแล้ว อย่าไปได้ไหม....ข้าไม่มีปัญญาช่วยให้เจ้ากลับคืนฐานะเดิมก็จริง แต่ว่าข้าจะทำให้เจ้ากลายเป็นคนใหม่ ถ้าไงให้ข้าช่วยเจ้าอีกแรงได้ไหม”

“ท่านคิดว่า เป็นไปได้หรือ”

“ขอเพียงไม่ต้องเสียเจ้าไป ข้าจะพยายาม ไม่แน่บางที ข้าอาจสามารถทำได้ ถือว่าขอร้องเจ้าล่ะ”

อึยเจทูลให้พระเจ้าจินพยองทรงทราบว่า คนที่แอบเอาฎีกาไปวางเพิ่ม ก็คือองครักษ์ที่ชื่อว่า ต๊อกมาน ทำให้พระเจ้าจินพยองสงสัยในตัวต๊อกมานว่ารู้เรื่องเกี่ยวกับมีดพกได้อย่างไร ระหว่างนั้นชอนมยองเสด็จมาเข้าเฝ้า

“รับสั่งให้หาหรือเพคะ”

“หม่อมฉันให้ทูลเชิญองค์หญิงมาเฝ้าเอง ...มีองครักษ์ชื่อต๊อกมานเข้าไปในตำหนักแทวา เพื่อจะถวายฎีกาให้ฝ่าบาท” อึยเจ กล่าว

“ท่านบอกว่าต๊อกมานหรือ”

“องค์หญิงทรงทราบอะไรหรือเปล่า”

“ข้าไม่รู้เรื่อง”

“ไม่ใช่รับสั่งขององค์หญิงหรอกหรือ งั้นก็แปลว่า เป็นการกระทำของเขาคนเดียวน่ะสิ ...หรือว่าเบื้องหลังยังมีใครสั่งการอีก”

“จะเป็นคำสั่งมีซิลหรือเปล่า”

“ดูแล้วเหมือนจะไม่เกี่ยวกับนางพ่ะย่ะค่ะ เพราะตอนนี้มีซิลก็กำลังสืบเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน”

“ถ้าอย่างงั้น ฎีกาที่จะส่งมาก็ไม่เกี่ยวข้อง กับมีซิลด้วย”

“ใช่”

“ถ้าเป็นโซวา คงเป็นไปไม่ได้ที่จะวาง แผนขนาดนี้”

“พ่ะย่ะค่ะ สภาพของนางไม่เอื้ออำนวย ฉะนั้น น่าจะเป็นความคิดของต๊อกมานคนเดียว”

“แต่ว่า เขามีเหตุผลอะไรต้องทำเรื่องเหิมเกริมขนาดนี้” ชอนมยอง กล่าว

“ถ้าองค์หญิงไม่ทรงทราบจริง ก็น่าจะสืบสาวราวเรื่องต่อไปไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ...ฝ่าบาท ถ้าปล่อยให้มีซิลเป็นฝ่ายเดินเรื่องจนสาวลึกกว่านี้ อาจจะยิ่งยุ่งก็ได้”

“แล้วตอนนี้เราจะทำไงต่อ”

“ก่อนอื่นคือ ไม่ควรให้นางในชื่อโซวาอยู่ในวังอีกต่อไป”

“ไม่ให้นางอยู่แล้วจะส่งไปที่ไหน” มายา กล่าว

“ส่งไปอยู่นอกแคว้นชิลลา”

ใต้ซือวาชอนทำการรักษาตาของชิซูด้วย วิชาความรู้ทั้งหมดที่มีแล้ว จึงขอให้เขารอเวลาอีก สักพักแล้วแกะผ้าออก เพื่อดูว่าดีขึ้นหรือเปล่า

“เมื่อไหร่จะเปิดตาได้ครับ”

“อาจต้องรอซัก 7 วันเป็นอย่างน้อย หวังว่า สวรรค์คงจะคุ้มครองท่าน”

“ขอพบท่านเซจูหน่อยได้ไหม ข้ามีเรื่อง จะพูดกับนาง”

“รออีกหน่อยเถอะ ท่านเซจูก็อยากช่วยท่านเหมือนกัน” ธิดาเทพ กล่าว

“แต่ไม่รู้ว่า ฝ่าบาทจับตัวนางไป จะคิดร้าย ต่อนางหรือเปล่า...หึ...”

ต๊อกมานมาพบองค์หญิงชอนมยองเพื่อบอกว่านางยอมที่จะไปเขาจุงอั๊ก ตามที่องค์หญิงต้องการแล้ว ด้านยิมจงก็บอกให้อึยเจรู้ว่า ต๊อกมานไปฝึกดาบบนเขา แล้วหายตัวไป อึยเจจึงเรียกยูซินมาถาม

“หมู่นี้ทำไมไม่เห็นลูกน้องที่ชื่อต๊อกมาน เขาอยู่ไหน”

“เขาไปฝึกวิชาที่อื่นน่ะครับ ท่านมีธุระอะไร”

“ดูเหมือนว่าเขาจะพัวพันกับเรื่องบางอย่าง เข้า...แถมไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ข้ากลัวว่าลูกน้อง มือดีของเจ้า จะถูกทำร้ายเพราะเรื่องนี้...ต่อไป อย่าเชื่อใครง่าย ๆ โดยเฉพาะคนในวัง มีแต่วิธีนี้ ถึงจะช่วยให้เขาปลอดภัยได้...ส่วนเรื่องนี้ ขอให้เชื่อข้า...มีข้าอยู่ทั้งคน ถ้าจะให้ดีก็คือ รีบไปพาต๊อกมานมาพบข้าซะ ไปจับต๊อกมานกลับมาเดี๋ยว นี้...เพื่อเห็นแก่ความมั่นคงของราชสำนักและบ้าน เมืองของเรา เจ้าสองคนไปสะกดรอยตามยูซิน แล้วไม่นาน จะรู้ว่าต๊อกมานอยู่ที่ไหน”

ไอชองได้รับคำสั่งจากอึยเจทำให้รู้สึกสับ สน จึงรีบมาปรึกษากับยิมจง

“ใต้เท้าอึยเจจะจับต๊อกมานถึงขนาด หลอกยูซิน ข้าเลยตัดสินไม่ถูกว่า เรื่องนี้ถูกต้อง หรือเปล่า”

“เรามีหน้าที่แค่ทำตามคำสั่ง เรื่องอื่นอย่า ไปคิดมากเลย...นั่นคือ...”

ความหมายของอึยเจก็คือ ให้จับตัวต๊อกมานกลับมาให้ได้ ไอชองจึงรีบตามยูซินไป ทันได้ เห็นยูซินพาต๊อกมานขึ้นบนหลังม้า ก่อนควบออก ไปอย่างรวดเร็ว






..............จบตอนที่ 20..........



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น