วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 50



Queen Seon Deok ( 善德女王/ 선덕여왕)
เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 50
Cr. : Dailynews Online


มีซิลเล่าให้ทุกคนฟังว่า พีดัมเป็นลูกของนางที่เกิดกับพระเจ้าจินจิในอดีต ชื่อเดิมว่ายอนจง แต่เพราะพระเจ้าจินจิไม่สนใจไยดี นางจึงทิ้งพีดัมไป แต่มุนโนเก็บพีดัมไปเลี้ยง เพราะเชื่อว่าอนาคตเขาจะได้เป็นพระราชา

พีดัมไม่บอกความจริงแก่ต๊อกมาน ว่าเขาเกี่ยวข้องกับมีซิลอย่างไร ต๊อกมานรู้ว่าพีดัมปิดบัง แต่เดาไม่ออกว่าเพราะอะไรเขาถึงต้องโกหก

มีซิลมีท่าทีเปลี่ยนไป หลังจากที่พีดัมมาพบ และบอกเรื่องราวของพีดัมให้น้องและลูกรู้

“ตะวันตก ตะวันออก และทิศเหนือ.... ประตูทุกด้าน จะมีทหารสามกองผลัดกันเฝ้ายามตลอด”

“ตอนนี้เสบียงในเมืองยังมี 2,500 กระสอบ ต่อให้ไม่มีมาเพิ่มก็ยังพออยู่ได้อีกหนึ่งปี”

“ที่สำคัญ เจ้าเมืองต่าง ๆ ที่เราติดต่อไป ถ้าคนหนึ่งมีความเคลื่อนไหว ที่เหลือจะรีบประสานงาน มาช่วยพวกเราทันที”

“ใช่ ถึงตอนนั้น แม้เราจะอยู่นี่ แต่ก็มี กำลังเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ถ้าไงข้าจะส่งหนังสือไปกำชับพวกเขาอีกที....ท่านเซจู ท่านฟังอยู่หรือเปล่า” ซอวอน กล่าว

“อ้อ....ฟัง ทำตามที่ท่านว่านั่นแหละ”

ต๊อกมานกับพวกกำลังเผชิญหน้ากับสงครามกลางเมือง คิมซอยอนจึงต้องเร่งฝึกทหารให้ชำนาญ เพื่อจะได้รีบเผด็จศึกเมืองแทยาซองให้เร็วที่สุด

“แต่เราจะหาทหารฝีมือดีได้ที่ไหนอีก ไพร่พลของท่านจูจินและใต้เท้า “จินจอง” ต่อให้รวมกัน ก็แค่ 1 หมื่นคนเท่านั้น” ไอชอง กล่าว

“ข้าขอถามหน่อย เรายังมีทหารที่อยู่ชายแดนไม่ใช่หรือ”

“ไม่ได้เด็ดขาด ห้ามไปยุ่งกับพวกเขา” ยูซิน ห้ามไว้

“เพราะอะไร รีบเผด็จศึกให้หมดเรื่องหมดราวมิเป็นการดีหรอกหรือ”

“ไม่ได้ ห้ามทำอย่างงั้น อย่าเอาทหารที่อยู่ชายแดนมาเกี่ยวด้วย ถ้าเราไม่ตรึงกำลังไว้ที่นั่น แคว้นแพ่กเจจะยิ่งฮึกเหิม เผลอ ๆ จะมาเล่นงานเราได้”

“แต่ว่าองค์หญิง ถึงฝ่ายเราไม่ใช้ ไม่แน่มีซิลอาจสั่งการไปยังทหารชายแดนก็ได้”

“ไม่หรอก ข้าเชื่อว่ามีซิล....จะไม่แตะต้องทหารแนวหน้าของเรา” ต๊อกมาน กล่าว

เป็นไปตามที่ต๊อกมานคาดการณ์ไว้ เพราะมีซิลสั่งทุกคนห้ามยุ่งกับทหารชายแดน เพราะถ้ามีการเคลื่อนย้ายทหารที่อยู่แนวหน้า นั่นหมายถึงรากฐานของบ้านเมืองจะสั่นคลอนไปด้วย

ต๊อกมานกำลังหาทางเล่นงานมีซิลอยู่ จุปังจึงเสนอความคิดให้ใช้น้ำทำลายเมืองแทยาซอง เหมือนที่ในอดีตแคว้นฉินไปปราบแคว้นวุ่ย ปล่อยให้น้ำท่วมทะลัก จนเมือง “ต้าเหลียง” จมอยู่ใต้บาดาล ซึ่งถูกหลายฝ่าย วิจารณ์เนื่องจากว่าติดตรงที่น้ำไม่พอ แต่หลังจากที่พีดัมฟังความเห็นของจุปังแล้วก็นึกอะไรขึ้นมาได้

“นอกจากแม่น้ำ “ฮวางกัง” แล้ว สายน้ำทุกสายไหลจากตะวันออกไปตะวันตกหมด แม่น้ำลำคลองทุกสายในเมืองแทยาซอง แม้แต่ลำธารก็เช่นกัน”

“แปลว่าจะใช้น้ำหรือ? ในฤดูแบบนี้น่ะ”

“ไม่ใช่ แต่ตรงกันข้าม....อันดับแรก เราจะกั้นน้ำที่ไหลสู่แม่น้ำสายหลักของแทยาซอง แม้ว่าพวกเขาจะมีเสบียงเหลือเฟือ แต่ถ้าไม่มีน้ำ ดูซิจะอยู่กันยังไง” พีดัม กล่าว

“แต่ว่า พวกเขายังมีปัจจัยเกื้อหนุนอีกหลายทาง แล้วเราจะขัดขวางได้ยังไง”

“ใช่ สายน้ำพวกนี้ ที่แยกย่อยออกไป เราจะใช้การวางยาพิษ จากนั้นไม่นาน รับรองว่าแหล่งน้ำทุกแห่งในเมืองแทยาซอง ก็จะ....กลายเป็นแห้งขอด ไม่เกินครึ่งเดือนเท่านั้น เมืองแทยาซอง จะกลายสภาพเป็นนรกทันที”

“องค์หญิง ถ้าทำแบบนี้ ที่ดินก็จะถูกทำลาย กลายเป็นที่ที่มนุษย์ไม่สามารถอยู่ได้ หลังจากนั้นก็จะมีผู้อพยพมากมายตามมา ชาวบ้านอาจจะคิดว่า ทางการรังแกพวกเขาก็ได้ นะพ่ะย่ะค่ะ....องค์หญิง ต้องทรงคิดให้ดีก่อน แทยาซองก็เป็นเขตปกครองขององค์หญิงนะ.... องค์หญิง” คิมยูซิน เสนอความเห็น

“ใช่ ข้าคิดว่า แผนการรบที่พีดัมเสนอมา คงไม่เหมาะที่เราจะใช้”

ถึงแม้ว่าต๊อกมานจะไม่เห็นด้วยกับความคิดของพีดัม แต่ในอีกแง่หนึ่ง นางก็จะใช้แผนการของเขาเหมือนกัน

“หม่อมฉันเข้าใจแล้ว เราจะเอาวิธีที่ พีดัมบอกเมื่อกี้ ไปเปิดเผยให้ศัตรูได้รู้”

“อึม....”

“ความลับทางทหาร เราจะแกล้งเปิดเผยให้ศัตรูได้รู้” คุณชายชุนชู กล่าว

“ปิดกั้นทางน้ำไหล วางยาในน้ำไม่ให้ชาวบ้านได้บริโภค ไม่เกินครึ่งเดือน เมืองแทยาซองต้องปั่นป่วนแน่”

ต๊อกมานเตรียมตัวที่จะไปเจรจากับมีซิล เมื่อพีดัมรู้ ก็ไม่สบายใจ รีบไปทักท้วงเอาไว้ แต่ต๊อกมานอธิบายให้ฟังว่าที่บีบให้มีซิลจนตรอก ก็เพื่อหวังผลทางเจรจา นั่นเพราะว่า มีซิลคงไม่ยอมรับเรื่องนี้ง่าย ๆ พร้อมทั้งสั่งให้พีดัมนำจดหมายฉบับหนึ่งไปมอบให้มีซิล อีกทั้งกำชับว่าต้องให้จดหมายฉบับนี้กับมือนาง เหมือนว่าจะทดลองใจพีดัม ซึ่งเขาก็ยอมทำตามแต่โดยดี

พีดัมนำจดหมายมามอบให้มีซิลกับมือ นางเปิดอ่านก่อนย้อนถาม

“นางนัดข้าออกไปพบตามลำพัง....เว้นแต่พวกเจ้าจะยอมแพ้ ไม่งั้นข้าคงไม่พบ”

“เพราะอะไร ท่านกลัวนางหรือไง”

“กลัวหรือ ข้าน่ะหรือกลัวต๊อกมาน?”

ระหว่างนั้นซอวอนมาขัดจังหวะ พร้อมขอคุยกับมีซิลตามลำพัง

“อะไรนะ จะปิดกั้นทางน้ำไหล และวางยาในแหล่งน้ำงั้นหรือ”

“ใช่ ที่ผ่านมาเมืองแทยาซอง ไม่เคยเผชิญกับศัตรูที่มาจากทางทิศตะวันออก ด้วยเหตุนี้ จึงไม่เคยคิดว่าตัวเองมีจุดอ่อนด้านทำเลที่ตั้ง”

“แต่นี่ คือความลับทางทหารไม่ใช่หรือ”

“ใช่ ข้าก็รู้ว่าเป็นจิตวิทยาที่จะทำให้เรากลัว เพราะฉะนั้น จึงแกล้งมาบอกให้รู้ก่อน”

“หึ....แล้วตอนนี้ ทหารในเมืองรู้หมดแล้วใช่ไหม”

“ใช่ ข่าวลือเรื่องนี้ น่าจะแพร่สะพัดไปทั่วเมืองแล้ว”

“ปล่อยข่าวหรือ? แสดงว่านางไม่คิดจะรบกับเรา”

“หา....”

“คิดจะบีบให้ข้าจนตรอก แล้วค่อยยื่นมือมาช่วยหรือ....อยากทำอะไรก็เชิญเลย จะปิดกั้นทางน้ำหรือจะวางยา นึกว่าใช้แผนนี้จะทำให้ข้ากลัวองค์หญิงต๊อกมานงั้นหรือ”

ต๊อกมานคิดที่จะเจรจากับมีซิล เพื่อจะได้เกิดความสันติ เนื่องจากเห็นว่า หากจะกวาดล้างเครือข่ายและคนของมีซิล อาจต้องใช้เวลาเป็นสิบปีขึ้น ที่สำคัญ แม้แต่จะเกลี้ยกล่อมให้พวกเขามาเป็นพวก ก็ต้องใช้เวลาอีกหลายปีเหมือนกัน คุณชายชุนชูไม่แน่ใจว่าต๊อกมานจะสมานฉันท์กับคนอย่างมีซิลได้หรือ ซึ่งเรื่องการสมานฉันท์รู้ถึงหูพระเจ้าจินพยองและมายา ทั้งคู่แปลกใจ คิดไม่ออกว่าต๊อกมานกำลังจะทำอะไรกันแน่ และหนักใจไม่รู้ว่าต๊อกมานจะทำสำเร็จหรือไม่

คิมยูซินเองก็หนักใจไม่น้อยกว่าใคร หลังฟังแผนการสมานฉันท์ของต๊อกมาน

“หม่อมฉัน....พยายามเห็นแก่อุดมการณ์ขององค์หญิง และเดินตามแนวทางที่วางไว้ ต่อไปก็ยังคงเหมือนเดิม แต่ว่าคราวนี้ทำให้ไม่มั่นใจ....มันจะเป็นไปได้หรือ ไม่ใช่ ต้องบอกว่าสามารถทำได้หรือ” คิมยูซิน กล่าว

“วันก่อน ข้าเคยบอกว่าสิ่งที่เราต้อง การที่สุดคืออะไร....นั่นเพราะว่า เรายังขาดประสบการณ์ในการบริหารบ้านเมือง แต่มีซิลมีมากกว่า....ใช่แล้ว สิ่งที่เราต้องการมากที่สุดตอนนี้ คือบุคลากร”

“หรือว่า องค์หญิงทรงคิดจะ....นี่แปลว่า....”

“ใช่ ข้าต้องการอย่างงั้น”

“ทรงเห็นว่า มีซิลเป็นบุคลากรที่มีความสามารถงั้นหรือ”

“ทั่วแคว้นชิลลา ใครจะรู้เรื่องการปกครองยิ่งกว่านางอีก” ต๊อกมาน กล่าว

พีดัมพาต๊อกมานมาพบกับมีซิลที่ชายแดนของแคว้นตามที่นัดหมาย โดยมีพีดัมคุ้มกันอยู่ พร้อมให้ทหารของทั้งสองฝ่ายไปอยู่นอกเขตสิบลี้ ต๊อกมานอยากให้การเจรจาครั้งนี้นำไปสู่การสมานฉันท์

“บ้านเมืองเรา ยังต้องมีการขับเคลื่อน อยู่ เพราะฉะนั้น ข้าจึงต้องการคนมาช่วยงานอีก มาก”

“ใช่ หม่อมฉันมีคนเก่งอยู่มากมาย ทรงอยากได้คนไหนบ้างล่ะ ท่านซอวอน มีเซ็ง หรือว่าชิซู”

“ท่านเซจู”

“เพคะ”

“คนที่ข้าต้องการจริง ๆ...ไม่ใช่ใครอื่นเลย แต่เป็นท่าน ให้ข้าได้ร่วมงานกับคนเก่ง อย่างท่านซักครั้งได้ไหม ไหน ๆ ตอนนี้ท่าน ก็เพลี่ยงพล้ำไปกว่าครึ่งแล้ว ถ้าไง จะไม่ลองวางแผนอนาคตบ้างหรือ” ต๊อกมาน กล่าว

“วางแผนอนาคตก็คือ อยู่ใต้อาณัติของ องค์หญิงงั้นหรือ”

“หึ...อาจเป็นคำตอบที่แสลงใจ แต่จะ คิดอย่างงั้นก็ไม่ผิด ถ้าจะปลูกฝังคนใหม่ ยังไงก็ไม่ใช่เจ้าของชิลลาแต่แรกอยู่แล้ว งั้นก็สู้... สนับสนุนคนเก่าต่อไป ท่านว่าดีหรือเปล่า”

“เจ้าของ...เจ้าของชิลลาหรือ หม่อมฉัน มีซิล ยังไงก็ไม่ใช่เจ้าของชิลลาอยู่แล้วใช่ไหม”

“เว้นแต่จะไปสร้างแคว้นใหม่ ไม่งั้นคง เป็นไปไม่ได้ แต่ว่าตอนนี้ท่านก็ล้มเหลวอยู่แล้ว ตอนนี้ท่านเซจู ไม่ว่าทำอะไรก็ถือว่าหมดหนทาง ที่จะปกครองชิลลาอีก”

“ปกครอง...ชิลลาหรือ...มณฑลชองชอน” เมือง “โทซา” มณฑล “ฮันตาซา” เมือง “ซกฮัม” องค์หญิงรู้มั้ยว่ามันอยู่ที่ไหนบ้าง”

“อยู่ภาคใต้ของชิลลา อยู่เหนือสุด และเป็นชายแดนทางตะวันตก”

“ไม่เลย ไม่ใช่อย่างงั้น เป็นที่ที่หม่อม ฉันเคยหลั่งเลือดปกป้องไว้เป็นที่ที่ฝังศพเพื่อนทหารด้วยกัน เหล่าองครักษ์ เพื่อนร่วมรบ ยังไม่ทันได้ฝังศพพวกเขา ก็ต้องทิ้งไว้อย่างงั้น... นี่แหละ คือแคว้นชิลลา ที่ที่พระเจ้าจินฮึงและหม่อมฉันช่วยกันขยายอาณาเขตจนกว้างไกลอย่างทุกวันนี้ เจ้าของชิลลาหรือองค์หญิงรู้อะไร บ้าง หม่อมฉันแปรความรักที่มีต่อซาตาฮัม ให้เป็นความรักชาติ ยิ่งรักมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งหวงแหนเท่านั้น” มีซิล กล่าว

“ท่านเซจู”

“ทรงต้องการความสมานฉันท์หรือ เป็นมิตรใช่ไหม ต๊อกมานถามหน่อยเถอะ เจ้าจะยอมแบ่งความรักให้ใครมั้ย” มีซิล กล่าว

คำพูดของมีซิลทำให้ต๊อกมานรับรู้ได้ว่าการเจรจาครั้งนี้ล้มเหลว เนื่องจากนางไม่ร่วม มือด้วย เพราะไม่ต้องการแบ่งความรักที่มีให้ใคร เมื่อพีดัมรู้จึงเสนอตัวเข้าไปเจรจากับมีซิลอีกครั้งหนึ่ง

“จนวันนี้ท่านยังหวังชัยชนะอีกหรือ.... จริง ๆ แล้ว สวรรค์อาจไม่เข้าข้างท่านอีก”

“ต่อให้สุดท้ายข้าเป็นฝ่ายแพ้จริง ก็จะไม่ให้พวกเจ้าได้สมหวังง่าย ๆ หรอก”

“ทำไมต้องดึงดันขนาดนี้” พีดัม กล่าว

“เพราะไม่มีเหตุผลที่จะไม่สู้ต่อ”

“ถ้าอย่างงั้น ของสิ่งนี้จะว่ายังไง...รู้ใช่ไหม ว่าคืออะไร” พีดัมเอาคำสั่งของพระเจ้าจินฮึงมา ข่มขู่นาง

“ในที่สุดมันก็ไปอยู่กับ...คนที่คู่ควร” มีซิล พอใจที่คำสั่งนั้นตกไปอยู่ในมือของพีดัม

“เดิมทีควรจะอยู่กับองค์หญิงต๊อกมาน แต่ ข้าเอาไปซ่อนไว้”

“ซ่อนไว้หรือ เพื่ออะไรกัน แค่เปิดเผยเท่า นั้น ก็สามารถเอาชีวิตข้าได้อย่างง่ายดายแล้ว”

“ข้าขอร้องอย่าสู้อีกเลย”

“ยิ่งสู้ไปนาน ๆ เชื่อเถอะว่าคนที่จะมาติดตามข้าจะยิ่งมีมากขึ้น ว่าแต่ว่า แล้วเพราะอะไร ทำไมต้องไปเก็บไว้ เพราะอะไรบอกเหตุผลมาหน่อยได้ไหม”

“เพราะว่า มันเป็นความโหดร้ายสำหรับข้า ยิ่งกับท่าน ท่านแม่ด้วยแล้ว...เส้นทางชีวิตของท่าน ถือว่าได้กำไรมามาก จริง ๆ แล้ว เมื่อหลายสิบปี ก่อน ท่านน่าจะถูกประหารไปแล้ว ได้โปรดยอมรับข้อเสนอขององค์หญิงเถอะ ไม่อย่างงั้น ซักวันข้าจะเอาไปเปิดเผย” มีซิลเหมือนจะใจอ่อน แต่ก็เดินจากไป

เมื่อมีซิลไม่ยอมที่จะทำตามแผนสมาน ฉันท์ ต๊อกมานจึงกลับมาให้คิมยูซินเตรียมแผนการ จู่โจมเอาไว้ พร้อมให้ไอชองตัดเส้นทางกระแสน้ำ ไหล จากนั้นก็บอกฝ่ายมีซิลว่า เราได้สกัดทางน้ำ ไว้หมด และให้ยอจงติดต่อสายสืบที่เข้าไปในเมืองแทยาซอง ปล่อยข่าวให้ทั่วว่า องค์หญิงได้ วางยาในแหล่งน้ำทุกแห่ง ส่วนท่านแวยา ท่านกับซอแจและจุปังพาลูกน้องของตัวเอง คอยเฝ้าเมืองแทยาซองไว้และหมั่นมารายงานตลอดเวลา

พวกซอวอนและมีเซ็งถกกันถึงเรื่องที่ต๊อกมานมาเจรจาสมานฉันท์กับมีซิล แต่ถูกปฏิเสธ เพราะคิดว่าตัวเองมีกำลังทหารมากพอ แต่เมื่อลูก น้องมารายงานว่าตอนนี้แคว้นข้างเคียงพาทหารไป สวามิภักดิ์ต่อองค์หญิงต๊อกมานหมดเลยตั้งแต่มีข่าวว่าองค์หญิงจะวางยาตามแหล่งน้ำ แต่ก็มีบางส่วนที่ไม่เชื่อในคำขู่ของต๊อกมาน

ต๊อกมานกำลังทำตามที่ปล่อยข่าวออกไป ด้วยการใช้จิตวิทยาเล่นงานพวกที่ขวัญอ่อน ทำให้ มีทหารบางส่วนหนีออกไปจากแทยาซอง แต่ก็มีบางส่วนที่สำนึกในบุญคุณของมีซิล และพร้อม ที่จะอารักขานางอยู่ เมื่อฝ่ายของต๊อกมานรู้ ก็เริ่มตระหนก

ซอวอนเดาไม่ออกว่ามีซิลคิดจะทำอย่างไรต่อไป จึงถามนางตรง ๆ

“สงบศึก...ยุติไปซะ”

“ท่านเซจู”

“ท่านแม่ ๆ ๆ โอย...ท่านแม่ เจ้าเมือง “ซกฮัม” ที่ชื่อ “ยอกิดชอน” กำลังพาทหารมาที่นี่ จะเข้าเมืองแทยาซองมาแล้วล่ะครับ เขายังบอกอีก ว่า จะมาช่วยท่านสู้กับองค์หญิงด้วยแน่ะ” ฮาจอง รีบทูล

เรื่องของเจ้าเมือง “ซกฮัม” ที่กำลังพาทหารเข้าเมืองแทยาซองเพื่อมาอารักขามีซิล รู้ถึงหูของต๊อกมาน

“แล้วเมืองซกฮัมจะทำยังไง อยู่ติดกับ แคว้นแพ่กเจไม่ใช่หรือ”

“องค์หญิง ทหารเมืองซกฮัมมีถึง 2 หมื่นเชียวนะพ่ะย่ะค่ะ” คิมยูซิน กล่าว

“องค์หญิง”

“เราต้องไปดูทหารแพ่กเจ ที่อยู่ใกล้กับเมืองซกฮัมซะก่อน”

“นี่ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะคิดนะพ่ะย่ะ ค่ะ อีกสองวันพวกเขาก็จะมาแล้ว” ซอแจ ตระหนก

“แต่นี่คือ...ปัญหาเร่งด่วนที่สุด” ต๊อกมาน กล่าว

ฮาจองโล่งใจที่รู้ว่ายอกิดชอนต้องมาช่วยแน่ เพราะครอบครัวเขาได้ดิบได้ดีก็เพราะ มีซิลเป็นผู้ส่งเสริม

“ถ้าทหารจากเมืองซกฮัมมาช่วยเรา โอกาสก็จะมีมากขึ้น แต่ว่า ไม่แน่องค์หญิงต๊อกมานก็อาจเรียกทหารชายแดนมาช่วยเหมือน กัน” ซอวอน กล่าว

“โธ่เอ๊ย...กว่าจะมา เราก็ปราบพวกเขา ซะก่อน จากนั้นก็ยึดเมืองหลวงซะก็สิ้นเรื่อง แหม...”

“ท่านเซจู ท่านกำลังคิดอะไรอยู่”

“ทหารแพ่กเจที่อยู่ใกล้กับเมืองซกฮัม เป็นหน่วยกล้าตายที่ฝีมือร้ายกาจนัก เราต้องไปดูความเคลื่อนไหวของพวกเขาก่อน” มีซิล กล่าว

“ได้”

“เดี๋ยว...ท่านแม่ เรื่องนี้มันสำคัญมาก หรือครับ”

“สำคัญมากที่สุด” มีซิล กล่าว

ต๊อกมานบอกให้พีดัมรู้ว่า ตอนนี้ทหาร เมืองซกฮัมเริ่มมีความเคลื่อนไหวแล้ว

“แล้วเราจะทำไงดี ถ้าไม่สั่งให้ถอนทัพ ก็ต้องรีบโจมตีเพื่อปิดฉากโดยเร็ว”

“ไม่แน่ว่า...ไม่แน่ว่าถึงตอนนั้นกองทัพ ของยอกิดชอน อาจถอยกลับก่อนก็ได้”

“หา...เพราะอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ” พีดัม สงสัย

ทันทีที่ยอกิดชอนถอนกำลังออกจากชายแดน ก็มีข่าวว่าทหารแพ่กเจเตรียมระดมพล อยู่ที่เนิน “พัลยาง” ด้านตะวันตก พอมีซิลรู้จึงสั่งให้ถ่ายทอดคำสั่งออกไป ให้เขาถอนทัพกลับ เตรียมป้องกันเมืองซกฮัมอย่างแข็งขัน สร้างความแปลกใจให้ทุกคน เพราะไม่เข้าใจในการกระทำครั้งนี้ของมีซิล

แต่ต๊อกมานรู้ว่ามีซิลต้องทำแบบนี้แน่ เพราะมีซิลเคยพูดกับต๊อกมานไว้ว่า นางแปรความรักที่มีต่อซาตาฮัม ให้เป็นความรักชาติ นี่แหละ คือแคว้นชิลลา ที่ที่พระเจ้าจินฮึงและมีซิลช่วยกันขยายอาณาเขตจนกว้างไกลอย่างทุกวันนี้

“ข้า....เหมือนจะเห็นมีซิลในอีกภาพหนึ่ง.... ภาพของเจ้าแผ่นดิน ที่ห่วงใยบ้านเมือง” ต๊อกมานรำพึงกับตัวเอง

ซอวอนแปลกใจที่มีซิลสั่งให้ยอกิดชอนถอนทัพกลับไป แต่มีซิลอธิบายว่า ถ้าตอนนี้นางเป็นต้นเหตุให้ชายแดนถูกรุกราน นั่นเท่ากับว่า นางได้พ่ายแพ้ต่อต๊อกมานโดยสิ้นเชิงแล้ว พร้อมบอกทุกคนว่า อยากให้ทุกอย่างจบลงแค่นี้

“ท่านก็อย่าคิดให้มันสลักสำคัญนักเลย สมัยที่เราเป็นองครักษ์ เคยร้องเพลงอยู่เพลงหนึ่ง ท่านยังจำได้หรือเปล่า”

“ยามใดที่บ้านเมืองมีภัย เราพร้อมจะสู้รบ”

“ยามใดบ้านเมืองสงบ เราก็ต้องปกป้อง หากป้องกันไม่อยู่ เราก็ต้องยอมถอย”

“ถอยจนหมดทางไปแล้ว ก็ต้องขอยอมแพ้”

“แต่ถ้าไม่ยอมแพ้ละก็ ถ้าไม่มีช่องทางแม้แต่จะพ่ายแพ้....ถึงวันนั้น เราก็พร้อมยอมตาย” มีซิล กล่าว

“ท่านเซจู”

“วันนี้ ก็คือวันที่เราคิด....ช่วยจัดงานศพให้ข้าด้วยนะ ท่านซอวอน”

“โปรดอย่าพูดอย่างงั้น ข้าจะไปกับท่านด้วย”

“สิ่งที่ข้าจะสั่ง นับแต่นี้ ไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือสัญญา ล้วนแล้วแต่เป็นครั้งสุดท้าย ขอให้ทำตามด้วย....ให้คนที่อยู่กับเราได้รอดชีวิตอย่างปลอดภัย พาพวกเขากลับไปด้วย”

“เพราะอะไร ทำไมจนวันนี้ยังเป็นห่วงใครต่อใครมากมายที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเราเลย ทำไมท่านถึงกลายเป็นคนอ่อนแอแบบนี้”

“หึ....ข้าไม่ได้อ่อนแอหรอก เพียงแต่ปรับตัวตามสถานการณ์ ตอนนี้ต้องปูทางสำหรับขั้นสุดท้ายของเราเท่านั้น โดยเฉพาะกับท่าน ข้าคงต้องขอโทษด้วย” มีซิล กล่าว

ข่าวยอกิดชอนถอนทัพกลับสร้างความ แปลกใจให้กับพวกคิมยูซิน แต่ต๊อกมานไม่แปลกใจเลย เพราะนางคิดไว้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ ด้านมีซิลประกาศยอมแพ้ พร้อมสั่งให้ลดธงลง และชูธงขาวขึ้น ชิซูได้รับคำสั่งให้เรียกกำลังกลับ เขาตกใจเล็กน้อย แต่ก็พอจะรู้ว่ามีซิลกำลังจะทำอะไร

ซอวอนมาพบต๊อกมานเพื่อบอกให้ทราบว่าตอนนี้มีซิลยอมแพ้แล้ว และกำลังรอพบต๊อกมานอยู่ ส่วนพีดัมเมื่อรู้ว่ามีซิลมา จึงรีบมาพบนางก่อน

“แค่นี้เองหรือ....นี่คือผลสุดท้ายที่ออกมา....เพราะอะไร”

“พอที อย่าทำเสียงดังได้ไหม.....เห็นเค้าว่ากินยาแล้วยังพอมีเวลาอีกช่วงหนึ่ง”

“ถ้าอย่างงั้น อยากให้ข้าเรียกท่านว่า “ท่าน แม่” ให้ได้ยินซักคำหรือเปล่า” พีดัม กล่าว

“หึ ๆ”

“หรือไม่ก็ขอโทษที่ทิ้งข้า เสียใจที่เมื่อก่อนคิดผิด....หรือไม่ก็บอกว่า ส่วนลึกในใจ ท่าน....ก็รักข้าเหมือนกัน”

“คนอย่างมีซิล จะไม่มีวันทำอย่างงั้น เจ้าไม่ต้องมาเรียกข้าว่าแม่ ส่วนข้าก็ไม่คิดขอโทษเจ้า ยิ่งความรักด้วยแล้ว....เจ้าคิดว่า อะไรถึงจะเรียกว่ารักแท้ รักแท้ก็คือ....การไม่หวังครอบครองอีกฝ่ายหนึ่ง แบบนี้ถึงเรียกว่ารัก ถ้าเจ้ารักต๊อกมานจริง ก็ต้องทำให้ได้....ความรัก ความชอบธรรม และแคว้นชิลลา ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ไม่สามารถแบ่งกับใครได้ทั้งนั้น ทั้งยูซิน หรือชุนชู ใครก็ห้ามแบ่งให้เขา เข้าใจหรือเปล่า”

“ความรักของข้า ข้ามีวิธีจัดการเองได้”

“ที่ข้าเตือนเพราะความเป็นห่วง ข้าน่ะ ถือคติครองใจคนก่อนจะครองบ้านเมือง แต่ว่าเจ้า....กลับคิดมีอำนาจก่อนแล้วค่อยครองใจคน ถ้าเห็นคนเป็นเป้าหมาย มันจะเสี่ยงไปหน่อย” มีซิล กล่าว

“แต่องค์หญิงต๊อกมาน ไม่แค่เป็นคน ยังสื่อความหมายถึงแคว้นชิลลา ข้าจะส่งเสริมให้นางเป็นอย่างงั้น”

“เจ้ายังอายุน้อย มองโลกในแง่ดี มักจะไขว่คว้าหาความฝันที่สวยงาม” มีซิล กล่าว

ซอวอนมาส่งต๊อกมานที่ห้องของมีซิล แล้วจากไป ปล่อยให้ต๊อกมานเข้าไปพบมีซิลในห้องคนเดียว เมื่อต๊อกมานเข้าไปในห้องแล้ว นางพบแต่ร่างที่หมดลมหายใจของมีซิล โดยมีพีดัมยืนนิ่งน้ำตานองหน้า

“มีซิล ถ้าไม่มีคนอย่างท่าน ข้า....คงไม่มาถึงฐานะอย่างทุกวันนี้....มีซิล ยุคสมัยของท่าน จงไปดีเถอะ” ต๊อกมาน อาลัยต่อการจากไปของมีซิล







..............จบตอนที่ 50............



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น