วันอังคารที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2553

เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 15



Queen Seon Deok ( 善德女王/ 선덕여왕)
เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 15
Cr. : Dailynews Online


มีซิลและมีเซ็งรีบหนี ซึ่งต๊อกมานตาม พวกเขาไปเพราะสงสัยว่าหนังสือหายไป แต่สุดท้ายก็ถูกมีเซ็งจับตัวนำไปให้มีซิลจนได้ ต๊อกมาน โกรธเมื่อได้เห็นหนังสือ มีซิลจึงสันนิษฐานว่า ต๊อกมานน่าจะเคยอ่านหนังสือเล่มนี้มาก่อน

“จะบอกให้ว่าหนังสือเล่มนี้ ความหมาย คือจะสอนว่าคนที่ความชั่วไม่มี ความดีก็ไม่เคยมี ปรากฏนั้น จะไม่อาจเป็นผู้นำได้ ว่าแต่ทำไมเจ้า ยอมทำงานให้คนที่มีความคิดใสซื่ออย่างองค์หญิง ชอนมยองได้ล่ะ หรือเจ้าก็คิดเหมือนนาง คิดว่าจิตใจมนุษย์มีแต่ความดีงามงั้นหรือ...ไม่ใช่หรอก ไม่ใช่เลย มนุษย์...คือปิศาจร้ายแฝงตัวมาเกิด” มีซิล กล่าว

“แล้วน้ำล่ะ เลวร้ายด้วยหรือเปล่า”

“ทุกครั้งที่เกิดน้ำท่วมจะทำให้คนตายมากมาย ไร่นาเสียหาย นั่นไม่ใช่ความเลวร้ายหรอกหรือ”

“แต่ว่า ถ้าไม่มีน้ำ มนุษย์ก็ไม่อาจดำรงชีวิต สรรพสิ่งไม่อาจเจริญเติบโต เพราะฉะนั้น น้ำคือสิ่งที่มีประโยชน์”

“ถ้าพูดแบบนี้ มนุษย์ก็อยู่ไม่ได้ถ้าขาดแสงอาทิตย์และอากาศที่จะหายใจ”

“แต่ว่า แสงอาทิตย์ก็ทำให้เกิดความแห้งแล้งได้ ข้าเชื่อว่า ทุกคนมีส่วนดีและไม่ดีเหมือนน้ำ และแสงอาทิตย์ เพราะมันเป็นธรรม ชาติ ฉะนั้น แม้ว่าสายน้ำจะคร่าชีวิตมนุษย์ได้ แต่การเพาะปลูกก็ต้องใช้น้ำเป็นสำคัญ เราจึงต้องใช้ในทางที่เกิดประโยชน์ นั่นคือหลักปกครองที่ ถูกต้อง ข้าเองก็เหมือนกัน จะทำในสิ่งที่คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมาก่อน ด้วยเหตุนี้ ที่ข้ารับใช้องค์หญิงชอนมยองก็ไม่ได้หวังอื่น ไม่ใช่เพราะนางเป็นคนดี แต่เชื่อว่าสิ่งที่ทำเป็นผลดีต่อส่วนรวม ก็แค่นั้น”

“เจ้านี่มีความคิดไม่เลว...มาอยู่กับข้ามั้ยล่ะ ...รู้สึกว่าความคิดของเจ้า จะทำให้ข้าเกิดมุมมองที่แตกต่าง”

“ข้าขอปฏิเสธ”

“งั้นก็ช่าง ไปได้แล้ว”

“หือ...อ้าว...”

“หา...”

“เจ้าออกไปได้ ข้าสั่งให้เขาไปไม่ได้ยินหรือ”

“หา...อ้อ...ครับ ๆ พี่ใหญ่ เด็ก ๆ พา หมอนี่ออกไปซิ”

“ครับ”

“พี่ใหญ่ เรื่องอะไรปล่อยมันไปง่าย ๆ น่ะ” มีเซ็งถามด้วยสงสัย

“รู้สึกความคิดเขาแปลกดี ฆ่าทิ้งก็น่าเสีย ดาย อีกหน่อยข้าจะให้เขามาหาเอง”

“ปล่อยเสือเข้าป่า มันจะมาก็แปลกแล้ว”

“พนันกันมั้ยล่ะ”

“ด้วยความยินดี”

ต๊อกมานหายไปทั้งคืน เมื่อกลับมาเพื่อน ๆ ต่างพากันโล่งอก แต่ยังไม่ทันที่จะได้คุยอะไรกัน นางก็ถูกซกพุงเรียกพบ เพื่อบอกให้รู้ว่ามีซิลมีจดหมายมาบอกว่าต้องการคำตอบเรื่องเมื่อคืน ทุกคนพากันตกใจ

ต๊อกมานไปนั่งอ่านจดหมายเงียบ ๆ คนเดียว ซึ่งข้อความจดหมายเลอะเลือนมาก ยูซิน ได้ข่าวว่าต๊อกมานกลับมาแล้ว และยังได้รับจดหมายจากมีซิลอีก จึงรีบไปพบนาง

“มีคนบอกว่าเจ้าได้พบมีซิลด้วย”

“ใช่ ท่านมีเซ็งให้ข้าไปพบเกี่ยวกับเรื่องอาหาร พอดีตอนนั้นนางก็อยู่ด้วย”

“เช้านี้ยังได้รับจดหมายจากนางอีก จริง หรือเปล่า”

“ใช่”

“เป็นจดหมายอะไร ให้ข้าอ่านดูบ้างได้ไหม”

“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ แต่ว่า ดูเหมือนนางจะส่งมาผิด”

“หึ...ข้อความสำคัญถูกขีดทิ้งหมด” ยูซิน กล่าว หลังจากที่ดูข้อความในจดหมาย

“หึ...ท่านคิดว่า ข้าเป็นคนขีดข้อความทิ้ง หรือไง”

“ใครจะเชื่อคำพูดของเจ้า ตั้งแต่เมื่อคืนก็เงียบหาย ไปไหนไม่บอกกล่าว แถมยังไปพบท่านเซจูอีก และจดหมายก็ถูกขีดทิ้ง ใครเชื่อเจ้า ก็คงเสียสติแล้ว”

“หึ...ไม่เชื่อก็อย่าเชื่อสิ ถ้าไม่เชื่อข้า เราคง ทำงานด้วยกันไม่ได้อีก”

“เจ้าก็อธิบายมาสิ ข้าจะได้เข้าใจเหตุผล”

“ก็มีแค่นี้จริง ๆ เมื่อคืนเห็นแต่หนังสือ เล่มเดียว ส่วนท่านมีเซ็งก็เรียกให้ไปรายงานเกี่ยวกับสิ่งที่ทำ และพบท่านมีซิลก็เพราะตอนนั้นนางก็อยู่ด้วย”



ยิมจงและลูกน้องแอบฟังทั้งสองคุยกัน จึง รีบมารายงานให้ยองชุนรู้ว่า ต๊อกมานไปพบมีซิลมา อีกทั้งยังได้รับจดหมายจากนางด้วย อึยเจสงสัยในความไม่ชอบมาพากล จึงรีบไปบอกชอนมยองให้รู้ว่า ต๊อกมานเป็นคนที่ไม่น่าไว้วางใจ แต่ชอนมยองไม่ เชื่อว่าคนอย่างต๊อกมานจะกลายเป็นหนอนบ่อนไส้

“เป็นไปไม่ได้ เด็กคนนี้เคยอยู่ทะเลทราย มาหลายปีเพราะแม่ของเขาอาศัยอยู่ที่นั่น สมัยที่รู้จักเขาใหม่ ๆ เขาก็พูดแต่ทะเลทรายอย่างเดียว... ที่สำคัญคือต๊อกมาน เป็นคนที่ทำให้ครอบครัวท่านยูซินได้กลับมาเมืองหลวงอีกครั้ง ถ้าเป็นคนของ มีซิลจริงจะไม่มีวันทำแบบนี้”

“ปัญหาอาจจะเกิดหลังจากนั้น พอเขามา อยู่เมืองหลวง มีซิลก็เริ่มเห็นแววและติดต่อให้ไป เป็นคนของนาง...ที่สำคัญกว่านั้น คือลักษณะของเด็กคนนี้ เป็นคนที่ไม่ยอมก้มหัวให้ใครง่าย ๆ”

“แต่เขาเป็นคนของข้า”

“หม่อมฉันดูแล้ว เขาไม่ใช่คนที่ยอมอยู่ใต้ อาณัติใคร”

ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่มีซิลวางไว้ เพราะหลังจากที่นางส่งจดหมายให้ต๊อกมาน ทุก คนก็เกิดความระแวงสงสัยในตัวเขา ด้านชอนมยอง ยังไม่เชื่อว่าต๊อกมานจะเป็นหนอนบ่อนไส้ จึงสั่งให้ นางมาพบ

มีซิลให้โพจองและซกพุงออกไปตามหาชิซู จนทั้งสองตามหาพบและบังคับให้เขาตามกลับมาพบมีซิลด้วยกัน แต่ชิซูปฏิเสธ จึงเกิดการ ต่อสู้กันขึ้น โซวาถูกจับไปเป็นตัวประกัน ชิซูช่วย นางไว้ได้ แต่ยังไม่ทันที่จะหนี มีซิลก็ตามมาพบเขาด้วยตัวเอง

“ตาเจ้ามองไม่เห็นแล้วใช่ไหม”

“ตอนนี้ข้าเหมือนคนพิการ ที่ไม่มีประโยชน์สำหรับท่านอีก...ปล่อยให้ข้าไปเถอะ... ท่านเซจู”

“ข้ายังไม่ให้ไปง่าย ๆ ทำงานเรียบร้อยแล้วใช่ไหม”

“ใช่ เดิมทีว่าจะเอามาให้ท่านดู แต่ระหว่างทางเกิดพายุ....”

“เอาเถอะ ไม่มีใครรอดจากพายุทะเลทรายได้หรอก ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร”

“คนที่รู้จักระหว่างทาง นางเสียลูกสาวไป ตั้งแต่นั้นเลยไม่ยอมพูดและสติก็ไม่ดีน่ะครับ”

“เจ้าเลยช่วยนางไว้หรือ”

“เราต่างก็ไม่มีทางเลือกอื่น”

“แล้วอยู่ดี ๆ ตาบอดได้ยังไง”

“เพราะระหว่างทำงานเกิดไฟไหม้ขึ้นมา”

“กลับไปเมืองหลวงเถอะนะ ไปอยู่ในวังซะ”

“ไม่ได้เด็ดขาด ข้าไม่กลับไป...สภาพตอนนี้ ข้าไม่อยากเผชิญหน้ากับคนที่เคยรู้จักมาก่อน”

“นั่นสิ เจ้าเป็นนักรบนี่นา”

“เพราะฉะนั้น...”

“เอาเถอะ แต่ว่า...รับปากให้ข้าช่วยรักษา ตาให้หายก่อนได้ไหม...ว่าไปแล้ว ที่เจ้าตาบอดก็เพราะข้า ข้าไม่อยากให้ไปลำบากที่ไหนอีก เพราะ ฉะนั้น เลยอยากให้เขาอยู่ที่เงียบ ๆ เพื่อรักษาตา” ชิซูจึงยอมกลับมากับมีซิล

มีซิลนำของกำนัลให้กับต๊อกมาน จุปังและโกโตเห็นจึงรีบไปบอกยูซิน โดยไม่รู้เลยว่า ที่มีซิลทำไปนั้น เพราะนางต้องการให้คนอื่นไม่ไว้ ใจในตัวต๊อกมาน และเมื่อยูซินรู้เรื่องก็รีบไปหา ต๊อกมานทันที

“รางวัลที่ท่านมีเซ็งให้เจ้าใช่ไหม”

“ใช่ บอกว่าเป็นรางวัลให้ข้า ที่ปรุงผงกะหรี่ให้เขา”

“แล้วเขาคุยอะไรกับเจ้าอีก”

“เขาไม่ได้พูดอะไรกับข้าเลย”

“หึ...พูดแบบนี้นึกว่าข้าจะเชื่อมั้ย”

“จริงนะครับ เขาไม่ได้พูดอะไรเลย...”

“หุบปาก ยังไม่พูดความจริงมาอีก”

“นี่แปลว่าท่าน...ไม่ไว้ใจข้าแล้วใช่ไหม”

“เพราะพฤติกรรมเจ้า มันชวนให้สงสัย”

“ถามหน่อยว่าข้าเป็นลูกน้องท่านมากี่ปี เราเคยเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายต่อสู้มาตั้งเท่าไหร่ กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ แต่แล้ว ท่านกลับไม่คิดถึงอดีต แต่เห็นแก่เรื่องเล็กน้อย จนมาระแวงข้างั้นหรือ” ต๊อกมานกล่าว และจากมาด้วยความน้อยใจ



ลูกน้องมารายงานให้มีเซ็งรู้ว่าตอนนี้ต๊อกมานและยูซินทะเลาะกันอย่างหนัก เพราะ ยูซิน เริ่มไม่ไว้ใจในตัวต๊อกมานแล้ว

“ตอนนี้ต๊อกมาน ตกที่นั่งลำบากแล้วใช่ไหม”

“ใช่ครับ ไม่เพียงแต่เพื่อน ๆ ระแวงเขา แม้แต่ท่านยูซินก็ไม่ไว้ใจ สักวันต้องไล่เขาออกแน่”

“หึ...งั้นหรือ เอาเป็นว่าจับตาดูเขาต่อไปละกัน มีอะไรผิดสังเกตรีบมารายงานข้าล่ะ”

“ครับ”

“เฮ่อ...แผนของพี่ใหญ่นี่ช่าง...ฮ่า ๆ ๆ”

มีซิลพาชิซูไปรักษาตัวที่ห้องลับภายในตำหนักธิดาเทพ เพื่อให้ไต้ซือวาชอนช่วยรักษา

“เขาก็คือท่านชิซู ที่ข้าเคยบอกให้ฟังน่ะค่ะ”

“อ้อ...คนนี้หรอกหรือ ไม่เป็นไร ไหนให้ข้าดูซิ ฮึ่ม...อึม ๆ ๆ...อึม...”

“เป็นไงบ้างคะไต้ซือ คิดว่าพอจะรักษาได้หรือเปล่า”

“อ้อ...อาจเพราะว่าตอนเกิดไฟไหม้ เขา ลืมตาเพื่อจะมองบางสิ่งบางอย่าง ที่จริงตอนนั้นก็ควรรักษาแต่แรกจะได้ไม่ลุกลามน่ะนะ”

“อึม...”

“อึม...แต่จะลองดูละกัน”

“ในเมื่อไต้ซือยินดีให้ความช่วยเหลือ ข้าก็ค่อยเบาใจขึ้น...ยังมีผู้หญิงนี่อีกคน...เห็นว่าเกิดเหตุร้ายบางอย่าง ทำให้นางไม่ยอมพูดจาอีก” มีซิล กล่าว

“อึม...”

“เดิมทีก็มีงานรบกวนท่านอยู่แล้ว ยังจะเพิ่มภาระให้อีก ต้องขออภัยด้วยนะคะ แม้จะรู้ว่าไม่ควร แต่ก็อยากให้ท่านรับปาก”

“อึม...”

มีซิลและชิซูมีโอกาสได้คุยกันตาม ลำพัง มีซิลจึงถามลักษณะของเด็กแฝดอีกคน ที่ชิซูพบ

“นางเป็นเด็กฉลาดและใจกล้า”

“หนังสือที่เคยส่งมาก่อนหน้า เป็นของเด็กคนนี้ที่อ่านหรือ”

“ใช่”

“รู้มั้ยว่านั่นเป็นหนังสือประเภทไหน”

“เรื่องนี้ข้าไม่ทราบ เพราะนั่นเป็นสถานที่สัญจรของเหล่าพ่อค้า นางจึงสนใจเรียนรู้วัฒน ธรรมต่าง ๆ”

“เจ้าบอกว่าเด็กตายแล้ว แล้วนางในล่ะ นางในคนนั้นเป็นไงบ้าง”

“ตอนที่เกิดเหตุไฟไหม้ นางก็ถูกคลอกตายด้วย”

“อย่างงั้นหรอกหรือ...เรื่องอื่นไว้คุยวันหลังก็ได้ เจ้าพักผ่อนก่อน” มีซิล ยังไม่เชื่อในคำพูดของชิซูมากนัก

ชิซูเข้ามาคุยกับโซวาที่เอาแต่นิ่งไม่ยอม พูดจาอะไรกับใคร

“ดูเหมือนไม่มีใครจำเจ้าได้สักคน...อาจเพราะผ่านไปเกือบ 20 ปีก็ได้ ข้าก็ไม่เข้าใจตัว เองว่าทำไมต้องช่วยเจ้าไว้ พาไปไหนมาไหนด้วย กัน...ไต้ซือบอกว่าจะรักษาเจ้าด้วย ซึ่งข้าก็ไม่รู้ว่าจะเป็นผลดีหรือผลร้ายสำหรับตัวเอง”

“ออกไปเถอะ”

“หา...นี่เจ้าว่าไงนะ...เมื่อกี้เจ้าพูดหรือ หึ...ไหนลองพูดอีกทีซิ พูดเร็ว...ฮือ...” ชิซู ดีใจที่โซวาพูดออกมา

หลังจากที่ต๊อกมานผิดใจกับยูซิน นางจึงมาเข้าพวกกับฝั่งของมีซิล

“สิ่งที่ท่านเคยคาดการณ์ เป็นความจริงทุกอย่าง องค์หญิงมีรับสั่งให้ข้าสืบหาความลับของดอกเหมยแห่งซาตาฮัม”

“แล้วพวกเจ้ารู้เรื่องดอกเหมยแห่งซาตาฮัมได้ยังไง”

“สมัยก่อนพระเจ้าจินฮึง เคยรับสั่งให้ท่านมุนโนไปหาของบางอย่าง”

“มุนโน”

“หลังจากสืบหาอยู่นาน ท่านมุนโนได้ทิ้งเบาะแสเกี่ยวกับเรื่องนี้และวัดทันชองไว้ ฉะนั้น วันก่อนข้าจึงไปวัดทันชอง ได้ยินคนพูดกันว่าพ่อค้าที่มา จะเอาดอกเหมยแห่งซาตาฮัมมายังแคว้นชิลลา แต่ว่า จนวันนี้ยังไม่มีความคืบหน้า ส่วนข้าก็เดือดร้อน เพราะจดหมายที่ท่านเซจูส่งมา ทำให้ถูกองค์หญิงเข้าพระทัยผิด ถูกกีดกันออกจากหน่วยองครักษ์ ฉะนั้น....จึงอยากให้ท่านรับข้าไว้”

“หือ....หึ ๆ ๆ”

“เจ้าไปเถอะ”

“ท่าน....ท่านเซจู”

“ถ้าเจ้าไม่เป็นฝ่ายมาหาข้าก่อน ไม่แน่ข้าอาจสนใจเจ้าก็ได้ แต่นี่จู่ ๆ มาด้วยตัวเอง ....ฉะนั้น ข้าเลยหมดความสนใจ”

“เอ่อ....แต่ว่า....”

“เพียงแค่จดหมายเขียนเล่นฉบับเดียว ก็ทำให้เจ้าถูกรังเกียจ นั่นแปลว่าสิ่งที่องค์หญิงทรงคาดหวังต่อเจ้า ก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย.... แล้วคนแบบนี้จะมาทำงานให้ข้าได้ยังไง เจ้าไปเถอะ”

“บอกให้ออกไปไม่ได้ยินหรือ เฮอะ.... หมอนี่มันช่างเหลี่ยมจัดจริง ๆ....มีคนบอกว่ารู้ภาษาละติน แต่แกล้งทำไม่รู้ซะงั้น คิดแล้วมันก็น่าโมโห....ถ้าไม่เพราะเศรษฐีจางมาบอก ข้าก็คงจะถูกหลอกเหมือนกัน”

“เจ้ารู้ภาษาละตินด้วยหรือนี่ ต่อไปให้มาหาข้าทุกคืนในเวลาเที่ยงคืน ข้าจะให้....ช่วยอ่านหนังสือเล่มนี้หน่อย” มีซิล เริ่มสนใจในตัวต๊อกมานขึ้นมา

ต๊อกมานมาหายูซิน แล้วขอร้องให้เขาช่วยด่านางหน่อย เพื่อหวังให้คนของมีซิลที่แอบตามมาเห็นว่า ตอนนี้ไม่มีใครไว้ใจนางอีกต่อไปแล้ว

“เจ้าพูดอะไร นึกหรือว่าข้าจะเชื่อคำพูดของเจ้า”

“ดังกว่านี้อีก ด่าดัง ๆ”

“อะไรนะ”

“แล้วข้าจะอธิบายให้ฟัง ตอนนี้ท่านต้องโมโหด่าข้าไว้ก่อน....อึ้ม....”

“นึกหรือว่าข้าจะเชื่อคำพูดเจ้า”

“อึม ๆ”

“ตั้งแต่เมื่อคืน เจ้าก็ไม่รู้หายไปไหน แถมยังไปพบท่านมีซิล และจดหมายก็ถูกขีดข้อความทิ้งอีก ข้าจะเชื่อคำพูดเจ้าได้ยังไง”

“อึม ๆ”

“เจ้ามีความลับอะไรปิดบังอีก หา....ฮึ่ม ....บอกมาเดี๋ยวนี้ พูดซี่”

เมื่อคนของมีซิลกลับไปแล้ว ทั้งหมดจึงมาพบองค์หญิงชอนมยองเพื่อวางแผนให้ต๊อกมานได้ใกล้ชิดกับมีซิล

“ทำไมแค่เห็นจดหมายฉบับนั้น เจ้าก็รู้ทันแผนของมีซิลแล้วหรือ”

“นั่นเป็นเรื่องของฮ่องเต้ “เว่ยอู่” กับ “หานซู่””

“งั้นหรือ”

“หนังสือที่ท่านมีซิลอ่าน มีเขียนเกี่ยวกับประวัติช่วงนี้”

“แล้วเจ้ารู้ได้ยังไง” ต๊อกมานเป็นคนจดไว้ แต่ไม่ยอมพูดความจริงออกมา

“หม่อมฉันเคยอยู่ในห้องเศรษฐีจาง อ่านเรื่องนี้เข้า”

“อึม....ในเมื่อเข้าใกล้มีซิลได้แล้ว ยังไงเจ้าก็ต้องสืบให้รู้ ว่าดอกเหมยแห่งซาตาฮัมคืออะไรกันแน่”

“ได้ หม่อมฉันก็รู้ว่าโอกาสมีครั้งเดียว จะให้พลาดไม่ได้”

“อีกอย่าง ก่อนที่งานจะลุล่วง อย่าให้คนในหน่วยยองวารู้ว่าเจ้าทำอะไรอยู่ล่ะ” ยูซิน กำชับ

“ข้ารู้หรอกน่า ไม่ต้องห่วงหรอก”

ยูซินแสดงความเป็นห่วงต๊อกมาน ที่จากนี้ นางจะต้องเริ่มทำหน้าที่อย่างจริงจัง

“เอาเถอะ ๆ ข้ารู้หน้าที่ตัวเองดี”

“แต่ว่า เมื่อเช้าเจ้าดูแปลก ๆ”

“แปลกยังไง”

“ในเมื่อเราตกลงว่าจะเล่นละครกัน แล้วทำไมเจ้าต้องร้องไห้ด้วย”

“เอ่อ....อ้อ....เปล่า พอดีว่า....คือ....ข้านึกถึงว่าเกิดท่านระแวงข้าขึ้นมาจริง ๆ แล้วจะทำไง สุดท้ายก็เลยร้องไห้ออกมา....ท่านยูซิน ท่านห้ามระแวงข้าล่ะ”

“หึ....เพ้อเจ้อ” ยูซินทำเสียงฮึดฮัด ก่อนจะเดินจากไป

“ข้าไม่ตั้งใจหลอกท่านหรอกนะ ท่าน ยูซิน เพียงแต่ว่าตอนนี้ ข้ามีเรื่องสำคัญกว่านี้ต้องทำอีก....ทำไมท่านมีซิลคิดจะฆ่าแม่ข้า และยังมีข้าอีกคน หนังสือที่ข้าเคยอ่านตอนอยู่ที่โน่น ทำไมมาอยู่ในมือท่านมีซิลได้ หรือจะเป็นอย่างที่ได้ยินจริง ๆ คือชิซูตามมาถึงที่นี่ พวกนี้ ข้าจำเป็นต้องรู้ให้ได้ ไว้สืบรู้ความจริงทั้งหมดนี้แล้ว ข้าค่อยสารภาพกับท่านอีกที” ต๊อกมาน ครุ่นคิด

โซวาหายตัวไปจากตำหนักธิดาเทพ ชิซูจึงออกตามหา แต่ยังไม่ทันที่จะเจอโซวา ชิซูก็เดินชนต๊อกมานโดยบังเอิญ ต๊อกมานเห็นหน้าชิซูถึงกับตกใจ เพราะนางจำได้ว่า เขาเป็นคนที่ตามฆ่านางที่เคนิม แต่ชิซูก็เดินสะเปะสะปะออกไป ทำให้ต๊อกมานรู้ว่า ตอนนี้ชิซูมองไม่เห็นอะไรแล้ว





..............จบตอนที่ 15..........



1 ความคิดเห็น:

  1. ทีมงานนี้เร็วจริง ๆ ขอบคุณมากมายนะจ๊ะ

    ตอบลบ