Queen Seon Deok ( 善德女王/ 선덕여왕)
เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 31
Cr. : Dailynews Online
ต๊อกมานย้อนกลับมาที่ลานพิธีอีกครั้งจนได้พบกับโซวา โซวาเรียกชื่อต๊อกมานออกมา จนจุปังนึกสงสัยว่าทำไมโซวาถึงพูดได้ ซึ่ง โกโตก็สันนิษฐานว่า อาจเป็นเพราะโซวาได้เจอ กับองค์หญิงต๊อกมานก็เป็นได้ โซวาแปลกใจที่ต๊อกมานกลับมาเป็นองค์หญิงได้
“เฮ่อ...หึ...คือ...คนคนนั้น...ช่วยชีวิตแม่ไว้”
“อะ...อะไรนะ ชิซูน่ะหรือ”
“อึม...หลังจากถูกทรายกลบจนมิดท่วมตัว เขาจับเชือกที่ผูกตัวแม่ไว้ได้”
“หึ...งั้นหรือ แปลว่าถึงตอนนั้น เขายังคิดจับท่านอีกหรือ”
“หึ...ไม่รู้สิ อาจเพราะไม่ตั้งใจจับก็ได้”
“แล้วไงอีกคะ เป็นไงต่ออีก”
“ต๊อกมาน”
“ว่าไง”
“แม่น่ะ รู้สึกปลื้มใจเหลือเกิน ดีใจอย่างบอกไม่ถูก เหมือนอยู่ในความฝันก็ไม่ปาน”
“หึ....ท่านแม่”
“เรื่องอื่นไว้คุยวันหลังเถอะนะ หือ... ไม่ต้องรีบหรอก หึ...”
“งั้นก็ได้...แล้วแต่ท่าน”
ต๊อกมานพาโซวามาเข้าเฝ้าพระเจ้าจิน พยอง พระเจ้าจินพยองสงสัยว่า ทำไมโซวาถึงพูดได้อีกครั้ง และสมัยก่อนหนีจากเงื้อมมือ มีซิลได้ยังไง
“เรื่องในอดีตของหม่อมฉัน องค์หญิงไม่ทรงทราบใช่ไหมเพคะ...และที่...หม่อมฉันกลับมาอีกครั้ง...และถูกมีซิลจับไปอีก นางก็ไม่ทราบใช่ไหม”
“ใช่ นางไม่รู้” มเหสีมายา กล่าว
“ถ้าอย่างงั้น อย่าให้ทรงทราบได้ไหม เพคะ”
“ไม่อยากให้นางเป็นห่วงใช่ไหม...เจ้าไม่เพียงถูกเราจับมา ยังถูกใต้เท้าอึยเจจับไปอีก ตอนหลังยังไปอยู่กับมีซิล ถ้าให้ต๊อกมานรู้เข้าคงเป็นเรื่องใหญ่”
“เพราะตอนนี้ นางกลับมาเป็นองค์หญิงเหมือนเดิม ฮือ...หม่อมฉันเป็นเพียงนางในต่ำต้อย ไม่ควรให้องค์หญิงมาทรงเป็นห่วงอีก...สมัยที่เลี้ยงดูองค์หญิง เพื่อไม่ให้หม่อมฉันเป็นห่วง ฮือ...นางจึงปลอมตัว...ท่าทาง ทะโมนราวกับเด็กผู้ชาย ฮือ...แม้ว่าฝ่าบาทจะทรงมอบองค์หญิงให้หม่อมฉันเลี้ยงดู แต่จริง ๆ แล้ว เพราะองค์หญิง...เป็นฝ่ายดูแลหม่อมฉันมากกว่า” โซวา กล่าว
“ไม่ใช่หรอก เพราะเจ้าเลี้ยงนางมาดีถึงเป็นเด็กฉลาดนัก ทั้งเป็นเด็กดี ทั้งใจกล้า เจ้าเลี้ยงให้นางสมเป็นองค์หญิงแท้ ๆ”
“ฮือ...” โซวา ร้องไห้ตื้นตัน
“เฮ่ย...โซวา ข้าอยากจะบอกว่า...ขอบใจ เจ้าเหลือเกิน ต่อให้ตอบแทนเจ้าชั่วชีวิต ยังไม่ พอแก่บุญคุณที่เจ้ามีต่อเรา ขอบใจมากนะ โซวา ฮือ...ขอบใจเจ้าจริง ๆ” พระเจ้าจินพยอง กล่าว
ต๊อกมานอยากให้โซวามานอนด้วยกันเหมือนเมื่อตอนอยู่ด้วยกันที่ทะเลทราย แต่โซวา ไม่ยอม เนื่องจากตอนนี้ฐานะแตกต่างไปแล้ว พร้อมกับถามถึงมุนโน
พีดัมเล่าให้มุนโนฟังว่า ปรากฏการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นฝีมือของต๊อกมาน ทำให้นางได้รับการยอมรับ และแม้แต่ มีซิลก็ยังไม่สงสัยอะไร
“นึกแล้วท่านต้องแปลกใจแน่ หึ ๆ นางเป็นคนฉลาด ทั้งความคิดและอุดมการณ์ไม่เหมือนคนอื่นเลย ที่สำคัญ นางบอกว่าจะครองราชย์ด้วย”
“อะไรนะ นางจะครองราชย์หรือ”
“ใช่ครับ”
“นางเป็นผู้หญิง เมื่อได้เป็นองค์หญิง คงอยากให้สวามีได้เป็นพระราชากระมัง”
“ไม่ใช่นะครับ นางจะครองเอง บอกว่า เป้าหมายคือประมุขแห่งชิลลา” พีดัม กล่าว
ซอวอนบอกกับมีซิลว่า เขาสงสัยในวิชาของพีดัม รู้สึกคุ้น ๆ เหมือนเป็นวิชาของ มุนโน เลยให้ชิซูดูความเคลื่อนไหว เชื่อว่าไม่นานมุนโนคงปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งเป็นแน่
“ถ้างั้น ก็แปลว่ามุนโนไม่ได้ไปไหน, แต่ กลับคอยปกป้องต๊อกมานอยู่ตลอด”
“เรื่องนี้ข้าก็ไม่รู้รายละเอียด” ซอวอน กล่าว
“ปัญหานี้ไม่ใช่เล็กน้อยซะแล้ว ถ้ามุนโน จะกลับมาเป็นองครักษ์เพื่อจะช่วยต๊อกมานอีกแรง ละก็ มันจะต่างกับการสร้างหอดูดาวชนิดฟ้ากับดิน เลยล่ะ”
“ใช่ เพราะหอดูดาวแม้จะเริ่มสร้าง กว่าจะเสร็จก็อีกนาน แต่ว่า ถ้ามุนโนกลับมาคือเรื่องใหญ่ทันที”
“พวกองครักษ์...ถ้ามุนโนจะกลับมาปก ครององครักษ์อีก...” มีซิล กล่าว
“คงต้องเปลี่ยนตำแหน่งผู้นำองครักษ์ใหม่ โฮแจก็ใกล้จะครบวาระแล้ว” ซอวอน กล่าว
“ข้าก็คิดอย่างงั้นเหมือนกัน โพจองเป็นรองหัวหน้ามานาน ตามหลักน่าจะขึ้นเป็นผู้บัญชาการองครักษ์ได้”
“ใช่ อีกอย่าง ข้าอยากให้ชิซู กลับมาดูแล องครักษ์อีกต่อ”
“ชิซูน่ะหรือ”
“ใช่ เพราะข้าต้องคุมทหาร จึงไม่มีเวลาไปจัดการเกี่ยวกับเรื่ององครักษ์”
“ให้ชิซูเป็นครูฝึก จะได้ทำให้องครักษ์เก่งขึ้นและปรองดองมากขึ้น” มีซิล กล่าว
“ใช่ ที่สำคัญ ชิซูเหมือนไม่กินเส้นกับ มุนโนมาแต่ไหนแต่ไรด้วย...อีกอย่างเราทำตามที่ท่านบอก ไม่ให้ชิซูรู้ว่าโซวาเคยอยู่ในกำมือเรามาพักใหญ่”
“ดีมาก งั้นตามชิซูมาพบข้า”
มีซิลให้คนไปเชิญชิซูมาพบ เพราะต้องการให้เขาเป็น “วอนซังฮา” หรือตำแหน่งครูฝึกองครักษ์ เนื่องจากตอนนี้ต๊อกมานได้คืนฐานะเป็น องค์หญิงแล้ว ฝ่าบาทคงไม่มีความจำเป็นต้องฆ่าโซวาเพื่อปิดปากอีก และเขากับโซวาคงไม่มีวาสนา ต่อกันอีกต่อไป แต่ชิซูขอคิดดูก่อน
“อีกอย่าง เจ้าไม่รู้สึกว่ามุนโนยังมีอิทธิพล ต่อองครักษ์รุ่นหลังจนทุกวันนี้บ้างหรือ...เจ้าสู้เขาไม่ได้ตรงไหนบ้าง...ถึงจะไม่รู้ว่ามุนโนจะกลับมาอีก ครั้งหรือเปล่า แต่ด้วยความเคารพที่ทุกคนมีต่อเขา ข้าอยากให้เจ้าได้อย่างงั้นบ้าง” มีซิล กล่าว
“ขอเวลาข้าคิดดู”
ชิซูมาพบโซวาที่ตำหนักของต๊อกมาน ชิซู ถามด้วยความเป็นห่วงว่านางสามารถพูดได้แล้วใช่ หรือไม่ แต่โซวาไม่ตอบพร้อมกับเดินหนีไป
“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่อยากอยู่กับข้า แต่ถึงอย่างงั้น เราไปใช้ชีวิตในป่า อยู่อย่างสันโดษจนตายเถอะนะ ...ข้าก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ถึงได้ช่วยชีวิตเจ้าไว้ และ ให้เจ้าเดินทางมาด้วย” ชิซู กล่าว
ชิซูกลับไปพบมีซิลอีกครั้ง เพื่อตกลงยอมรับตำแหน่ง “วอนซังฮา” หรือตำแหน่งครูฝึกองครักษ์ ซึ่งมีซิลดีใจ และเตรียมที่จะจัดงานต้อนรับให้เขา แต่ชิซูกลับไม่คิดเช่นนั้น เพราะเขา คิดว่าสุดท้ายเขาก็ต้องกลับมาเป็นทาสของมีซิล อีกครั้ง
ชิซูมาดักพบโซวาอีกครั้ง เพื่อย้ำถามว่านางสามารถพูดได้แล้วจริงใช่หรือไม่ ซึ่งโซวาก็ยอมรับว่าใช่ พร้อมกับขอบคุณเขาที่ช่วยชีวิตนางไว้ที่ทะเลทราย แถมยังเป็นคนพานางกลับมายังเมืองหลวงจนได้เจอกับต๊อกมานอีกครั้ง
“ตอนนี้ เรากลับมาทั้งคู่ และต่างก็อยู่ในฐานะเดิมของตัว”
“ใช่ ข้า...เป็นนางใน...ของฝ่าบาทและองค์หญิง”
“ส่วนข้า...ก็เป็นองครักษ์ของท่านมีซิล”
ในงานต้อนรับตำแหน่งใหม่ของชิซูที่กำลัง จะเริ่มขึ้นมีตาแก่คนหนึ่งพยายามที่จะเข้าไปในงาน ให้ได้ แต่ถูกขัดขวางจากเหล่าองครักษ์
ด้านมีซิล เมื่อได้เจอกับต๊อกมาน จึงอดถามนางไม่ได้ว่ารู้จักกับชิซูหรือไม่ ซึ่งต๊อกมานก็บอกว่ารู้จัก แถมถูกชะตาเป็นพิเศษด้วย
“ถ้าสมัยก่อนฝ่าบาทรับสั่งให้รู้เกี่ยวกับเรื่ององค์หญิงแฝด เรื่องไม่ดีก็คงไม่เกิด หม่อมฉันกับชิซู ล้วนทำเพื่อประโยชน์ต่อบ้านเมืองทั้งสิ้น หม่อมฉันจึงอยากให้เขาเป็น “วอนซังฮา” เป็นครู ฝึกให้แก่เหล่าองครักษ์”
“ข้าได้ยินมาแล้ว หวังว่าท่านชิซูจะเปลี่ยน จาก...ความมุ่งมั่นในการตามล่าข้า เป็นความตั้งใจที่ จะสอนองครักษ์ของเราให้เก่งขึ้น...แล้วอีกไม่นาน องครักษ์ทุกคนก็จะเก่งเหมือนท่าน” ต๊อกมาน กล่าว
“หึ...ดูเหมือนข้างนอกจะเตรียมพร้อมแล้ว เชิญเสด็จเถอะ”
ยังไม่ทันที่จะได้เข้าไปในงาน โพจองก็ เข้ามารายงานให้ทราบว่า มีคนเข้ามาก่อกวนภาย ในงาน ซึ่งตอนนี้กำลังจัดการอยู่ แล้วทั้งหมด ก็รีบมุ่งหน้าไปที่งาน จนได้รู้ว่า คนที่เข้ามาก่อกวนภายในงานก็คือ “มุนโน”
“ไม่เจอกันหลายปีทีเดียว...นึกว่าจะไม่ได้เห็นท่านอีกแล้ว ท่านมุนโน” มีซิล กล่าว
“ใช่ ไม่เจอกันนานมาก, ท่านมีซิล”
“ว่าแต่ วันนี้นึกยังไง ถึงกลับมาที่นี่อีก”
“ข้าเผอิญผ่านมาทางนี้ ได้ยินว่าจะมีการ แต่งตั้งวอนซังฮาคนใหม่...โดยเฉพาะที่นั่งของข้า ยังว่างอยู่ไม่ใช่หรือ”
“ใช่ แน่นอนอยู่แล้ว เราเผื่อที่นั่งให้ ท่านมาหลายปี ท่านจะกลับเมื่อไหร่ก็ได้”
“พริบตาก็ไม่ได้เจอกันเกือบ 20 ปี” มุนโน กล่าว
“เพราะอะไรกัน...เป็นเพราะอะไรถึงต้อง กลับมาอีก คำถามที่ข้าจะถามท่านก็มีเพียงข้อนี้ แต่ว่า คำตอบที่ท่านต้องตอบข้า ดูเหมือนจะ มีมากกว่า...นึกถึงสมัยก่อน เราเคยร่วมวางแผนและทำงานใหญ่ด้วยกันมานับไม่ถ้วน.....ท่านอารักขาพระเจ้าจินฮึง ในขณะที่ข้าดูแลองครักษ์ ...ตอนปลดพระเจ้าจินจิ เรายังมีความคิดตรงกันอยู่...หรือแม้แต่ตอนหลังให้ท่านแต่งงานกับญาติผู้น้องของข้าจนมีบรรดาศักดิ์เป็นชนชั้นปกครอง”
“ท่านพูดมาก็ถูก ข้าเป็นลูกองค์หญิงเผ่าคาย่า มียศศักดิ์ขึ้นมาก็เพราะท่านมอบให้”
“เมื่อรู้แล้ว ทำไมต้องทำอย่างงั้นอีก... เพราะอะไรถึงพาองค์หญิงแฝดอีกคนหนีไป, อัน เป็นการช่วยฝ่าบาท ที่สำคัญ พอรู้ว่าองค์หญิงแฝด กลับมาวังหลวงไม่ทันไร ท่านก็ตามกลับมาด้วย มันหมายความว่าไง” มีซิล กล่าว
“ภรรยาข้าที่ท่านเป็นแม่สื่อให้ และพ่อของนาง หรือก็คือพ่อตาข้าซึ่งเป็นเสนาบดีใต้เท้า “ชุยบู” นั้น ไม่เพียงเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพ สมัย ก่อนยังเคยชี้แนะให้ข้าหลายอย่าง...จำได้ว่าท่าน ชุยบู เคยพูดกับข้าสมัยที่พระเจ้าจินจิถูกถอด ถอนโดยมีท่านเป็นตัวตั้งตัวตี บอกให้ข้าสวามิ ภักดิ์ต่อท่าน”
“ก็ควรเป็นอย่างงั้น เพราะท่านชุยบูกับข้ามักมีความคิดที่ตรงกันเสมอ” มีซิล กล่าว
“ใช่ ตอนนั้นพระเจ้าจินจิไม่ทรงห่วงใยบ้านเมืองเท่าที่ควร จึงต้องถูกถอดถอน จากนั้น ไม่นาน มเหสีมายาก็กลับมา ทำให้ท่านผิดหวังที่ไม่ได้ตำแหน่งมเหสีแทน”
“แล้วตอนนี้ ท่านจะพูดอะไรกับข้ากันแน่”
“ในวันประสูติขององค์หญิงฝาแฝดบังเอิญพ่อตาข้าก็เสียชีวิตในวันนั้น” มุนโน กล่าว
“แล้วยังไง หมายความว่า ท่านสงสัยว่าข้าฆ่าเขาหรือ”
“ไม่ใช่อย่างงั้น ข้าแค่จะบอกว่าทั้งสองเรื่องล้วนทำให้สับสน เหมือนจู่ ๆ ก็จับต้นชนปลายไม่ถูก สุดท้ายเลยออกจากวังเงียบ ๆ เพื่อ ไปทำใจซักพัก”
“งั้นตอนนี้ทำใจได้แล้ว เลยจะกลับมาอีกครั้ง อย่างงั้นใช่ไหม”
“ไม่ใช่ ที่ข้ากลับมาเพื่อจะช่วยไม่ให้คน อื่นสับสนด้วย”
“ช่วยคนอื่น...ไม่ให้สับสนหรือ” มีซิล ถามด้วยความสงสัย
“ตำแหน่งผู้บัญชาการองครักษ์ ข้าจะ เป็นคนคัดเลือกเอง”
โซวาเล่าให้องคหญิงต๊อกมานฟังว่า ที่นางหนีไปคราวนั้น เพราะไม่อยากจะเจอกับมุนโน อีกอย่าง มุนโนก็เป็นคนบอกนางพาต๊อกมานไป รอที่หางโจวก่อน แล้วเขาจะมารับ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่มา จนนางต้องพาต๊อกมานหนีไปอยู่ที่ทะเลทรายเอง
“เพราะอะไร”
“เพราะไม่อยากให้องค์หญิง...กลับมาอยู่ในชิลลาที่มีมีซิลเป็นผู้ครองอำนาจอีก ที่สำคัญฝ่าบาทรับสั่งว่าให้เลี้ยงองค์หญิง...ให้มีชีวิต รอดก็พอแล้ว...อีกอย่าง ไหน ๆ ก็เลี้ยงมาแล้ว หม่อมฉันเลยเห็นองค์หญิงไม่ต่างกับลูกในไส้... แต่ว่า...เมื่อกี้ มีหนุ่มคนหนึ่งบอกว่าเป็นศิษย์ท่าน มุนโนหรือเพคะ” โซวา กล่าว
“หึ...ใช่”
“แล้ว...ชื่อของเขา...คือพีดัม...ใช่หรือเปล่า”
“ใช่”
“หา...” โซวา ตกใจ
“ทำไมหรือ มีอะไร”
“เอ่อ...หึ...ไม่มีอะไรเพคะ เพียงแต่... เหมือนจะเคยได้ยินมาก่อน”
“แล้ว...คนที่ชื่อพีดัมนั่น เป็นคนยังไงคะ”
“ท่าน...จะรู้ไปทำไม” ต๊อกมานสงสัย
“อ้อ...เปล่าหรอกเพคะ เอ่อ...เพียงแต่มีความรู้สึกว่า...ท่าทีของเขา มีอะไรแปลก ๆ อยู่ เอ่อ...ตอนรู้จักทีแรกเขาไม่รู้ว่าองค์หญิง...เป็นใคร หรือเพคะ”
“หึ...ใช่ ถึงรู้ว่าข้าเป็นองค์หญิง เขาก็ทำตัวเหมือนปกติ”
โซวากังวลใจ เพราะจำได้ว่ามุนโนเคยพูดกับพีดัมตอนเป็นเด็กว่า ต่อไปต๊อกมานจะเป็นเนื้อคู่ของเขา ซึ่งคงเป็นสวรรค์ลิขิต เด็กที่เป็นศัตรูกับมีซิล และลูกชายของนาง มาอยู่กับเขาหมด อีกหน่อยองค์หญิงอาจได้เป็นพระมเหสี ส่วนพีดัมซึ่งเป็นโอรสของพระเจ้าจินจิ ก็จะได้ เป็นราชบุตรเขย และเขาจะให้เด็กสองคนนี้ได้ ทำงานเพื่อบ้านเมือง หรือมันอาจจะเป็น...ชะตา ของพวกเขาสองคนก็ได้
เมื่อซอวอนรู้ว่า มุนโนจะเป็นคนเลือกผู้บัญชาการองครักษ์ด้วยตัวเอง ก็เห็นดีด้วย เพราะเสียงนกเสียงกาจะได้เบาลง ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ก็คงไม่มีใครกล้าคัดค้าน
“ข้าเห็นด้วยกับท่าน ที่จะให้จัดงานคัดเลือก และให้ท่านรับผิดชอบงานนี้เอง”
“ดี ข้าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย”
“ข้อนี้ข้าไม่สงสัยอยู่แล้ว...เดี๋ยวก่อนท่านมุนโน” มีซิล กล่าว
“ครับ ท่านเซจู”
“ไม่มีอะไร เชิญท่านออกไปได้”
“ครับ ข้าขอตัว” มุนโน กล่าว
เมื่อถึงวันประลองฝีมือ มีซิลประกาศให้ทุกคนรู้ว่าตามกฎขององครักษ์ จะมีการคัดเลือกผู้บัญชาการรุ่นที่ 15 และการประลองในคราวนี้ ท่านมุนโนเป็นประธานการตัดสินและดูแลทั้งหมด ส่วนการแข่งขันจะแบ่งเป็น 3 ประเภท ประเภทที่หนึ่งนั้น อีก 3 วันจะจัดที่ห้องประชุม โดยขอให้องครักษ์ทุกคนร่วมเป็นกำลังใจและเป็นสักขีพยาน
ในงานประลองนี้เองที่มุนโนได้เจอกับต๊อกมานเป็นครั้งแรก มุนโนรู้ว่าต๊อกมานต้องการเป็นประมุขแคว้นชิลลา จึงได้ตักเตือนนาง
“ได้ยินว่าองค์หญิงกลับมาก็เพราะหม่อม ฉัน”
“หึ...ใช่ เมื่อก่อนนึกว่าท่าน...เป็นพ่อบังเกิดเกล้าของข้า”
“อย่างงั้นหรอกหรือ”
“ใช่ แม้ตอนนี้จะรู้ว่าไม่ใช่ แต่ความรู้สึก ยังคงมีอยู่ เหมือนได้เจอญาติผู้ใหญ่ที่จากไปนาน ทำให้ข้ารู้สึกอุ่นใจขึ้น” ต๊อกมาน กล่าว
“องค์หญิง...ได้ยินว่าทรงชิงอำนาจจากมีซิล ทำให้ได้รับการยอมรับในวันนี้”
“ใช่”
“ป้ายหินนั่นก็เป็นการทำขึ้น”
“หึ...ใช่”
“แน่นอนว่า หม่อมฉันรู้ว่าองค์หญิงจะมอบอำนาจให้ราษฎร เพราะวันก่อนได้ไปดูการ ก่อสร้างหอดูดาว...ทรงคิดว่าอะไรคือผู้ครองเมือง ...หน้าที่ของผู้ครองแคว้นชิลลาต้องทำอะไรบ้าง ...จริงอยู่ที่องค์หญิงชอนมยองประสบเหตุร้ายทำ ให้หม่อมฉันเสียใจต่อเหตุที่เกิดขึ้น ซ้ำยังโกรธ แค้นมีซิลอีกต่างหาก แต่ว่าความแค้นอาจกลายเป็นพลังให้เราเดินหน้าก็จริง แต่ไม่อาจช่วยให้บรรลุเป้าหมายง่าย ๆ ไม่ใช่ มันอาจกลายเป็นคุณสมบัติที่เลวร้าย สำหรับการเป็นนักปกครองด้วยซ้ำ...เพราะจะทำให้เกิดความอาฆาต” มุนโน กล่าว
“ท่านจะพูดอะไรกับข้ากันแน่”
“หม่อมฉันไม่เห็นด้วยที่องค์หญิงคิดจะ ปกครองแคว้นชิลลา เหตุผลมีอยู่หลายประการ ที่ทูลไปเมื่อกี้ คือเหตุผลข้อที่หนึ่ง...ฉะนั้น หม่อม ฉันจะไม่ให้ความช่วยเหลือแก่องค์หญิง แต่ถ้าจะทรงเดินหน้าต่อไป องค์หญิงก็ต้องพิสูจน์ให้หม่อมฉันดูว่าทรงมีอะไรเหนือกว่ามีซิลบ้าง... ถ้าอยากใช้หม่อมฉันก็ต้องมีผลงานเหมือนกัน” มุนโนพูดให้ต๊อกมานกลับไปคิด
โซวาได้เจอกับมุนโน จึงถามว่าเขาคิดอย่างไรถึงจะให้พีดัมแต่งงานกับต๊อกมาน
“สมัยก่อนทำไมทำอย่างงั้น...ทำไมต้อง หนีข้า ไม่ทำตามที่สั่ง รู้มั้ยว่าเจ้าทำให้ข้าเสียงาน แค่ไหนน่ะ”
“หมายถึงเรื่องคู่ครอง...ขององค์หญิงต๊อกมานหรือคะ...หึ...ไม่ได้เด็ดขาด ท่านก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นลูกใคร...แล้วทำไม ยังจะพยายาม ให้องค์หญิงต๊อกมานอภิเษกกับเขาอีกล่ะคะ แม้ ว่าข้าจะโง่เขลาเบาปัญญา แต่ยังไงก็ไม่เห็นด้วย กับความคิดแบบนี้ หึ...เหมือนที่ฝ่าบาทรับสั่งให้ข้า ออกจากวัง พาองค์หญิงไปเลี้ยงอย่างคนธรรมดา ก็พอแล้วนี่คะ หึ...เป็นตายร้ายดี ข้าก็ไม่ให้องค์หญิงกับพีดัม...ได้แต่งงานกันอย่างแน่นอน ท่าน ยังไม่เลิกล้มความตั้งใจอีกหรือ” โซวา กล่าว โดยไม่รู้ว่าพีดัมแอบฟังอยู่
“เรื่องนี้ สมัยก่อนข้าคิดว่าเป็นชะตาของพวกเขา ส่วนตัวเองก็ต้องทำหน้าที่ให้ดี แต่ เพราะเจ้าเป็นต้นเหตุ ทำให้ข้าไม่ได้เลี้ยงองค์หญิง เอง ส่วนพีดัม...นิสัยเขาก็ไม่เป็นอย่างที่คิด”
พีดัมซึ่งได้ยินเรื่องที่มุนโนและโซวาคุย กัน ก็กลับมาคิดว่าหากเขาได้แต่งงานกับองค์หญิง ต๊อกมาน เขาก็จะได้กลายเป็นพระราชา แต่อดีต ของเขาน่าเจ็บปวดนัก เขาจึงรู้สึกสับสน
มเหสีมายามาหาต๊อกมาน จึงเห็นว่าต๊อกมานนั่งเงียบเหมือนคิดอะไรอยู่ ขนาดนางเดินเข้ามาต๊อกมานยังไม่รู้สึกตัว
“เมื่อไหร่ชุนชู...จะกลับมาซะทีล่ะเพคะ เราส่งคนไปรับ นี่ก็ผ่านไปพักใหญ่แล้ว”
“คงใกล้จะมาถึงแล้ว ทำไมจ๊ะ เจ้าเป็น ห่วงเขาหรือไง”
“หึ...หม่อมฉันก็อยากพบเขา ใจหนึ่งรู้สึกยินดี อีกใจก็รู้สึกกลัวเพคะ”
“เจ้าน่ะหรือกลัว เพราะอะไรน่ะ”
“เพราะว่า หม่อมฉันต้องขอให้เขาอโหสิกรรมบางอย่าง”
“ให้เขาอโหสิอะไรกัน”
“หม่อมฉันเป็นต้นเหตุ ทำให้เขาต้องกำพร้าแม่”
“ต๊อกมาน พูดอะไรน่ะลูก ทำไมคิดอย่างงั้นล่ะจ๊ะ” มเหสีมายาปลอบ
ในการคัดเลือกผู้บัญชาการองครักษ์คนใหม่ในครั้งนี้ มุนโน ได้เป็นประธานในการคัดเลือก โดยมี โพจอง และ คิมยูซิน เป็นตัวเต็ง
“การประลองคราวนี้ ตามที่ตกลงไว้ว่าจะให้ท่านมุนโนเป็นคนวางกติกาและผู้ตัดสิน เป้าหมายก็คือคัดเลือกผู้บัญชาการองครักษ์คนใหม่ จึงขอให้ทุกคนทำตามกฎระเบียบ...ต่อไปขอเชิญท่านมุนโนบอกเล่าถึงกติกาในการแข่งรอบที่หนึ่ง” โฮแจ กล่าว
“ก่อนมาถึงห้องประชุม ทุกคนคงเห็นยามเฝ้าประตูแต่ละด่านใช่ไหม”
“ครับ ข้าได้เห็นแล้ว”
“ก็แสดงว่า ทุกคนน่าจะเห็นหมด ก่อน จะมาถึงห้องประชุม เห็นคนกี่คนที่แต่งชุดองค รักษ์ไม่เรียบร้อย
“จำได้ว่า ทั้งหมดมี 6 คนครับ...ในจำนวนนี้ มี 2 คน ที่คาดผมไม่เหมือนคนอื่น ส่วนอีก 3 คน ใส่เสื้อไม่เหมือนองครักษ์ทั่วไป และมีอีกคนหนึ่ง ถือกระบี่ที่องครักษ์เราไม่เคยใช้น่ะครับ” โพจอง กล่าว
“เป็นคำตอบที่ถูก...และนี่ก็คือ...ข้อสอบข้อที่หนึ่งในการคัดเลือกผู้นำองครักษ์” มุนโน กล่าว