Queen Seon Deok ( 善德女王/ 선덕여왕)
เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 37
Cr. : Dailynews Online
ต๊อกมานแสดงความยินดีกับมีซิล ที่เตรียมจะจัดงานมงคล ซึ่งมีซิลว่าเป็นเพราะคิมยูซินรีบร้อน อีกทั้งนางจะส่งเสริมให้เขาได้เป็นผู้นำองครักษ์อย่างเต็มภาคภูมิ
“แน่นอน เพราะไม่ว่าคุณสมบัติไหน ๆ เขาก็เด่นกว่าใคร”
“ใช่ แต่ว่า หม่อมฉันก็ไม่โง่พอที่จะเชื่อว่าคนอย่างเขาจะมาอ่อนข้อด้วยความจริงใจ”
“ใช่ เพราะฉะนั้น ข้าก็จะพยายามให้มากขึ้น ถ้าท่านไม่กลัวเขาจะถูกแย่งกลับมา” ต๊อกมาน กล่าว
“พยายามหรือ องค์หญิงช่างรับสั่งได้ ตรงนัก”
“ข้ากำลังสู้กับใครอยู่ มีหรือจะไม่รู้จัก ประเมิน”
“หึ....การถวายงานต่อพระราชาคือสิ่งที่หม่อมฉันต้องเรียนรู้ ตั้งแต่เด็กมา จึงหัดที่จะปรนนิบัติผู้ชายทุกอย่าง”
“ใช่ พระเจ้าจินฮึง องค์ชาย “ทงยุน” หรือแม้แต่พระเจ้าจินจิ ท่านก็เคยรับใช้มาหมด ทั้งท่านเซจอง ท่านซอวอน อ้อ....ได้ยินว่ายังมีผู้ชายอีกมากหน้าหลายตา”
“เพราะฉะนั้น วิธีที่จะให้ผู้ชายมาสยบแทบเท้าคงไม่มีใครชำนาญเท่าหม่อมฉันแน่ แต่ว่าองค์หญิงเป็นเชื้อพระวงศ์สูงศักดิ์ต้องคำนึงถึงพระเกียรติ เลยไม่กล้าทำอย่างงั้น อาจต้องใช้ความสามารถอย่าง หนักถึงจะดึงเขากลับไปได้” มีซิล กล่าว
“หึ....ยังไงก็....ขอบคุณสำหรับคำเตือน ดี ๆ ที่ท่านมักจะมีให้เสมอ”
ต๊อกมานขอบคุณคิมยูซินที่ช่วยให้นาง ได้ตาสว่างมากขึ้น เรื่องการปกครองอาณาประชาราษฎร์
“จากการที่มีซิลใช้ชีวิตชาวคาย่าเป็นเครื่องต่อรอง ทำให้ท่านนอกจากอ่อนข้อแล้ว แทบ ไม่มีทางอื่นที่จะปกป้องพวกเขาให้ปลอดภัยได้ หึ....เป็นการค้นพบที่น่าทึ่งจริง ๆ หึ....จริงหรือ นอกจากวิธีนี้แล้ว เราไม่มีทางอื่นอีก” ต๊อกมาน กล่าว
“มีหรือไม่ หม่อมฉันอาจจะไม่รู้ แต่ว่าจากเหตุการณ์นี้ทำให้มั่นใจเรื่องหนึ่ง คือแผ่นดินที่แตกแยกมาตั้งแต่สมัยโบราณ อีกไม่นานจะได้ ผนึกรวม ตามความฝันที่แคว้นชิลลาวาดหวังมา 200 ปี หม่อมฉันคิมยูซิน....ยอมสวามิภักดิ์ต่ออุดมการณ์ของพระราชาแห่งชิลลาองค์แล้วองค์เล่า เพื่อให้ฝันนั้นกลายเป็นความจริง โดยมีหม่อมฉันก็เป็นหนึ่งในกลไกขับเคลื่อน แค่นี้ก็รู้สึกภูมิใจแล้ว หม่อมฉัน....ต้องการที่จะเหนือกว่าท่านชุยบูในอดีต รวมถึงท่านยีซอ หรือแม้แต่ท่านซอวอนในปัจจุบัน เป็นนักรบและนักวางแผนชั้นเลิศ....และหวังว่าองค์หญิง จะเหนือกว่าพระเจ้าจินฮึง เหนือกว่ามีซิล เป็นนักปก ครองผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์แห่งชิลลา....แค่นี้ถึงจะให้องค์หญิงและหม่อมฉันได้อยู่ใกล้ชิดและไม่มีวัน พรากจากกัน องค์หญิง....ความเชื่อมั่นระหว่างนายกับบ่าว เทียบกับความรักระหว่างชายหญิง ยิ่งเปราะบาง กว่าหลายเท่านัก....เส้นทางที่เราจะเดินเป็นทางวิบาก ....และความเชื่อมั่นระหว่างเราก็จะถูกทดสอบอยู่เรื่อย” คิมยูซิน กล่าว ทำให้ต๊อกมานเกิดความน้อยใจ
“เรื่องนี้ข้าก็รู้”
ยอจงรับปากที่จะช่วยมุนโนหาสถานที่เงียบ ๆ เขียนหนังสือแผนที่จนเสร็จ และยังบอกด้วยว่า อีกสักพักจะมีข้อมูลเกี่ยวกับการค้าที่แพ่ก เจมาให้อีก ส่วนตอนนี้เขาจะพาไปพบคนหาข่าวก่อน
ซอวอนและมีเซ็งอดเป็นห่วงไม่ได้ว่า โพยางจะเป็นหญิงสาวที่คุณชายชุนชูพอใจได้
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า แหะมา ๆ ให้ข้าดูหน่อยซิ อึ้ม...เดี๋ยวก่อน เจ้าคิดว่าสีจัดจ้านแบบนั้นเหมาะกับผิวของโพยางแล้วหรือ จุ๊ ๆๆ แย่จริง ใช้สีชมพูอ่อนหน่อย จะได้เข้ากับแก้มที่ดูเรื่อ ๆ ไง เอาแปรงมาซิ ยิ้มให้ข้าดูหน่อย....ไม่ใช่ ๆ อย่ายิ้มจนเห็นฟันอย่างงั้น ต้องยิ้มน้อย ๆ เหมือนผู้หญิงที่เอียงอาย เคยเห็นรอยยิ้มของท่านมีซิลหรือเปล่า” มีเซ็ง กล่าว
“ขอโทษด้วยค่ะ”
“มีใครบอกหรือยังว่าเจ้ามีหน้าที่สำคัญแค่ไหน หือ....”
“ข้อนี้ไม่ต้องห่วง ข้าได้บอกให้นางเข้าใจแล้ว” ซอวอน กล่าว
“เพราะมีหน้าที่สำคัญ แม้แต่รอยยิ้มหรือคำพูดคำเดียว ก็อย่าทำรุ่มร่ามเป็นอันขาด เข้าใจหรือเปล่า....อึม....”
“แต่ว่า ได้ยินว่าคุณชายชุนชูเป็นคนช่างเลือกช่างติ ปกติไม่ว่าจะดื่มเหล้า หรือกินอาหารก็จะเลือกสรรไปหมด”
“ใช่ครับ เป็นคนที่เอาใจลำบากที่สุด เฮ่ย....”
โพยางบรรเลงให้คุณชายชุนชูได้ฟัง ส่วน โพจองอยากรู้ทรรศนะเกี่ยวกับความเป็นอยู่ในเมือง สุยจากเขา
“ได้ ที่จริงก็ไม่ใช่ทรรศนะอะไรหรอก”
“อย่าพูดอย่างงั้น ถือว่าที่นี่เป็นบ้านตัวเอง จะมาเมื่อไหร่ก็ได้”
“แน่นอน จะได้เล่าให้โพยางได้เปิดหูเปิดตา เกี่ยวกับโลกภายนอกซะบ้างดีมั้ย หือ....”
“หึ ๆๆ”
“ได้ครับ ด้วยความยินดี”
“ดี ๆ เฮ่อ ๆๆ แหม....เห็นมั้ยว่าน่ารักแค่ไหน อ่อนหวานแช่มช้อยไปหมด เฮ่อ ๆๆ”
พีดัมเข้ามาขอโทษมุนโน หลังทำลายความ หวังของเขา พร้อมสัญญาว่าต่อไปจะพยายามทำตัวให้ดีขึ้นกว่านี้ และขอให้มุนโนมอบหนังสือแผนที่ให้เขาได้หรือไม่ แต่มุนโนปฏิเสธ และว่าทางที่ดีพวกเราควรจะไปจากที่นี่ พร้อมลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด แล้วพีดัมก็นึกย้อนไปในวัยเด็กที่เขาเคยถามมุนโนว่า หากโตขึ้นและทำงานใหญ่สำเร็จจะได้ครองเมืองหรือไม่ ซึ่งมุนโนตอบเพียงว่า อาจจะต้องทำให้มากกว่าพระราชา ยิ่งใหญ่กว่าพระราชาทุกองค์ที่เคยมี เพราะงานที่จะทำเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของสามแคว้นและขึ้นเป็นใหญ่แทน
“เพราะคำพูดที่อาจารย์เคยบอกให้รู้ ทำให้ข้าตั้งความหวังมาตั้งแต่ยังเด็กนัก ท่านเคยรู้บ้างมั้ย เพราะคำพูดของท่านประโยคเดียวเท่านั้น ทำให้ข้ากล้าที่จะฆ่าคน...รวดเดียวถึงสิบกว่าคน เพื่อจะปกป้องหนังสือนั่นไว้ ท่านเคยบอกว่าหนังสือเป็นของข้าและท่านก็ทำเพื่อข้า...ข้าจึงหวังว่าจะให้ท่านชื่นชมบ้าง แต่แล้ว ทำไมกลายเป็นยูซินไปได้ ทำไมไม่ใช่ข้าที่อยู่กับท่านมานาน เพราะอะไร กลายเป็นคนที่เพิ่งรู้จัก เพิ่งเคยพบไม่กี่ครั้ง” พีดัม กล่าว
“เพราะความคิดของเจ้าจริงจังเกินไป... อะไรที่ข้าบอกว่าสำคัญมาก เจ้าก็ตั้งอกตั้งใจเพื่อจะได้รับคำชม ถึงขนาดฆ่าคนมากมาย นั่นคือความมุ่งมั่นของเจ้า...เพราะเจ้าเป็นคนแบบนี้ เหมือนอย่างมีซิล ข้าจึงอยากบอกให้รู้ หนังสือเล่มนั้นไม่ได้เป็นของเจ้าซักนิด” มุนโน กล่าว พร้อมสั่งให้ลูกน้องดูเอาไว้ ต่อไปอย่าให้ใครได้มาที่นี่อีก
โกโตแสดงความไม่พอใจกับการตัดสินใจของคิมยูซิน เพราะเหมือนกับเป็นการทอดทิ้งองค์หญิงต๊อกมาน
“ไม่ใช่อย่างงั้น เจ้าคิดผิดแล้ว สิ่งที่ท่านยูซินทำ คือใช้ปัญญาแก้ปัญหาความวุ่นวายไม่ให้เกิดการเข่นฆ่า ยอมสละความรักแต่เลือกบ้านเมืองแทน ถึงสมเป็นลูกผู้ชายที่แท้จริง ช่างเถอะ ๆ เอาเป็นว่า อีกหน่อยท่านยูซินจะเป็นคนที่ทำงานใหญ่เป็น” จุปัง กล่าว
“ถึงงั้นก็เถอะ ข้าไม่เห็นชอบเลย”
“เจ้าจะรู้อะไร จริงสิ พ่อค้าซีเยี่ยมาถึงแล้ว ใช่ไหม”
“อึม...”
“ข้าไปล่ะ หลีกไป ๆ”
“อ้าว....จะไปไหนน่ะ หา....”
แวยาเห็นว่าการที่คิมยูซินตัดสินใจที่จะร่วมมือกับมีซิลเป็นการกระทำที่ถูกต้อง เพราะไม่ว่ายังไง เขาก็จะต้องปกป้องชาวบ้านไว้ก่อน
“ถึงอย่างงั้นก็เถอะ เท่ากับว่าต่อไปเขาจะห่างเหินกับองค์หญิงต๊อกมาน และองค์หญิงก็ต้องเสียพระทัยกับการกระทำของเขาด้วย” ซอแจ กล่าว
“ยังไงก็ตามแต่ เท่ากับท่านเป็นหนี้บุญคุณเขาแล้วรู้มั้ย”
“ข้อนี้ข้ารู้”
ต๊อกมานเป็นห่วงชุนชู เพราะได้ยินมาว่าเขาไม่ค่อยได้อยู่ในวัง อีกทั้งยังไม่ชอบที่จะอ่านหนังสือด้วย จึงขอมายาไปดูชุนชูที่เมืองสุย ว่าตอนนี้เขาทำอะไรอยู่
ต๊อกมานเสด็จมาหาชุนชูที่เมืองสุย เมื่อได้คุยกับชุนชู ต๊อกมานจึงสั่งสอนเขา
“เจ้าเคยบอกข้าว่า อย่าคิดอาศัยบารมีแม่เจ้าเป็นอันขาด เพราะคนที่จะแทนที่นางได้ ไม่ใช่ข้าแต่เป็นเจ้า เมื่อมีความคิดแบบนี้แล้ว ทำไมยังทำตัวเหลวไหลไม่ได้เรื่องอีก เสียทีที่แม่เจ้า....” ต๊อกมาน กล่าว
“องค์หญิง....วัน ๆ ทรงว่างมากหรือไง....เรื่องของหม่อมฉัน หม่อมฉันจัดการเองได้ ไม่ต้องมาสอนแทนแม่หม่อมฉันหรอก”
จุปังและโกโตซื้อหมวกที่พ่อค้าชาวซีเยี่ยนิยมใส่มามอบให้ต๊อกมาน แต่เพราะต๊อกมานกำลังคุยอยู่กับคุณชายชุนชูอยู่ จึงฝากหมวกไว้ที่โซวา เพราะเวลาที่เสียใจ หากได้นึกถึงอดีต มันจะช่วยได้มาก พร้อมกับเอาตุ๊กตาแกะสลักฝากไว้ให้ด้วย
หลังจากที่ต๊อกมานคุยกับคุณชายชุนชูเสร็จ โซวาก็นำของที่จุปังและโกโตฝากไว้มามอบให้
“หึ....ต๊อกมาน ได้ยินว่าเจ้าได้เป็นองค์หญิงแล้วหรือ”
“หึ ๆ ๆ”
“เมื่อก่อนที่อายุยังน้อย บอกว่าโตขึ้นจะเป็นวีรบุรุษ แต่กลับกลายเป็นองค์หญิงแทน”
“หึ....ใช่ หึ ๆ ๆ”
“น่าสงสารเจ้าจริง ๆ วีรบุรุษมักจะว้าเหว่ เสมอ....องค์หญิง....”
“ฮือ....ได้โปรด....เรียกข้าว่าต๊อกมานเถอะ ช่วยเรียกหน่อย เรียกข้าว่าต๊อกมานได้ไหม”
“หึ....ต๊อกมาน”
“ท่านแม่ ฮือ....ข้าเสียใจมากเลย ฮือ.... ฮือ....พรุ่งนี้แล้วใช่ไหม ฮือ....” ต๊อกมาน กล่าว พร้อมทั้งร้องไห้ออกมา
พีดัมรู้ว่ามุนโนเขียนหนังสือแผนที่เสร็จแล้ว และเตรียมที่จะนำไปมอบให้ยูซิน เขาจึงรีบขวางไว้ และขอให้ส่งหนังสือเล่มนั้นให้
“หนังสือชุดนี้ต้องเป็นของข้าคนเดียว.... แผ่นดินนี้นอกจากข้าแล้ว ใครก็ไม่คู่ควรจะได้อ่านมัน” พีดัม กล่าว
“เจ้านี่มันบ้าแล้วจริง ๆ คนอย่างเจ้า ไม่มีสิทธิได้ครอบครองหนังสือชุดนี้”
“สิทธิหรือ? ใครมีสิทธิกันแน่ ขึ้นอยู่กับท่านเป็นคนตัดสินใจเท่านั้น”
“หึ....”
“อาจารย์เลี้ยงข้ามา ก็ควรจะสอนข้าบ้าง”
“เรื่องการฆ่าคนหรือไม่ควรฆ่า ยังต้องให้สอนกันอีกหรือ....หลีกไปเดี๋ยวนี้”
“ข้าไม่หลีกซะอย่าง”
“บอกให้หลีก”
“ข้าไม่หลีก”
“ความโอหังของเจ้า เหมือนกระบี่ที่ไม่มีด้ามจับ ถ้าใครคิดจะจับเจ้าไว้ ความคมของกระบี่จะทำให้บาดถูกมือ ข้าเคยคิดว่าตัวเองจะสามารถกลายเป็นด้ามจับ เพื่อควบคุมทิศทางของกระบี่นั้น แต่เมื่อถึงวันนี้ยังไม่อาจทำได้ ข้าคงได้แต่...จำต้องหักกระบี่ทิ้งไปด้วยตัวเอง...เจ้าคิดว่า อยากให้ข้าทำอย่างงั้นมั้ย” มุนโน กล่าว
“เฮ่อ....ถ้าหาก....นี่เป็นความประสงค์ของท่านจริง....ก็เชิญมาหักได้เลย ดูซิท่านจะหักกระบี่ข้าได้ไหม คำสอนของอาจารย์ ชาตินี้....ข้าจะไม่มีวันลืมเลย ย้าก..” แต่ยังไม่ทันที่จะต่อสู้ มุนโนก็ถูกยาพิษจนสลบไป
“อาจารย์....ๆ....ๆ...”
พีดัมรีบแบกมุนโนไปรักษา แต่ระหว่างทางมุนโนถามเค้าว่า ทำไมถึงไม่รีบกลับไปเอาหนังสือ แทนที่จะมาแบกเขาเพื่อไปรักษา เพราะมุนโนรู้ตัวว่าไม่รอดแน่
“ข้าไม่คู่ควรจะเป็น....อาจารย์เจ้านานแล้ว เฮ่อ....”
“ฮือ....ไม่....อาจารย์ครับ”
“หึ....เหมือนที่เจ้าพูด ไม่แน่ว่าข้าอาจกลัวเจ้าก็เป็นได้ ฮือ....ข้าไม่เคยที่จะเข้าใจเจ้า โอ๊ะ....ไม่เคยที่จะอบรมให้ถูกทาง โอ๊ะ....หึ....มีแต่...พยายามจะข่มเจ้าเอาไว้ โอ๊ะ...หึ...โอ๊ะ... ข้า...ข้า...ฮือ...ฮือ...ขอโทษด้วยนะ”
“ฮือ ๆ ๆ”
“ไม่นึกว่าถึงตอนนี้ ข้าเพิ่งเห็นน้ำใจที่แท้จริงของเจ้า แต่....มันก็สายไปแล้ว....แต่ว่า....ข้าต้องขอบใจเจ้า....โอ๊ะ....หึ....โอ๊ะกลับไปซอนาบูซะ ไปเป็นองครักษ์”
“ฮือ....อาจารย์”
“ไปอยู่กับยูซิน และช่วยองค์หญิงต๊อกมานทำงาน ไม่ว่าใครพูดอะไร เจ้า....ก็คือลูกศิษย์ข้า โอ๊ะ....โอย....” มุนโน กล่าวก่อนที่จะหมดลมหายใจ
“ฮือ....อาจารย์....”
ยูซินฝึกกระบี่ให้คุณชายชุนชู แต่ฝึกได้ไม่นานชุนชูก็ขอพัก อ้างว่าเหนื่อยแล้ว
“ท่านเพิ่งจะฝึกไม่นานเอง....ขี่ม้าก็ไม่เป็น ฝึกกระบี่ยังจับไม่ถูกท่า แล้วต่อไปจะปกป้องตัวเองได้ยังไง”
“คนที่ชอบนึกว่าตัวเองปีนต้นไม้เก่ง ส่วนใหญ่มักจะตกต้นไม้ตาย บางคนบอกว่าชำนาญกระบี่ ก็จะตายเพราะกระบี่ซะเอง”
“ถ้าได้ตายด้วยกระบี่จริง ก็เป็นเกียรติขององครักษ์” ยูซิน กล่าว
“เฮอะ....เกียรติขององครักษ์หรือ องครักษ์ ต้องไปออกรบ ถึงจำเป็นต้องฝึกกระบี่ให้เก่ง.... ข้าไม่เห็นต้องออกศึกเลย แล้วทำไม...ต้องฝึกการใช้กระบี่ด้วย”
“ถ้าศัตรูอยู่ข้างนอกบุกมา ท่านจะรับมือยังไง นั่งเฉย ๆ รอมันมา แล้วบอกว่าข้าสู้ไม่เป็น ขอให้มันไว้ชีวิตงั้นหรือ แบบนี้จะถือเป็นลูกผู้ชายได้ยังไง....ถือกระบี่แล้วไปฝึกอีกครั้ง”
“หึ...ได้ยินว่า ก่อนแม่ข้าจะเสีย ท่านเป็นคนที่อยู่กับนาง...หึ...เห็นบอกว่า ตอนนั้นท่านกับแม่ข้ากำลังจะพูดเรื่องแต่งงานด้วยซ้ำ... หึ...สุดท้าย งานของท่านกับแม่ข้ากลับล้มเหลว แล้วท่านก็หวังเป็นสวามีขององค์หญิงต๊อกมาน พอเรื่องนี้ไม่สำเร็จ ท่านก็เบนเข็ม ไปเกี่ยวดองกับครอบครัวท่านมีซิล เป็นเขยในตระกูลนั้นแทน...นี่คือสิ่งที่ลูกผู้ชายควรทำหรือเปล่า ข้าอยากรู้นัก....หึ....มันก็จริงนะ ด้วยฐานะอย่างท่าน ถ้าไม่อาศัยการแต่งงานจะมาถึงขั้นนี้ได้หรือ” ชุนชู กล่าว
“ท่านจะพูดอะไรกับข้ากันแน่”
“ดูผิวเผินเหมือนเป็นคนซื่อ แต่จริง ๆ มากเล่ห์เพทุบาย....ตอนอยู่ในงานประลองยุทธ ข้าดูท่านไม่เห็นจะเก่งอะไร....อ๋อ....สงสัยท่าทางเงียบ ๆ หงิม ๆ แบบนี้ ก็คืออาวุธของท่านใช่ไหม นั่นสินะ ท่านใช้ความซื่อเป็นฉากบังหน้า ทำให้หลายคนหลงเชื่อสนิท และนี่ก็คือ....วิธีที่จะเอาตัวรอดใน ชิลลา ตามแบบฉบับของท่านล่ะสิ” ชุนชูกล่าว พร้อมตำหนิคิมยูซิน ที่นึกขำออกมา
“มีคน ๆ หนึ่ง เมื่อก่อนก็เคยพูดแบบนี้เหมือนกัน ข้าจำได้” คิมยูซิน กล่าว พร้อมนึกถึงองค์หญิงชอนมยอง
ยูซินแจ้งให้เหล่าองครักษ์ทราบว่า ในงานไหว้พระจันทร์ปีนี้ จะมีการคัดเลือกองครักษ์ใหม่ที่มาจากต่างเมืองให้มาสังกัดเมืองหลวง พร้อมกับรับองครักษ์เพิ่มเป็นสองเท่า
“หึ....ถ้ารับเป็นสองเท่า พวกเขาก็จะมีจำนวนมากกว่าองครักษ์เมืองหลวง ถึงตอนนั้น ฐานะของเรามิต้อง....” ซกพุง ค้าน
“ขณะเดียวกัน องครักษ์ในเมืองหลวง จะได้รับการเลื่อนขั้นตามสัดส่วน โดยทำการคัดเลือกจากคนที่มีผลงาน”
“ถ้าทำได้อย่างงั้นจริง มันก็ดีหรอก แต่ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าอาหาร และยังมีอาวุธอีก....”
“ส่วนนี้ราชสำนักจะรับผิดชอบเอง เพราะฉะนั้น เพื่อให้ได้องครักษ์ใหม่ ที่มีคุณ สมบัติเพียบพร้อมกว่าที่แล้วมา ขอให้ท่านชิซูดูแลให้ด้วย”
“พ่ะย่ะค่ะองค์หญิง หม่อมฉันจะทำตามที่สั่ง แต่ว่าได้ยินว่าท่านมุนโน ออกจากเมืองหลวงไปแล้ว”
“หึ....งั้นก็รบกวนท่าน ทำงานแทนเขาไปชั่วคราว ซึ่งอาจจะต้อง....เพิ่มภาระให้ท่านมากขึ้น”
“พ่ะย่ะค่ะ”
พีดัมเข้ามาถวายความเคารพต๊อกมาน ท่ามกลางความประหลาดใจของเหล่าองครักษ์
“องครักษ์พีดัม....ถวายบังคมองค์หญิง”
“หึ....นี่มันอะไรกันนี่ หลายวันที่ผ่าน เจ้าไปอยู่ไหนมา”
“ท่านมุนโนล่ะ มากับเจ้าด้วยหรือเปล่า”
“ตอนนี้อาจารย์ข้า ไปอยู่บนเขา “แท แผ่กซาน””
“ไปอยู่บนเขาหรือ”
“อาจารย์บอกให้ข้ามาที่นี่ ทำงานแทนเขาในฐานะลูกศิษย์เต็มตัว....ที่สำคัญ อาจารย์ให้ข้ากลับมาเมืองหลวง สานต่อเจตนารมณ์ในฐานะองครักษ์ต่อไป” พีดัม กล่าว
“ถ้าเขามา แล้วยิมจงจะไปอยู่ตรงไหน”
“นั่นสิ”
“แต่เจ้ามาคนเดียวไม่มีลูกน้องซักคน จะมาเทียบกับพวกเราได้ไง” โพจอง กล่าว
“ข้าจะรับสมัครลูกน้องตั้งแต่วันนี้”
“ใช่ลายมือท่านมุนโนหรือเปล่า” ซกพุง กล่าว
“โปรดอย่าลบหลู่....ความคิดของอาจารย์ข้า”
ชิซูรีบมารายงานให้มีซิลทราบว่า ตอนนี้ พีดัมกลับมาแล้ว อีกทั้งยังมาพร้อมกับจดหมายของมุนโน ที่ให้การรับรองว่าเขามีสิทธิเป็นองครักษ์เต็มตัว
“แล้วตอนนี้มุนโนไปอยู่ไหน”
“ได้ยินว่าขึ้นเขาแทแผ่กซาน”
“แทแผ่กซานหรือ? มุนโนไม่มา มาแต่พีดัมคนเดียว” มีซิล คิดแปลกใจ
พีดัมเข้ามาหายอจง เพื่อถามว่าเขาเป็นคนลงมือฆ่ามุนโนหรือไม่ เพราะคนที่รู้เรื่องในวัดนั้น และรู้เกี่ยวกับเรื่องหนังสือมีแต่เขาสองคนเท่านั้น
“หึ....เฮ่อ ๆๆ เจ้าคิดดีแล้วหรือที่มาฆ่าคนในบ้านพ่อค้าอย่างข้าแล้วจะได้อะไร เฮ่อ ๆๆ ต้องการหนังสือคืนหรือจะแก้แค้น ให้อาจารย์ล่ะ” ยอจง กล่าว
“ต้องการทั้งสองอย่าง”
“เฮ่อ ๆๆ ถ้าเจ้าฆ่าข้าละก้อ....”
“ถ้าฆ่าท่านก็จะไม่ได้หนังสือคืน ไม่ได้คืนก็ไม่เห็นจะเป็นไร ข้าไม่เห็นสนใจซักนิด”
“เอ่อ....”
“ถ้าไงข้าจะฆ่าท่านปิดปากก่อน เฮ่อ ๆๆ” พีดัม กล่าว
“แสดงว่า เจ้ามาแก้แค้นล่ะสิ หือ.... เฮ่อ ๆ ๆ แต่ว่า เดิมทีเจ้าก็คิดจะฆ่าท่านมุนโนอยู่แล้ว จริงหรือเปล่า หึ ๆๆ เฮ่อ ๆๆ ถ้าไง เราไปหาหนังสือก่อน แล้วค่อยเจรจาอีกทีดีมั้ย โอ๊ะ...โอย...เบา ๆ ก็ได้ ทำไมต้องผลักด้วย เอ่อ... หึ ๆ เอาเถอะ ๆ รู้แล้ว ๆ ข้ากลัวเจ้า เฮ่อ ๆๆ แหะ ๆๆ”
“อย่าลูกเล่นให้มากนักนะ” พีดัม กล่าว
“นี่....เจ้าโหดขนาดนี้ ใครจะกล้าเล่น ตุกติก หือ....เฮ่อ ๆๆ เฮ่อ ๆๆ ตามมาเร็วเข้า ที่นี่แหละ เฮ่อ ๆๆ (ซ....) เฮ่อ ๆๆ บอกแล้วว่าไม่มีอะไรก็ไม่เชื่อ เจ้านี่ใจเสาะซะจริง”
“ฮึ่ม....เดี๋ยว”
“นั่นอะไร เฮ้ย...อยากรู้ว่าคืออะไรน่ะ หือ...”
“แผนที่สามแคว้น”
“โอ๊ะ....โอ๊ย....โอย....”
ลูกน้องของยอจงเข้ามารายงานว่า มีคนมาขอพบ แต่ยอจงสั่งให้ไล่ไปให้พ้น ซึ่งลูกน้องได้ส่งของให้ยอจงหนึ่งอย่าง บอกว่าชายคนนั้นฝากมาให้ เมื่อเห็นของ ยอจงจึงเปลี่ยนใจ อยากที่จะพบคน ๆ นั้นแล้ว