วันพุธที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 53



Queen Seon Deok ( 善德女王/ 선덕여왕)
เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 53
Cr. : Dailynews Online


แวยาวางแผนหนีจากการจับกุม โดยมีพวกเผ่าคาย่าในวังคอยให้การช่วยเหลือ ถึงแม้ว่าการหนีจะเหมือนเป็นการยอมรับว่ากลุ่มโพยามีอยู่จริงก็ตาม พีดัมสอบสวนแวยา ก่อนที่จะไปเข้าเฝ้าต๊อกมานเพื่อรายงานการสอบสวนให้ทราบ

“เรื่องนั้น ไปถึงไหนแล้ว”

“สืบชัดว่ายังมีเครือข่ายของกลุ่มโพยา ผู้นำก็คือแวยา เป็นที่แน่ชัดแล้ว...ตอนนี้เรากำลังเร่งสืบว่าพวกเขามีแหล่งกบดานอยู่ที่ไหนบ้าง ฝ่าบาท หม่อมฉันพีดัมขอบังอาจทูลซักนิด ในเมื่อความผิดของแวยาชัดเจน และด้วยความ สัมพันธ์กับท่านยูซิน จึงควรรับการไต่สวนด้วย เรื่องสอบปากคำแม่ทัพใหญ่ ขอฝ่าบาททรง อนุญาตด้วย” ต๊อกมานอึดอัดกับคำขอครั้งนี้

แวยาและซอแจหนีการจับกุมออกมาจากหน่วยตรวจการณ์ได้ ยอจงรีบไปบอกให้พีดัมที่กำลังเข้าเฝ้าต๊อกมานอยู่ได้รับรู้ ต๊อกมานจึงสั่งให้มีการสอบสวนยูซิน เพราะเห็นว่าเขาทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

ยองชุนไม่สบายใจที่รู้ว่าตอนนี้คิมยูซิน ตกเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะไม่คิดว่าคนที่จงรักภักดีอย่างยูซินจะให้การสนับสนุนเผ่าคาย่า

“นี่แปลว่า ท่านยูซินยังผูกพันกับเผ่าคาย่าอยู่หรือนี่”

“เป็นไปไม่ได้แน่ ความภักดีของท่าน ยูซิน ทุกคนต่างก็รู้ไม่ใช่หรือ”

“แต่ยังไงเขาก็เป็นชาวคาย่าแต่กำเนิดอยู่ดี ใครจะรับรองได้ว่าอนาคตจะไม่คิดเป็นอื่นน่ะ”

“ปัญหานั้น อาจไม่ได้อยู่แค่ตรงนี้ก็ได้ ...ไอ้เรื่องภักดีหรือไม่ภักดีอย่าเพิ่งไปคิด ที่แน่ ๆ คือความสมดุลของอำนาจ กำลังจะมีรอยร้าวเกิดขึ้น” จูจิน กล่าว

“พูดแบบนี้หมายความว่าไงครับ รอย ร้าวอะไรกัน”

“ระหว่างท่านยูซินกับท่านพีดัม เปรียบเหมือนพระหัตถ์ซ้ายขวาของฝ่าบาทไม่ใช่หรือ ...แล้วตอนนี้ มือซ้ายกับมือขวากำลังต่อสู้กันเองซะแล้ว”


“หมายความว่าท่านพีดัม ทำเพราะมีจุดประสงค์อื่นงั้นหรือ” ยองชุน ถามด้วยความไม่แน่ใจ

“เฮ่อ ๆ ๆ มันก็ไม่แน่นักหรอก”

คิมยูซินถูกเรียกตัวไปสอบ ด้านพีดัมที่คิดจะกำจัดเผ่าคาย่าจึงยื่นดาบให้ยูซินไปจัดการกับพวกนั้นให้หมด

“อะไรนะ ให้ข้าไปกวาดล้างกลุ่มโพยา ...ด้วยตัวเองหรือ”

“ถ้ายอมรับข้อเสนอนี้ ข้าจะไปทูลขอร้องฝ่าบาททันที”

“พีดัม...”

“เพราะท่านเป็นชาวคาย่า ส่วนแวยาซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทก็เป็นหัวหน้ากลุ่มโพยา...ยิ่งตอนนี้หนีออกจากวังโดยพลการด้วยแล้ว เท่ากับกินปูนร้อนท้องชัด ๆ...ถ้าท่านสามารถกวาดล้างพวกเขาและตัดหัวแวยามาให้เราได้...” พีดัม กล่าว

“คิดว่าไม่มีแวยาแล้ว กลุ่มโพยาจะสลายตัวหรือ อีกไม่นานก็จะมีผู้นำใหม่อีก ที่สำคัญ ความเมตตาที่ฝ่าบาททรงมีต่อเผ่าคาย่า และสิ่งที่ทุ่มเทไปมิกลายเป็นเสียเปล่าหรอกหรือ” ยูซิน กล่าว

“คงไม่ใช่ว่า...ท่านกลัวตัวเองจะสูญเสีย อำนาจหรอกนะ”

“พีดัม...”

“ทั้งฝ่าบาทและข้าล้วนไม่อยากเสียท่านไปเข้าใจมั้ย...ท่านก็น่าจะเสียสละบ้าง...ตัดขาดเผ่าคาย่าและยอมทิ้งอิทธิพลส่วนตัว...จากนั้นก็เริ่มต้นใหม่ซะ” คำพูดของพีดัม ทำให้คิมยูซินลำบากใจ

คุณชายชุนชูบอกต๊อกมานว่าตอนนี้ ทั้งสองฝ่ายมีการคานอำนาจกันอยู่ตามที่ต๊อกมานต้องการ พีดัมก็มีคนของมีซิลคอยหนุนหลัง หากคิมยูซินถูกกดดันมาก ความสมดุลของเขาก็จะหายไปและขุนนางจะพากันกลับไปสนับสนุนพีดัม

“หมายความว่า เราต้องปล่อยให้กลุ่มโพยาลอยนวลงั้นหรือ”
“เกี่ยวกับเรื่องนี้ หม่อมฉันก็คิดไม่ถูก เหมือนกัน”
“นี่แสดงว่าเจ้าไม่ต้องการคลุกคลีกับปัญหา แต่ขอมองในภาพรวมใช่ไหม”
“คนที่ยิ่งมีความรู้มาก การแยกแยะปัญหาจะทำได้ยากขึ้น เพราะจุดยืนและเวลาที่แตกต่างล้วนมีผลต่อการตัดสินใจ แต่ว่าถ้าจะให้ชี้ขาดจริง ๆ มันอาจมีผลทำให้เกิดการแตกหักได้”

“เจ้าจะพูดอะไรกับข้ากันแน่”

“ตอนนี้ท่านยูซิน หรือแม้แต่คนของเขา ฝ่าบาทไม่ควรไปก้าวก่าย” คุณชายชุนชู หาทางออกให้ต๊อกมาน

พีดัมสอบสวนคิมยูซินแล้วรู้ว่าเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับแวยา ยอจงบ่นว่าปล่อยไปแบบนี้ก็จับกลุ่มโพยาไม่ได้ จะทำให้ลำบากขึ้น พีดัมบอกว่าเขาไม่ได้คิดจับกลุ่มโพยา

“แล้วตกลงจะเอายังไงแน่” ยอจง กล่าว

“เพราะอะไรแวยาถึงต้องหลบหนี”

“ก็เขาเป็นหัวหน้ากลุ่มโพยา ไม่หนีก็แปลกแล้ว”

“ถ้าเขาหนีไป คิมยูซินก็จะลำบาก”

“เป็นใครก็ต้องเอาตัวรอดไว้ก่อนล่ะ”

“หมอนี่เสริมให้คิมยูซินปีกกล้าและยังซ่องสุมกำลัง เป้าหมายก็เพื่อชนเผ่าของเขา อีกประเด็นที่น่าคิดก็คือ เขาจะสร้างพระราชาที่มาจากเผ่าคาย่า คิดซิว่าจะเป็นใครได้” พีดัม กล่าว

“นี่แปลว่า...คิมยูซินหรือ”

“แน่นอนว่าคิมยูซินคงปฏิเสธ ข้าเชื่อว่าเป็นอย่างงั้น เรื่องแบบนี้เขาจะไม่มีวันทำแน่นอน...แต่แวยาก็ไม่ยอมรามือ เสนอเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็จะเริ่มห่างเหิน เพราะคิมยูซินไม่เชื่อฟัง ในขณะที่ คนในเผ่าก็เริ่มกดดันแวยามากขึ้น”

“ด้วยเหตุนี้ รู้ทั้งรู้ว่าจะทำให้ท่านยูซิน เป็นแพะรับบาป เขายังเลือกที่จะหนีอีก”

“เพื่ออะไรกันล่ะ เราแค่ตั้งคำถาม คำ ตอบก็จะออกมาเอง” พีดัม รู้ทันความคิดแวยา

ซอแจเป็นห่วงคิมยูซินที่จะตกที่นั่งลำบาก จากการที่เขาหนีออกมา แต่แวยาว่าเขาเจตนาที่จะกดดันคิมยูซิน เพื่อให้เปลี่ยนใจมาเป็นพวกกับตน ถ้ายังไม่ยอม เขาก็จะสร้างสถานการณ์บีบคั้นให้มากขึ้น

แวยาช่วยให้ยูซินหนีการไต่สวนออกจากวัง เพื่อให้คนสงสัยว่าเขากำลังคิดกบฏ แต่ซอแจกลับไม่คิดอย่างนั้น เพราะด้วยนิสัยของ คิมยูซิน ต่อให้ออกมาได้จริง เขาก็ไม่ฟังคำสั่งของเราอยู่ดี ซึ่งพีดัมอ่านเกมของแวยาออก

“ใช่แล้ว แผนต่อไปของแวยา ก็คือช่วยให้ยูซินหลบหนี”

“ถ้าคิมยูซินหนีไปกับกลุ่มโพยาในเวลาที่ล่อแหลมแบบนี้ เขาจะกลายเป็นนักโทษอาญาที่ไม่มีวันล้างมลทินได้”

“และนี่ก็คือ...วิธีที่แวยาจะได้เขาไป เป็นพวก”

“ใช่ ข้าเข้าใจแล้วล่ะ เฮ่อ ๆ ๆ”

“ที่น่าสนุกกว่านั้นก็คือ สิ่งที่แวยาหวังนักหนา ไม่แน่ว่า ข้าก็อยากได้อยู่เหมือนกัน” พีดัม กล่าว

ต๊อกมานตกลงที่จะให้ทหารแก่คิมยูซิน เพื่อหวังให้ไปเอาชีวิตของแวยามา และปราบชนเผ่าคาย่า แต่ยูซินเห็นว่าแม้จะปราบแวยาได้ แต่ก็ต้องมีผู้นำคนใหม่ขึ้นมาแทน มันอาจจะทำให้ต๊อกมานมีศัตรูเพิ่มมากขึ้น ต๊อกมานรู้สึกหนักใจขึ้น มาทันที นางขอให้เขาเลิกติดต่อกับเผ่าคาย่า ซึ่งยูซินก็ขอให้นางเมตตาเผ่าคาย่าเช่นกัน

มีการวางแผนส่งตัวพีดัมออกไปนอกเมือง โดยพีดัมให้ กีซุน พยองกุก และชองอัน ที่คาดว่าจะเป็นหนอนบ่อนไส้ เป็นคนไปส่งตัวยูซิน เพราะต้องการที่จะดัดหลังกลุ่มโพยา ด้าน จุปังเมื่อรู้ว่าจะมีการส่งตัวคิมยูซินออกไปข้างนอก ก็รีบมารายงานให้คุณชายชุนชูทราบ ซึ่งชุนชูเองก็สงสัยว่า การส่งตัวครั้งนี้ เป็นเหมือนการล่อให้กลุ่มโพยามาติดกับ เพราะต้องการที่จะช่วยยูซิน

และทุกอย่างก็เป็นไปตามที่หลายคนคาดการณ์ ซึ่งเรื่องที่กลุ่มโพยาเข้าช่วยเหลือคิมยูซิน ครั้งนี้ ก็รู้ถึงหูต๊อกมานในเวลารวดเร็ว

“ทำไมเกิดเรื่องแบบนี้ได้ เพราะอะไร”

“เอ่อ...คือว่า...ได้ยินว่า ระหว่างทางที่ไป จู่ ๆ ก็มีคนมา...แต่ว่า เห็นบอกว่าคนที่คุ้มกันเขาออกไป บางส่วนเป็นคนของกลุ่มโพยาพ่ะย่ะค่ะ มีสามคนที่เป็นหนอนบ่อนไส้ ฉะนั้นถึงเกิดเรื่องก็ไม่แปลกหรอกพ่ะย่ะค่ะ”

“ยังมีคนของพวกมันอยู่ในวังอีกหรือ ขนาดให้ทำงานแค่นี้ ยังมีไส้ศึกของกลุ่มโพยามายุ่งอีก แล้วทำไมพีดัมถึงได้เลินเล่อนัก”

“พ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉัน...ก็ไม่ทราบ คือ...” ต๊อกมาน ไม่พอใจอย่างหนัก เรียกหาพีดัมทันที

คิมยูซินกลายเป็นกบฏในทันทีตามเจตนาของพีดัมและคนอื่น ๆ มีเซ็งเรียกประชุมด่วนขุนนางในคืนนั้น พีดัมบอกกับทุกคนว่า คิมยูซินเป็นกบฏ โดยให้การสนับสนุนกลุ่มโพยา เช้าวันต่อมา เหล่าขุนนางทั้งหมดจึงรวมตัวกันเข้าเฝ้าต๊อกมาน เพื่อเรียกร้องให้มีการออกคำสั่งว่า คิมยูซินเป็นกบฏ พร้อมกับให้ปลดคิมซอยอนออกจากตำแหน่งเจ้ากรมทหาร และให้จูจิน ได้รับตำแหน่งนี้แทน ซึ่งปัญหานี้สร้างความกดดันให้ต๊อกมานเป็นอย่างมาก

คิมยูซินได้เผชิญหน้ากับแวยา เขาโกรธมาก เมื่อรู้ว่าการที่แวยาทำเช่นนี้ เพราะต้องการหาผู้นำให้กับเผ่าคาย่า แต่คิมยูซินไม่ยอม และว่าเขาอยากให้สลายกลุ่มโพยา แล้วกลับไปมอบตัว ในฐานะชาวชิลลา ซึ่งแวยาเห็นว่าสิ่งที่คิมยูซินพูด เป็นความเพ้อฝันชัด ๆ

พีดัมพยายามกดดันให้ต๊อกมานรับราชโองการที่ระบุให้คิมยูซินเป็นกบฏ แต่ต๊อกมานว่านางไว้ใจคนใกล้ตัวมากเกิน พีดัมรู้ว่าต๊อกมานย้อน แต่ก็ไม่สนใจ และยังพูดเตือนต๊อกมานด้วยว่า อย่าลืมที่เคยรับสั่ง ว่าการเป็นนักปกครองที่ดีต้องเข้มงวดต่อคนสนิทของตัวเอง แต่ให้ความเมตตาต่อราษฎร ฉะนั้น ถ้าทรงลำเอียง ก็อาจเป็นที่ครหาได้

ต๊อกมานเตรียมที่จะปลดคิมยูซินออกจากตำแหน่งแม่ทัพ แต่ถูกเหล่าองครักษ์จำนวนมากทักท้วงไว้ จุปังไม่สบายใจ จึงนำเรื่องนี้มาปรึกษากับคุณชายชุนชู

“มันช่างเป็นเรื่องที่...ฟังไม่ขึ้นเอาซะเลย ท่านก็รู้นิสัยท่านยูซินดีไม่ใช่หรือครับ จะบอกว่าเขาแปรพักตร์ ขายชาติ เป็นศัตรูของชิลลาหรือ เฮ่ย...ข้ากล้าท้าเลยว่าถามใครก็ได้ที่รู้จักท่านยูซิน เรื่องเหลวไหลแบบนี้ใครจะเชื่อว่าเป็นความจริง ไม่มีแน่นอน”

“ตอนนี้ปัญหาอยู่ที่ เขาหนีไปโดยมีกลุ่มโพยามาช่วยเหลือ และระหว่างนั้น ยังมีทหารถูกฆ่าตายด้วย แค่ประเด็นนี้ ก็กลายเป็นผู้ต้องสงสัยได้แล้ว”

“ถึงบอกว่านี่คือการปรักปรำ แถมไม่รู้จะอธิบายยังไงด้วย หลายปีนี้เขาออกรบตั้งเท่าไหร่ เป็นวีรบุรุษของเราก็ไม่ปานนะท่าน เฮ่ย....”

“เป็นแผนเหนือชั้นที่พีดัมวางไว้ เสียดายที่เขาหลงกล”

“งั้นท่านก็ไปทูลฝ่าบาทให้ที หาทางช่วยท่านยูซินหน่อย ได้ไหมครับ” จุปัง กล่าว

“กลุ่มโพยาเป็นพวกกบฏ และท่านยูซิน ก็มีส่วนเกี่ยวข้องจริง ๆ หน่วยงานของพีดัมมีหน้าที่ตรวจสอบ ถ้าจะบอกว่าเขากลั่นแกล้ง เราก็ไม่มีหลักฐาน”

“แย่ชะมัด แต่นี่คือการใส่ร้ายชัด ๆ ท่านก็รู้อยู่ ท่านยูซินของเราไม่เคยยุ่งกับการเมือง เขามีแต่ทำงานเพื่อบ้านเมืองอย่างจริงใจ ไม่ว่าจะออกรบหรือฝึกซ้อมหรือเป็นเพื่อนกับใคร เขามีแต่ความจริงใจให้ตลอด จริงนะครับ”

“จริงใจหรือ”

“ใช่ครับ จริงใจสุด ๆ ไป” ชุนชู สะดุด กับคำพูดของจุปัง

คุณชายชุนชูรีบมาเข้าเฝ้าต๊อกมาน เพื่อจะทูลให้ต๊อกมานตระหนักถึงความมั่นคงของบ้านเมือง และว่าความเห็นของเหล่าขุนนางสมควรแล้ว

“แต่ว่า หลายปีที่ผ่าน ท่านยูซินเป็นแม่ทัพที่มีผลงานต่อชิลลาและทำงานหนักมาตลอด ฉะนั้น ไม่เพียงต่อเหล่าทหารเท่านั้น แม้แต่หน่วยงานของทางการ หรือในสายตาชาวบ้าน เขาก็เป็นที่เคารพอย่างสูง....คนที่มีผลงาน กลับบอกว่าเขาเป็นศัตรูของบ้านเมือง แน่นอนว่ามีผลกระทบ และอาจสร้างความแตกแยกได้อย่างมาก”

“ถ้าเป็นในภาพรวมล่ะ”

“มีขุนนางหลายฝ่ายที่ไม่ชอบเขา เพราะบารมีที่สั่งสมมายาวนาน พวกเขาไม่ได้เห็นด้วยกับพีดัม เพียงแต่คิดว่า กลัวอิทธิพลของท่านยูซิน มากกว่า...แต่ว่า ถ้าท่านยูซินถูกกำจัด ฝ่ายสนับสนุนการทำงานของพีดัม ก็จะหมดไปด้วย”

“ถ้าอย่างงั้น ลองพูดถึงทางแก้หน่อยซิ” ต๊อกมาน กล่าว

“ไม่มีพ่ะย่ะค่ะ”

“เพราะอะไร”

“ถ้าท่านยูซินไม่กลับมา แต่หันไปเข้ากับกลุ่มโพยา เมื่อนั้นก็จะกลายเป็นศัตรูของบ้านเมืองจริง ๆ แต่ถ้ากลับมา จะมีข้อหากบฏรออยู่ ถูกจับกุมทันที เพราะฉะนั้น เขาอาจไม่ยอมกลับมาก็ได้...ทั้งหมดนี้ คือแผนของพีดัม เรียกว่ากลยุทธ์เหล็กเพชร”

“กลยุทธ์เหล็กเพชรหรือ”

“สิ่งที่แข็งที่สุดในโลกก็คือเหล็ก แผนที่ไม่มีช่องโหว่ให้ทำลาย จึงเรียกว่าเหล็กเพชร”

“จริงหรือที่ว่า ไม่มีช่องโหว่ให้แก้ไขได้เลย”

“ในแง่ของท่านยูซินอาจมีทางหนึ่งที่เป็นไปได้ แต่ว่านั่นคงจะยากนัก เพราะยังไง เขาก็เป็นแค่ปุถุชนคนหนึ่ง”

“คืออะไร”

“ความจริงใจพ่ะย่ะค่ะ ขอเพียง....จริงใจเท่านั้น”

“จริงใจหรือ”

“ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง มุ่งสู่เป้าหมายที่ถูกต้อง นั่นคือความตั้งใจจริงของคน ๆ หนึ่ง” คุณชายชุนชู กล่าว

ต๊อกมานประกาศให้คิมยูซินเป็นกบฏต่อบ้านเมือง

“สมัยก่อนพระเจ้าจินจอง ทรงตั้งปณิธานที่จะขยายดินแดน สร้างความยิ่งใหญ่ให้แก่แคว้น ชิลลาของเรา จากนั้นพระเจ้าจินฮึง ก็ทรงสานต่อ โดยยึดเผ่าคาย่าเข้าผนวกกับแคว้นชิลลาเพื่อความมั่นคง หลังจากนั้นสองฝ่ายจึงได้รวมกันเป็นหนึ่งเดียว ในขณะที่ข้า...หลายปีที่ผ่านมา ได้ยกเลิกความเหลื่อมล้ำระหว่างชาวคาย่าและชาวชิลลา โดยปฏิบัติอย่างเท่าเทียม อีกทั้งมอบที่ดินให้ได้เพาะปลูก แต่แล้วเผ่าคาย่า ยังมีกองกำลังที่จะต่อต้านเราอยู่ทุกเมื่อ จึงนับเป็นความผิดใหญ่หลวงเท่ากับคิดก่อกบฏ...ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มโพยา ทั้งแม่ทัพแวยา นายกองซอแจ และแม่ทัพใหญ่คิมยูซิน...ข้าขอประกาศ...ให้เป็นกบฏต่อบ้านเมือง....”

“ฝ่าบาท....ๆ ฝ่าบาท ที่หน้าตำหนักใหญ่ตอนนี้....หน้าตำหนักใหญ่....”

“ได้ข่าวว่าท่านยูซินกลับมาแน่ะครับ ได้ยินหรือเปล่า เขายอมกลับมามอบตัวแล้ว”

คิมยูซินเดินทางกลับมาที่วังหลวง เพื่อขอเข้าเฝ้าและรับโทษ ซึ่งการกลับมาของเขา ทำให้ต๊อกมานหาทางออกให้ตัวเองได้

“ฝ่าบาท หม่อมฉันคิมยูซิน...มาขอรับพระอาญา โปรดทรงพิจารณาความผิดด้วยเถอะ”

“ทุกคนยืนเฉยทำไม ใครก็ได้ ไปจับคิม ยูซินไว้เดี๋ยวนี้”

“พ่ะย่ะค่ะ”

“ขอบคุณมากนะ ท่านยูซิน”






................จบตอนที่ 53...............



'Aim - Aun' : The Music for 'National Mother's Day of Thailand' / อิ่มอุ่น : ศิลปินต้นฉบับ - ศุ บุญเลี้ยง




เนื้อเพลง: อิ่มอุ่น
ศิลปินต้นฉบับ : ศุ บุญเลี้ยง


อุ่นใดๆ โลกนี้มิมีเทียบเทียม
อุ่นอกอ้อมแขนอ้อมกอดแม่ตระกอง
รักเจ้าจึงปลูก รักลูกแม่ย่อมห่วงใย
ไม่อยากจากไปไกล แม้เพียงครึ่งวัน
ให้กายเราใกล้กัน ให้ดวงตาใกล้ตา
ให้ดวงใจเราสองเชื่อมโยงผูกพัน

อิ่มใดๆ โลกนี้มิมีเทียบเทียม
อิ่มอกอิ่มใจ อิ่มรักลูกหลับนอน
น้ำนมจากอก อาหารของความอาทร
แม่พร่ำเตือนพร่ำสอน สอนสั่ง
ให้เจ้าเป็นเด็กดี ให้เจ้ามีพลัง
ให้เจ้าเป็นความหวังของแม่ต่อไป

ใช่เพียงอิ่มท้อง
ที่ลูกร่ำร้องเพราะต้องการไออุ่น
อุ่นไอรัก อุ่นละมุน
ขอน้ำนมอุ่นจากอกให้ลูกดื่มกิน





อิ่มอุ่น : ศิลปินต้นฉบับ - ศุ บุญเลี้ยง Download

อิ่มอุ่น : สุนารี ราชสีมา - Download





'Aim - Aun'
The Music for 'National Mother's Day of Thailand'
Artist : Su Boonleang (Composer & Song Writer)
Original Translation by Roytavan

"No other warmnesses in this world can be compared,
the warmness of dearest mum's cuddle.
You are the seed of love that mum will prudently take care of.
doesn't want to be apart, event half a day.
Let us be together, let our eyes contact
Let our two hearts be binded

No other fullnesses in this world can be compared
To the mum's heart full of love when see you are happily sleeping
Milk from the breasts is food of compassion
Mum keeps teaching to make a good and strong child out of you.
And to make you the hope of her.
It's the cry for mummy's warm milk.

Not only to be fed, the reason cries the baby,
But it is the cry for delicate warmness"

*******************


เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 52



Queen Seon Deok ( 善德女王/ 선덕여왕)
เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 52
Cr. : Dailynews Online


วันรุ่งขึ้นองค์หญิงต๊อกมาน ได้รับการแต่งตั้งเป็นประมุของค์ใหม่แห่งแคว้นชิลลา

“ให้เจ้ากรมปกครองคิมยองชุน เลื่อนตำแหน่งเป็นมหาเสนาบดี ประมุขฝ่ายบริหารแห่งแคว้นชิลลา ผู้นำขุนนางฝ่ายพลเรือน” องค์หญิงต๊อกมาน ตรัส

“เป็นพระกรุณาพ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันคิมยองชุน จะขอทำงานเพื่อบ้านเมือง”

“นอกนั้น ยังมีแม่ทัพคิมซอยอน ให้เลื่อนเป็นเจ้ากรมกลาโหม ผู้นำสูงสุดแห่งขุนนางฝ่ายทหาร ทำหน้าที่ปกป้องบ้านเมืองและราชสำนัก”

“ฝ่าบาท ขอบพระทัยยิ่งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“ทุกท่านจงฟังให้ดี...แม้ว่า บ้านเมืองเราจะเกิดเรื่องน่าเศร้าใจ แต่ก็ถือว่าผ่านพ้นไปแล้ว ให้มันจบไปกับอดีตซะ...ต่อไปขอให้ทุกท่าน จงถือความสามัคคี ช่วยข้าทำนุบำรุง บ้านเมือง เพื่อให้ชิลลาไปสู่ความรุ่งเรือง”

“ฝ่าบาท เราจะทำตามพระบัญชา” เหล่าขุนนาง กล่าวทูล

“ฝ่าบาท ยุคใหม่ของชิลลาได้มาถึงแล้ว อุดมการณ์ของพระเจ้าจินฮึง ในที่สุด... เราจะได้สานต่อเจตนารมณ์ที่ทรงตั้งพระทัยไว้” คิมยูซิน กล่าวทูล

“ใช่ ข้าก็คิดอย่างงั้น” องค์หญิงต๊อกมานตรัส

“แต่ว่า ไม่ทรงเพิ่มงบประมาณทางทหาร เพราะอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ” ไอชอง ถาม

“ข้าจะส่งเสริมการผลิตเครื่องมือเกษตรให้มีคุณภาพ”

“เครื่องมือการเกษตรหรือ”

“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่เข้าใจที่รับสั่ง”

“มาอุนยอง” “วางโชยอง” และเมือง “ทันฮันซอง” พวกท่านรู้มั้ยว่า ทำไมพระเจ้าจิน ฮึงถึงขยายไปยังดินแดนพวกนี้...เพื่อจะผลิตอาวุธงั้นหรือ...ไม่ใช่เลย เพื่อหวังพึ่งคนต่างหาก”

“ใช่ หวังพึ่งคน คนที่หวงแหนดินแดน คนที่รู้ว่าตัวเองมีความหวัง นี่คือประชากรที่ฝ่าบาท ทรงหมายถึง” ชุนชู ทูลถาม

“ใช่ ผลประโยชน์ของบ้านเมือง กับผลประโยชน์ในแง่ส่วนตัว จริง ๆ มันก็เหมือนกัน”

“ถ้าอย่างงั้น คนที่ทรงหมายถึง คือผู้มีที่ทำกินใช่ไหม” พีดัม ทูลถาม

“ใช่ ข้าคิดอย่างงั้น”

“ถ้ามัวแต่เช่าที่ทำนา หรือเป็นบ่าวไพร่ คนพวกนี้จะไม่มีความคิดที่จะรักบ้านเมืองของตัวเอง แน่นอนว่าเราก็ไม่ได้คาดหวังจะให้พวกเขา ถึงขนาดยอมตายเพื่อชิลลาได้”

“ขอแค่รู้จักหวงแหนที่ของตัวเอง สิทธิ ส่วนบุคคล คือจุดเริ่มต้นในการพัฒนาบ้านเมือง เมื่อชิลลามีความแข็งแกร่ง ความเป็นอยู่ของราษฎรก็จะดีขึ้น ถ้าทุกคนไม่มีความคิดแบบนี้ เราจะไปสู่เป้าหมายรวมสามแคว้นเป็นหนึ่งได้ยังไง ซักวันหนึ่ง ข้าจะให้ราษฎรทุกคนได้กินดีอยู่ดีทั่วหน้า ข้าให้สัญญา”

องค์หญิงต๊อกมานคิดที่จะปฏิรูปเผ่าคาย่า คิมยูซินเห็นด้วยเพราะมีแต่องค์หญิงคนเดียวที่สามารถทำได้

“มันเป็นสิ่งที่ข้าต้องทำ ข้าจะยกเลิกกฎที่มีการเอารัดเอาเปรียบ ใครที่มีความ สามารถ ข้าจะให้มาช่วยทำงาน...โดยเฉพาะกลุ่มโพยา ช่วยข้าทำงานหลายอย่าง มีความดีความชอบ เหล่านี้ข้าไม่เคยลืมเลย และยังรู้ว่าพวกเขาตั้งความหวัง...คาดหวังกับข้าไว้สูงนัก...แต่ว่ากลุ่มโพยา ไม่ควรจะมีการรวมตัวอีก เพราะชื่อนี้เป็นสัญลักษณ์ของการแข็งข้อ เป็นกบฏต่อทางการ”

“ใช่ หม่อมฉันก็เคยคุยเรื่องนี้กับแวยา ...อีกไม่นานจะสลายตัว ให้ไพร่พลมาอยู่ในกองทัพ ส่วนคนที่มีความรู้ความสามารถ ก็ให้มารับใช้ทางการจะเป็นประโยชน์มากกว่า ฝ่าบาททรงวางพระทัยได้พ่ะย่ะค่ะ...ฝ่าบาท ทรงกลุ้มพระทัยเรื่องอะไรอีกหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“ท่านยูซิน ข้าดูแล้ว แวยาไม่เหมือนคนอื่น”

“หา...”

“ในบรรดาทุกคนที่ช่วยงานข้า รวมทั้งท่านด้วย มีแต่แวยาคนเดียว ที่หวังผลไม่เหมือนคนอื่น”

“หม่อมฉันจะทำให้เขาเหมือนเอง... เหมือนที่ฝ่าบาทรับสั่งว่าผลประโยชน์ของบ้านเมือง ก็คือผลประโยชน์ส่วนตัวเช่นกัน หม่อมฉัน...จะทำให้แวยา และทุกคนในชนเผ่า มีเป้าหมายและผลประโยชน์ที่ตรงกัน”

“ก็ดี ถ้าไม่คุมไว้แต่แรก ไม่แน่ว่าซักวันเขาอาจคิดเป็นอื่นก็ได้...ถ้าเป็นไปได้ ข้าอยากให้ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน เพราะจนทุกวันนี้ มีข้าและท่านยูซิน รวมทั้งคนอีกส่วนหนึ่งที่เห็นพ้องต้องกัน แต่ข้าจะทำให้เป็นความหวังของทุกคน ทั้งชนเผ่าคาย่าและราษฎรของเรา มีเป้าหมายที่ตรงกันให้จงได้”

คิมยูซิน บอกกับแวยาว่า องค์หญิงต๊อกมานอยากให้ชนเผ่าคาย่าและกลุ่มโพยา เปลี่ยนสถานะเป็นชาวชิลลาโดยสมบูรณ์

“กลุ่มโพยาของเรา อีกหน่อยจะได้เป็นกำลังสำคัญให้ฝ่าบาท” แวยา กล่าว

“ต่อไป เราต้องก้าวข้ามกรอบของชนเผ่า มองไปยังเป้าหมายที่ใหญ่กว่า...ดินแดนที่มีการแบ่งเป็นสามแคว้น ต่อไปจะไม่มีโกคูรยอ แพ่กเจหรือชิลลา หากแต่เป็นอาณาจักรหนึ่งเดียวเท่านั้น”

“อาณาจักรที่ว่านี้ คิดว่าจะมีชื่อของท่านฝากไว้หรือเปล่า” แวยา ถาม

“พูดงี้หมายความว่าไง” คิมยูซินไม่พอใจ

“ตอนนี้องค์หญิงต๊อกมานก็ได้ครองราชย์สมใจแล้ว ท่านจะไม่ลองคิดถึง..อนาคตของตัวเองบ้างหรือไง”

“แวยา ข้าไม่เคยคิดอะไรนอกเหนือจากนี้”

“ข้าก็ไม่ได้บอกให้คิดเลยเถิด เพียงแต่ถ้าท่านแต่งงานกับฝ่าบาท มิยิ่งช่วยนางทำงานได้ดีหรอกหรือ”

“แวยา...”

“นี่คือการรวมตัวที่แท้จริง ระหว่างชิล ลาและเผ่าคาย่าอย่างถูกต้องไม่ใช่หรือ”

“ทั้งข้า...และฝ่าบาท ไม่เคยมีความคิดแบบนี้ เจ้าก็อย่าคิดเหลวไหลด้วย”

องค์หญิงต๊อกมาน ต้องการให้พีดัมเป็นดั่งอาวุธของตนที่ช่วยปราบสิ่งเลวร้ายและไม่เป็นธรรมให้หมดไป ซึ่งพีดัมก็ยินดีที่จะรับใช้ทุกเมื่อ

“แผนงานที่วางไว้ ต้องทำอย่างเป็นขั้นเป็นตอน”

“เพราะฉะนั้น การกักตุนสินค้า ซื้อถูกขายแพง ปรับโครงสร้างการเก็บส่วยไม่ให้ชนชั้นสูงได้ประโยชน์ฝ่ายเดียว จึงต้องวางแผนอย่างรอบคอบ” พีดัม กล่าวทูล

“ที่สำคัญ ข่าวที่เจ้าได้มาไม่ว่าจะเป็นในวังหรือนอกวัง ต้องมารายงานให้ข้ารู้ ทั้งหมดนี้ คือหน้าที่ที่ต้องทำ”

“ได้พ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันจะทำงานด้วยความซื่อสัตย์”

“ข้าเชื่อเจ้า ต่อไปเจ้าจะมีความสำคัญ”

“ถ้าอย่างงั้น แล้วหม่อมฉันล่ะ ใครจะควบคุมการทำงานของหม่อมฉัน”

“เจ้า...จะอยู่ในสายตาข้าตลอดเวลา ข้าจะคุมเจ้าเอง” องค์หญิงต๊อกมาน ตรัส

ชาวบ้านเมือง “อันคัง” ที่เมื่อก่อนได้รับแจกที่ดินแห้งแล้ง ได้นำผลผลิตมาส่งให้ ทางการ

“ตรวจนับเรียบร้อยแล้วใช่ไหม”

“พ่ะย่ะค่ะ รวมกับผลผลิตจากเมืองอันคังทั้งสิ้น 300 หาบพ่ะย่ะค่ะ” โฮแจ กล่าวทูล

“อึม...ท่านดูตรงนี้สิ”

“อึม...ทุกคนเงยหน้าขึ้นมา...คนไหนที่ชื่อพงคี” ยองชุน ถาม

“ข้าน้อยเองครับ”

“ได้ยินว่า เจ้าได้ผลผลิตจากที่แห้งแล้งมากกว่าใครงั้นหรือ” องค์หญิงต๊อกมาน ตรัส

“เอ่อ...เพราะเครื่องมือที่ฝ่าบาททรงประทาน มีส่วนช่วยอย่างมากพ่ะย่ะค่ะ”

“หึ...ถ้างั้น ข้าจะแต่งตั้งเจ้าเป็นหัวหน้าการเกษตร”

“หา...หัวหน้าการเกษตรคือ...”

“วางแผนเรื่องการเพาะปลูก โดยถือเอาเมืองอันคังเป็นแบบอย่าง เน้นการขยายที่ให้กว้างไกล ช่วยชาวบ้านให้รู้จักการพลิกฟื้นที่ดินแห้งแล้ง ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์”

“ฝ่าบาท ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ”

“อีกอย่าง ทุกปีทางการจะตรวจนับผลผลิต และคัดเลือกหัวหน้าการเกษตรให้มากขึ้นอีก เพื่อจะได้ช่วยกันขยายที่นาต่อไป” ยองชุน กล่าว

“ขอบพระทัยฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”

“ขอให้ฝ่าบาททรงพระเจริญ”

ชุนชู เข้ามารายงานองค์หญิงต๊อกมาน ว่าแม่ทัพใหญ่คิมยูซิน สามารถปราบทหารแพ่กเจจนแตกพ่ายกลับไป เมื่อคิมยูซินกลับมาก็ได้รับเสียงชื่นชมของชาวบ้าน แต่ก็สงสัยที่ไม่เห็นซอแจออกมาต้อนรับ ซึ่งซอแจก็ถูกควบคุม ตัวไว้เพราะเขาเป็นพวกกลุ่มโพยา

พีดัม ทำงานในวังหลวงอย่างแข็งขัน ตรวจสอบเรื่องต่าง ๆ ด้วยตนเองไม่เว้นแม้แต่การดูบัญชีปูนบำเหน็จทหารที่เสียชีวิตด้วยตนเอง ด้านยอจงพยายามยุให้พีดัมและคิมยูซิน ผิดใจกัน

“ตอนนี้ท่านยูซินอยู่ไหน ได้รับชัยชนะกลับมา ข้าควรจะไปยินดีกับเขาหน่อย”

“เห็นว่าฝ่าบาทเตรียมจะจัดงานเลี้ยงฉลองชัยชนะให้เขาด้วย เมื่อเช้าตอนเข้าเมืองมา ชาวบ้านโห่ร้องต้อนรับเป็นการใหญ่ ตะโกน เสียงดังว่าขอให้กองทัพของท่านยูซินจงเจริญ” ยอจง กล่าว

“กองทัพของท่านยูซินหรือ ที่ชิลลา จะมีกองทัพของท่านยูซินได้ยังไง...ทั้งหมด ต้องเป็นทหารของฝ่าบาทเท่านั้น” พีดัม กล่าวแล้วรีบไปหาคิมยูซิน แต่จากการพูดคุยไม่มีอะไร ก็ขอตัวไปเฝ้าองค์หญิงต๊อกมานต่อ

“พระราชาแพ่กเจดูเหมือนจะประชวรหนักมากขึ้น เพราะแม่ทัพที่มาออกรบคราวนี้ คือองค์ชาย “อึยจา” อีกไม่นานคงจะได้ครองราชย์แทน”

“ท่านยูซินก็เป็นห่วงเรื่องนี้เหมือนกัน เราคงต้องวางกำลังใหม่เพื่อป้องกันชายแดนให้เข้มงวด จำนวนคนแค่ไหนและให้เฝ้าด่านอะไรบ้าง เจ้าช่วยทำรายงานมาให้ข้าดู”

“พ่ะย่ะค่ะ...มีเรื่องเกี่ยวกับการปูนบำเหน็จ ข่าวว่าท่านซูอิกบูทุจริตเงินบางส่วน ทำบัญชีปลอมเพื่อตบตาพ่ะย่ะค่ะ”

“หลักฐานล่ะ”

“ตอนนี้ยังหาไม่ได้ แต่หม่อมฉันได้เตือน ไปแล้ว คิดว่าน่าจะกลัวบ้าง”

“ถ้าเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็อย่าไปเอาเรื่อง แต่ว่าเกินกว่าหนึ่งส่วนเมื่อไหร่ ต้องรีบไต่สวนทันที”

“พ่ะย่ะค่ะ ว่าแต่...เรื่องนั้น...เกี่ยวกับปัญหานั้น จะทรงจัดการยังไงดี” พีดัมกล่าว

“นี่แปลว่า เจ้าระแวงท่านยูซินหรือ”

“หม่อมฉันจำเป็นต้องเพ่งเล็งคนที่อยู่รอบข้างฝ่าบาท แม้แต่ตัวเองยังต้องวิเคราะห์อยู่เนือง ๆ เพราะหน้าที่ของหม่อมฉันคือการตรวจสอบ...โปรดทรงอนุญาตด้วย”

“ปัญหาแบบนี้ เราต้องทำอย่างรอบคอบ”

“การตั้งข้อสงสัยต่อคนคนหนึ่ง ต้องทำด้วยความรอบคอบอยู่แล้ว”

“มีหลักฐานแน่ชัดหรือเปล่า”

“ตอนนี้ยังไม่มีพ่ะย่ะค่ะ”

“ถ้าอย่างงั้น ข้าคงอนุญาตไม่ได้ แต่ว่า จะตรวจสอบต่อไปก็ไม่ว่าหรอก”

มีเซ็งเตือนฮาจอง ที่เอาแต่ดื่มเหล้าเพราะผิดหวังที่ชีวิตตกต่ำสู้คิมยูซินที่ได้เป็นแม่ทัพใหญ่ไม่ได้ ด้านพีดัมสั่งให้ยอจงและโพจอง ไปจับองครักษ์และขุนนางที่ต้องสงสัยมาสอบสวน จนทำให้หลาย ๆ คนไม่พอใจที่หน่วยตรวจการณ์ยิ่งมีอิทธิพลมากขึ้นทุกวัน

โกโตรู้ว่าซอแจถูกหน่วยตรวจการณ์ที่มีพีดัมเป็นหัวหน้าจับตัวไป จึงมาบอกกับคิมยูซิน เพื่อให้เขาออกหน้าไปคุยกับพีดัม ระหว่างนั้น ก็มีองครักษ์คนหนึ่งเข้าถามว่ากำลังคุยอะไรกัน เมื่อยางกิดบอกว่าท่านซอแจ ถูกคนของหน่วยตรวจการณ์จับตัวไป องครักษ์คนนั้นก็ตกใจ จนคิมยูซินรู้สึกสงสัย

คิมยูซิน เดินทางมาถามพีดัมเรื่องซอแจถูกจับตัว พีดัมตอบว่าเป็นหน้าที่ของตนและก็ถวายรายงานแล้ว และตนก็ไม่เคยใส่ร้ายใคร โดยไม่มีเหตุผล และเมื่อสอบแล้วไม่มีมูล ก็จะปล่อยตัวเป็นอิสระทันที และเพื่อบ้านเมือง ก็ไม่มีทางเลือกอื่น

พีดัมให้ยอจงไปจับตัวพวกเผ่าคาย่ามา จากนั้นพีดัมก็เขียนรหัสลับขึ้นมา แล้วนำไปหลอกถามคนเผ่าคาย่าที่ถูกจับมาว่ากำลังตามหาคนคนหนึ่ง แต่คนพวกนี้ไม่ยอมบอกว่าพวกตนเป็นใคร จากนั้นไม่นานพวกเผ่าคาย่าที่ถูกจับก็รวมตัวกันเพื่อหาทางหลบหนี แต่สุดท้ายพีดัม และยอจงก็จับได้

องค์หญิงต๊อกมาน ชมคิมยูซินว่ามีกองทัพที่เก่ง แล้วก็ถามความเห็นต่อแวยา และแซจอ ว่าเป็นอย่างไร คิมยูซิน บอกว่าเป็นคนที่มีความสามารถอยากให้ฝ่าบาททรงเลื่อนพวกเขา เป็นแม่ทัพเพื่อเป็นกำลังใจ

“หึ...ดูเหมือนว่า ท่านจะไว้ใจสองคนนี้มากนะ”

“ใช่ ถ้าไม่ไว้ใจคนอื่น เราจะฝากชีวิตกับพวกเขาในสนามรบได้ยังไง” คิมยูซิน กล่าวทูล

“ท่านคิดอย่างงั้นหรือ”

“หรือว่าฝ่าบาท...ไม่ทรงเห็นด้วย”

“ข้าจะไม่เห็นด้วยได้ยังไง...ข้าต๊อกมาน ...ไม่ว่ายังไงก็เชื่อท่านเสมอ”

คนของหน่วยตรวจการณ์เร่งจับตัวองค รักษ์ ชอนกี จองกึม อิลจู ต๊อกกัม ยองฮา ไปหมดเพื่อทำการไต่สวน ทำให้องครักษ์หลายคนไม่พอใจมาหาคิมยูซิน

“แม่ทัพใหญ่ เรามีเรื่องจะหารือกับท่าน”

“เรื่องของหน่วยตรวจการณ์ใช่ไหม”

“ใช่ ขอบเขตการทำงานของพวกเขา ชักจะเกินเลยใหญ่แล้ว”

“ข้ามองว่า อาจเพราะกลัวว่าท่านแม่ทัพจะมีผลงานมากกว่า เลยทำเพื่อตัดไม้ข่มนามซะก่อน” ยิมจง กล่าว

“เรื่องนี้น่าจะทูลให้ฝ่าบาททรงทราบบ้าง ข้าว่าแม่ทัพใหญ่ น่าจะหาโอกาสเข้าเฝ้าซักครั้งนะครับ”

“นั่นสิครับ ถ้าเรานิ่งเฉย ไม่แน่อาจยิ่งบานปลายก็ได้” ยิมจง กล่าว

แวยา ถูกยอจงและทหารของหน่วยตรวจการณ์มาควบคุมตัว แต่ก็ขัดขืน จนคิมยูซิน เข้ามาเจอและห้ามไว้ จากนั้นก็ไปคุยกับพีดัมด้วยตัวเอง

“รู้มั้ยว่าทุกวันนี้ เสียงประณามหน่วยตรวจการณ์มีอยู่ทั่วไป”

“หึ...เราเป็นหน่วยสอดส่องการทุจริต ใครจะด่าว่าก็เป็นเรื่องธรรมดา”

“ถ้าอย่างงั้นแวยามีความผิดอะไร”

“ไม่ว่าคนของฝ่ายไหน เราจะมีการไต่สวนอย่างเป็นธรรม แต่เพราะเห็นว่าเราเป็นเพื่อน เลยจะให้ข้าปล่อยปละลูกน้องท่าน หรือไง”

“แต่พวกเขาเพิ่งมีผลงานจากการสู้รบมาหมาด ๆ เจ้าไม่คิดถึงขวัญทหารบ้างหรือไง”

“ขวัญทหารหรือ? โดยเฉพาะกองทัพของท่านใช่ไหม”

“เจ้าพูดอะไรน่ะ” คิมยูซิน ถาม

“งานนี้ฝ่าบาททรงเห็นชอบด้วย...ท่านสงสัยอะไรก็ไปทูลถามเอง แค่นี้ก็หมดเรื่องแล้วนี่นา”

คิมยูซิน มาขอเข้าเฝ้าองค์หญิงต๊อกมาน

“ฝ่าบาท หม่อมฉันขอบังอาจทูลถาม แม่ทัพแวยา ถูกหน่วยตรวจการณ์จับไปเมื่อซักครู่นี้...ได้ยินว่าเรื่องนี้ เป็นความเห็นชอบของฝ่าบาทจริงหรือพ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันยูซิน ขอบังอาจทูลถามซักนิด แวยามีความผิดอะไรไม่ทราบ...ถ้าผู้ใต้บังคับบัญชามีความผิดจริง หม่อมฉันก็มีหน้าที่รับผิดชอบแทนเขา โปรดทรงแจ้งข้อหาของแวยา เพื่อให้หม่อมฉันไปรับการไต่สวนอีกคน...เขาเพิ่งกลับจากชายแดนพร้อมกับหม่อมฉัน มีความดีความชอบไม่น้อยกว่าใคร แล้วทำไม...”

“คน ๆ นี้...ท่านควรตัดขาดกับเขา ซะ...ไม่ใช่ ยังมีเผ่าคาย่าด้วย เผ่าคาย่า...ก็ต้องตัดขาด”

“ฝ่าบาท ทรงหมายความว่ายังไง”

“ท่านยูซิน ข้า....เคยออกประกาศให้ชนเผ่าคาย่าได้รับสิทธิเท่าเทียมกับชาวชิลลา คนไหนที่เก่ง ก็ให้มาทำงานรับหน้าที่สำคัญ แถมยังคืนที่ดินให้พวกเขา เห็นใจที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ ได้ผลผลิตเท่าไหร่ก็ลดส่วยให้เป็นพิเศษ ท่านคงรู้ใช่ไหม”

“หม่อมฉันรู้ทุกอย่าง แล้วทำไม...ถึงมีรับสั่งแบบนี้อีก”

“ข้าไม่เคยเห็นพวกเขาเป็นอื่นเลย ให้ความเสมอภาคในทุกด้าน ตราบใดที่ข้ายังอยู่ ต่อไปก็ยังคงเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน เช่นนี้แล้ว เพราะอะไร....”

“นี่...หมายความว่า...หมายความว่า... ฝ่าบาท...”

“เพราะสาเหตุอะไร กลุ่มโพยายังมีความเคลื่อนไหวอยู่ไม่เลิก...ไหนว่าสลายตัวไปแล้ว แต่จริง ๆ ยังซ่องสุมกำลังอยู่ใช่ไหม”
“หา...นี่แปลว่า คนที่ถูกจับเมื่อคืนล้วนแต่เป็นคนของ...”

“ใช่ ได้ยินว่าแอบซ่องสุมอยู่ลับ ๆ ล้วนต้องการให้กลุ่มโพยามีความเคลื่อนไหวใหม่ และผู้นำของพวกเขา ก็คือแวยา”

“ฝ่าบาท”

“ท่านยูซิน ท่านจำเป็น...ต้องขาดกับพวกเขาแล้ว ทีนี้เข้าใจหรือยัง ท่านยูซิน”

“ฝ่าบาท ถ้านี่เป็นความจริงละก้อ เท่ากับแวยามีความผิดฐานคิดกบฏ แต่ว่า เขาคงเห็นว่าชนเผ่าคาย่าของเราถูกกดขี่มานานหลายปี ด้วยความไม่มั่นใจจึงได้รักษากองกำลังไว้ เชื่อว่าไม่มีเจตนาอื่น โดยเฉพาะการแข็งข้อด้วยแล้ว...ฝ่าบาท...ๆ หม่อมฉันขอบังอาจทูลตรง ๆ ชนเผ่าคาย่านั้น...”

“ชนเผ่าคาย่าหรือ...นี่คือแผ่นดินชิลลา ยังมีชนเผ่าคาย่าที่ไหนกัน...ทุกคนเป็นชาวชิลลาเหมือนกันหมด เป็นราษฎรของข้า ไม่มีแบ่งแยก”

“ฝ่า...ฝ่าบาท...”

ด้านซอวอนและพวก พูดถึงเรื่องคิม ยูซิน คงไม่กล้าตัดขาดจากเผ่าคาย่า เพราะชนเผ่านี้หนุนหลังเขาอยู่ ถ้าตัดขาดเท่ากับลืมบุญคุณ พีดัมเลยต้องกดดันด้วยวิธีนี้ ส่วนยูซินจะรับมือยังไง คงต้องดูต่อไป




..............จบตอนที่ 52.............