Queen Seon Deok ( 善德女王/ 선덕여왕)
เรื่องย่อละคร : ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน - ตอนที่ 34
Cr. : Dailynews Online
มีเซ็งรีบกลับมารายงานมีซิลว่าพีดัมได้โผล่ไปที่ลานประลองยุทธ์บอกว่าจะขอประลองฝีมือกับพวกองครักษ์
“มันมีสิทธิอะไรเข้าประลอง เห็นว่าเป็นเด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าไม่ใช่หรือ” เซจอง ถาม
“ถ้าเป็นศิษย์มุนโนก็เท่ากับเป็นองครักษ์คนหนึ่ง จะเข้าประลองก็มีสิทธิเหมือนกัน” ซอวอน กล่าว
“ถึงเขาอยู่กับท่านมุนโนก็จริง แต่ใครจะรู้ว่าเป็นลูกศิษย์หรือลูกจ๊อก ไม่เคยมีชื่อในสารบบด้วยซ้ำ ฮึ่ม....” ฮาจอง กล่าว
โฮแจ บอกกับพีดัมว่าไม่มีสิทธิเข้า ร่วมประลอง เพราะพีดัมไม่ได้เป็นองครักษ์ ขั้นหนึ่ง
“ข้ามีสิทธิแน่นอน เพราะท่านมุนโน คืออาจารย์ข้า....ทุกวันนี้ข้าจะมีลูกน้องติดตามเหมือนคนอื่นก็ได้ จึงมีสิทธิเข้าประลองเท่า กับองครักษ์ขั้นหนึ่ง ฉะนั้นข้าจึงมาขอร่วมประลองยุทธ์ โปรดอนุญาตด้วย”
“แต่ว่างานนี้เราอนุญาตให้องครักษ์จากหน่วยต่าง ๆ 32 คนมาประลอง และได้ครบตามจำนวนแล้ว ต่อให้เจ้ามีสิทธิจริง ก็ถือว่ามาช้าไป”
“ใช่ครับ ทำแบบนี้มันไม่ถูก หมอนี่ทำอะไรไม่เคารพกฎเกณฑ์บ้าง....พวกเราทั้งหมดในที่นี้ ต้องผ่านการคัดเลือก กว่าจะมีสิทธิเข้าร่วมประลองในวันนี้ ที่สำคัญ บอกว่าเป็นศิษย์ท่าน มุนโน ก็เป็นคำพูดของเขาฝ่ายเดียว....อีกอย่าง ต่อให้เป็นศิษย์ท่านมุนโนจริง ยังไงก็คือผิดกฎอยู่ดี....ออกจากที่นี่ไปซะ” องครักษ์อีกคนกล่าว พีดัมจึงกล่าวไล่องครักษ์คนนั้นไป แต่องครักษ์ไม่พอใจจนเกิดการต่อสู้กันพีดัมฝีมือดีกว่าจึงทำให้องครักษ์ได้รับบาดเจ็บ
“คนนี้ดูท่าจะไม่ไหว ถ้าไงให้ข้าแทนเขาได้ไหม” พีดัม กล่าว
“อะไรนะ เจ้ากล้ามาก่อเรื่องในงานสำคัญของเราเชียวหรือ” โฮแจ กล่าว
“แต่ทุกคน....ไม่ได้เห็นกับตาหรอกหรือ.... ว่าหมอนี่....ชักกระบี่ใส่ข้าก่อนน่ะ” พีดัม กล่าว
จุปัง และโกโต มารายงานเรื่องพีดัมให้มุนโนรู้
“เป็นความจริงหรือนี่” มุนโน ถาม
“จริงครับ คือ....ท่านรีบไปดูเถอะ จะได้รู้ว่าใช่หรือไม่ใช่ เพราะเขาอ้างว่าเป็นลูกศิษย์ท่านน่ะครับ” จุปัง กล่าว
“ใช่ครับ อยู่ดี ๆ ก็โผล่มา บอกว่าจะร่วมการประลองฝีมือด้วย” โกโต กล่าว
“ใช่”
“ลูกศิษย์ข้า....พีดัมน่ะหรือ”
“ครับ เขาบอกว่าเป็นลูกศิษย์ท่าน แถมยังว่า มีฐานะเท่ากับองครักษ์คนหนึ่งจึงมีสิทธิเข้าประลองน่ะครับ” จุปัง กล่าว
มุนโนรีบมาที่ลานประลองเมื่อเห็นว่าพีดัมอยู่กับพวกองครักษ์ก็เข้าไปถาม
“มีปัญหาอะไรกัน”
“คน ๆ นี้ อ้างว่าเป็นลูกศิษย์ท่าน จะมาขอร่วมประลองยุทธ์ด้วยน่ะครับ” โฮแจ กล่าว
“ถ้าเป็นศิษย์ท่านจริง ก็มีสิทธิประลองโดยชอบธรรมอยู่แล้ว ขอเพียงท่านยืนยันให้ชัด แล้วเราค่อยอนุญาตอีกที” ชิซู สั่ง
“หนุ่มคนนี้ เป็นลูกศิษย์ท่านจริงมั้ยครับ” โฮแจ ถาม
“เจ้าตัวแสบนี่....เจ้าตัวแสบ....” มุนโน คิดในใจ
“วันนี้ ไม่ว่ายังไง ข้าก็จะประลองให้ได้” พีดัม คิด จากนั้นมุนโนก็ยอมรับว่าพีดัมเป็นศิษย์ตนเองจริง
“ในจำนวนผู้เข้าประลองทั้งหมด ให้องครักษ์นิรนามพีดัม....แทนที่ “ซองโก” แห่งหน่วย “ชองกึม” เข้าร่วมประลองได้” โฮแจ กล่าว
“ขอบคุณท่านเป็นอย่างมาก” พีดัม กล่าว จากนั้นโฮแจก็ให้ผู้เข้าร่วมประลองจับหมายเลขและการประลองฝีมือรอบแรกจะมีขึ้นในตอนเที่ยง
มีเซ็งรายงานต่อมีซิลว่า แทนัมโพส่งข่าวมาว่าอีกไม่นานจะมาถึงเมืองหลวงแล้ว
“อีกไม่นานคือเมื่อไหร่”
“เอ่อ....” มีเซ็งบอกไม่ได้
“พักก่อนก็ได้ยินว่าอีกไม่นานแต่จนแล้วจนเล่าก็ไม่เห็นกลับมาซะที”
“เอ่อ....ก็....นั่นสิครับพี่ใหญ่ ฮึ่ม....ไม่ ต้องห่วง รอมันกลับมาเมื่อไหร่ข้าจะหวดให้หนักเชียว เจ้าลูกคนนี้ ฮึ่ม...”
“ท่านเซจูครับ....ท่านเซจู การประลองรอบที่หนึ่ง จะเริ่มในตอนเที่ยงนี้แล้วครับ” องครักษ์ เข้ามารายงาน
“แล้วเจ้าหนุ่มพีดัมว่าไงบ้าง” ซอวอน ถาม
“เอ่อ....ท่านมุนโนไปด้วยตัวเอง ยืนยันว่าเป็นลูกศิษย์จริงครับ”
“งั้นหรือ” มีซิล ถาม
“ถึงเป็นลูกศิษย์แล้วทำไม ผู้เข้าแข่งขัน 32 คนก็ได้ครบแล้วนี่” เซจอง กล่าว
“ใช่ครับ ครบแล้วก็จริง แต่หมอนั่นสู้กับองครักษ์คนหนึ่ง แค่พริบตาไม่ทันดู ก็เล่นงานองครักษ์นั่นจนหงายเก๋งไปเลย สุดท้าย เลยได้แทนที่คนหงายเก๋งน่ะครับ”
“ซี้ด....คงไม่ใช่ตาแก่มุนโน จะมาเล่นตลกอะไรอีกล่ะ บอกว่าเป็นลูกศิษย์ แต่รู้เห็นเป็นใจมาแต่แรกแล้ว” ฮาจอง กล่าว
“ท่านมุนโน จะไม่ทำอะไรที่ซับซ้อนแบบนี้” ซอวอน กล่าว
“ฮึ่ม....ท่านรู้ได้ไง” ฮาจอง ถาม
“แต่ว่า ข้าจะไปสืบดูเอง” ซอวอน กล่าว
พีดัม ทูลองค์หญิงต๊อกมานว่าเมื่อถึงเวลาประลอง ตนเองจะทำให้ผลออกมาอย่างที่องค์หญิงต้องการ คิมยูซินจะได้เป็นผู้นำองครักษ์ ด้านเหล่าองครักษ์เมื่อเห็นฝีมือของพีดัมแล้วก็ลงความเห็นว่ามีฝีมือร้ายกาจมาก ระหว่างนั้นพีดัมก็โผล่มาคุยกับองครักษ์ทั้งสองคน
“จ๊ะเอ๋....”
“เฮ้ย....ใคร....” สององครักษ์ ตกใจ
“แหะ....ข้าเอง เฮ่อ ๆๆ ท่านทั้งสอง จะประลองกับใครจ๊ะ” พีดัม ถาม
“บ้านี่ นึกว่าตัวเองเป็นใครน่ะ หา....”
“แหม....ไม่แน่นะอาจสู้กับข้าก็ได้.... ว้าย....ต้องไปดูตารางการจับคู่ซะก่อน เฮ่อ ๆ ๆ ข้าไปล่ะ”
“เจ้าหมอนี่....”
“อ้อ..เดี๋ยว..ถ้าโชคร้ายมาสู้กับข้า ระวังบั้นท้ายให้ดีนะจ๊ะ เพราะว่าข้าชอบเล่นแต่บั้นท้าย ระวังไว้...ฮะฮ่า...เดี๋ยวก็รู้ เฮ่อ ๆ ๆ”
“อย่าเพิ่งไป....” องครักษ์ ขาน
“ระวังตะโพกให้ดีเถอะ ข้าเตือนแล้ว นะ ยะฮู้....วู้....ว้าว...” พีดัม กล่าว
“โอ๊ย....ดูมันทำเข้า หมอนี่ สติดีหรือเปล่าน่ะ”
จุปังกับโกโต เข้ามาให้กำลังใจคิมยูซิน ที่ได้คู่ต่อสู้คนแรกคือ ปาร์คอึย และบอกกับเขาว่าต้องเอาชนะให้ได้ แต่ยูซินกำลังใช้ความคิดและจริงจังกับการประลองจึงบอกทั้งสองว่าอย่ากวนจากนั้นก็เดินออกจากห้องไป จากนั้นจุปังและโกโตก็หันไปพูดกับไอชอง
“ฮ่า....ฟู่....ท่านไอชอง สู้ตายนะครับอึม....”
“ใช่ ต้องสู้เข้าไว้ เพราะหน่วยยองวากับหน่วยบีชอนเหมือนพี่น้องแท้ ๆ แหะ ๆ ๆ” โกโต กล่าว แล้วทั้งสองก็เดินออกไป
“ตายล่ะ การประลองนี่น่ากลัวจริง ๆ เห็นมั้ย ทำให้คนเปลี่ยนได้” จุปัง บอกโกโต
“นั่นสิ กลายเป็นคู่ต่อสู้ ทั้งที่เคยเป็นเพื่อนรัก แต่....กลับไม่พูดไม่จากัน”
“ฮ่า.... แหม....ดูซิ....ลุ้นแทบแย่”
โพจอง บอกกับซกพุงว่า คนที่ชื่อพีดัม เป็นคู่ต่อสู้คนแรกของซกพุง
“ข้ารู้แล้ว ตอนอยู่เขตยีซอก็เคยสู้กับเขามาหนหนึ่ง”
“ฝีมือหมอนี่ไวมาก เจ้าต้องระวังล่ะ” โพจอง เตือน
“ข้าจะพยายามเต็มที่ ไม่ให้เขาเข้ารอบไปเจอกับท่านได้ เฮ่ย....ถ้าต้านไม่อยู่จริง ๆ ก็จะไม่ให้มันอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์”
“แหะ....ใครหรือ....หึ ๆๆ เมื่อกี้ใครบอกว่าจะไม่ให้คนไหนอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์น่ะ หา....พวกท่านเป็นพวกเดียวกันหรือ....งั้น....จะเข้ามาพร้อมกันก็ได้นะ เฮ่อ ๆๆ ข้าเคยเห็นฝีมือท่าน กระจอกงอกง่อยชะมัด” พีดัม เดินเข้ามา
“บังอาจ ใครให้เข้ามาในนี้และยังเพ้อเจ้ออีก” ซกพุง กล่าว
“อุ๋ย....”
“ถ้าอยากประลองก็หัดมีมรรยาทซะบ้าง เห็นพวกเราเป็นอะไร ให้มาแหย่เล่นได้หรือ” ซกพุง กล่าว
“เฮ่อ ๆๆ แหม....พูดจาเสียงดังขนาดนี้ เหมาะจะเป็นผู้นำองครักษ์จริง ๆ” พีดัม กล่าว
“ยังไม่กลัวอีกใช่ไหม”
“อูย....แหม....ข้ากลัวแล้วก็ได้ ยอมแพ้แล้ว เห็นข้าเป็นอะไรน่ะ น่ากลัวเสียงจะ แหบก่อน แหม....ตัวก็เตี้ยแต่ทำไมเสียงดังนัก เฮ่อ ๆๆ” พีดัม กล่าว
“เฮ่ย....หึ....เจ้าหมอนี่....หึ.....เจ้าหมอนี่....” ซกพุง โกรธ
พีดัม มาพบกับยิมจง จึงถูกถามว่าทั้งสองเคยรู้จักกันหรือ
“แน่นอน ท่านน่าจะรู้จักข้าบ้าง เมื่อ กี้ไม่ได้เห็นข้าหรอกหรือ” พีดัม กล่าว
“เพราะอะไร ทำทำไม”
“หือ...ท่านอยู่หน่วย “ฮูกุก” ใช่ไหม แหะ....เท่าที่รู้ สมัยก่อนอาจารย์ข้าก็อยู่หน่วยฮูกุก แถมยังคิดค้นเพลงกระบี่ฮูกุกด้วยแน่ะ แต่ว่า ถึงข้าจะไม่เคยเห็นฝีมือท่านก็จริง อึม ๆ.... อึ้ม....มาซี่ โธ่เอ๊ย....แต่ถ้างวดนี้ท่านได้ประลองกับข้า ก็เท่ากับผู้สืบทอดสองคนมา สู้กัน....แต่ว่า ท่านไม่เคยฝึกยุทธกับอาจารย์ ข้า จะเป็นผู้สืบทอดก็ไม่ถูก ถ้าท่านเกิดแพ้ขึ้นมา ให้ข้าดูแลหน่วยฮูกุกของท่านดีกว่ามั้ง แหะ ๆๆ”
“อะไรนะ กล้ามาดูถูกข้าขนาดนี้เชียวหรือ” ยิมจง กล่าว
“อุ๊ย....ไม่กล้าหรอก แหม....เฮ่ย.... ใจเย็น ๆ เคยรู้ใช่ไหมว่า ก่อนการประลองต้องทำใจให้สงบเข้าไว้ เฮ่อ ๆ ๆ”
“ยังจะพูดอีก”
“เย็นไว้โยม เย็นไว้อย่าเพิ่งเดือด แหม....น่ากลัวเชียว เชื่อข้าเดี๋ยวก็ดีเอง”
เมื่อองค์หญิงต๊อกมานรู้ว่าพีดัมเที่ยวไปยั่วยุผู้เข้าร่วมประลองคนอื่น ๆ ให้เสียสมาธิก็ตรัสถามว่าทำแบบนี้เพื่ออะไร
“หม่อมฉันมั่นใจตัวเอง แต่ไม่เคยประลองกับใคร เรียกว่าขาดประสบการณ์ด้านนี้ แล้วจะรับรองผลชนะได้ไง”
“แล้วยังไง” องค์หญิงต๊อกมานตรัสถาม
“เพลงกระบี่ทุกท่า ล้วนเป็นไปตามความคิดของเรา หม่อมฉันเลยส่งผ่านความวุ่นวายไปยังคนที่จะต่อสู้ด้วย....สิ่งที่หม่อม ฉันทำ โดยเฉพาะการกวนประสาท.....คือความตั้งใจที่จะแกล้งพวกเขา”
“การรบกวนสมาธิคนอื่น คิดว่ายุติธรรมต่อการประลองหรือเปล่า”
“ก็ไหนว่าองครักษ์ต้องพร้อมรับทุกสถานการณ์ไง ใครหลงกลก็ช่วยไม่ได้ล่ะ”
“เฮ่อ....เรามีการประลองเพื่ออะไร”
“เพราะองค์หญิง อยากให้ท่านยูซินได้เป็นผู้บัญชาการองครักษ์ไม่ใช่หรือ”
“แล้วยังไง”
“หม่อมฉันกำลังช่วยองค์หญิงอยู่”
มีซิลมาถามมุนโน ถึงเรื่องที่พีดัมจะเข้าร่วมประลองด้วย
“ใช่ เขาบอกว่าอยากประลองด้วย”
“ท่านพูดเหมือนกับว่า ไม่รู้ว่าเหตุ การณ์จะมาถึงขั้นนี้งั้นแหละ....เขาเป็นศิษย์ท่านแท้ ๆ จะเป็นไปได้ไงที่ท่านไม่รู้เลย ทำไมต้องเดินหมากวุ่นวายแบบนี้”
“เมื่อเขาเป็นศิษย์ข้า ก็ย่อมมีสิทธิเข้าประลองอยู่แล้ว จะบอกว่าวางแผนได้ยังไง”
“ใช่ แน่นอนอยู่แล้ว ข้าเชื่อว่า ท่านเป็นคนเถรตรงพอที่จะให้ความเป็นธรรมแก่ ทุกฝ่าย”
“ข้อนี้แน่นอน”
“จำได้ว่า นับแต่ข้ารู้จักท่าน หลายปีมานี้ ไม่เคยที่จะเสื่อมศรัทธาในตัวท่านไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม....หวังว่าคราวนี้ ท่านจะทำให้ข้าเลื่อมใสได้อีก”
พระเจ้าจินพยอง ตรัสถามยองชุนว่าการประลองไปถึงไหนแล้ว
“กำลังอยู่ในช่วงต่อสู้ดุเดือดพ่ะย่ะค่ะ แต่ได้ยินว่า มีคนชื่อพีดัมเข้าร่วมการประลองด้วย”
“คนที่ชื่อพีดัม คือคนสนิทที่อยู่กับต๊อกมานไม่ใช่หรือ” พระมเหสีมายา ตรัสถาม
“พ่ะย่ะค่ะ เพราะเป็นลูกศิษย์ท่านมุน โน จึงมีสิทธิเข้าประลองด้วย”
“ฝ่าบาท....ๆ....” มหาดเล็กเข้ามา
“มีเรื่องอะไร”
“ทูตที่ไปเมืองหังโจวกลับมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“จริงหรือ งั้นชุนชูก็มาด้วยสิ”
“แต่ว่า...เอ่อ....แต่ว่า....ๆ....”
“ทำไมอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ล่ะ”
“เกิดอะไรขึ้นหรือไง”
“ได้ยินว่า คนของท่านมีซิลชิงตัดหน้าก่อน พาตัวคุณชาย....ออกเดินทางล่วงหน้า พ่ะย่ะค่ะ”
“อะไรนะ มีซิลพาชุนชู....”
“แล้วทำไม....นางต้องเป็นฝ่ายพาชุนชูกลับมาเองล่ะ” พระมเหสีมายา ตรัสถาม
“แต่ว่า ถ้าพวกเขาเดินทางก่อนจริง ป่านนี้ก็น่าจะมาถึงเมืองหลวงของเราแล้ว ขนาดทูตยังกลับมา แล้วทำไมยังไม่เห็นพวกเขาล่ะ” ยองชุง กล่าว
“หึ....คงไม่ใช่....มีซิล....เอาตัวชุนชูไปกักไว้ที่อื่นนะเพคะ”
“หึ....ไปจับตาความเคลื่อนไหวของมี ซิลทุกฝีก้าว ที่สำคัญ ส่งคนไปที่เมือง “ทังฮันซอง” ถามว่าคณะของชุนชูเดินทางไปถึงที่นั่นหรือยัง”
“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท”
ชุนชูเดินทางมาใกล้ถึงเมืองหลวง แต่ได้ถ่วงเวลาไว้โดยอ้างว่าเวียนหัว แทนัมโพ จึงให้คนนำผ้าชุบน้ำมาเช็ดให้
“คุณชาย รีบไปต่อเถอะครับ ใกล้จะถึงเมืองหลวงอยู่แล้ว” แทนัมโพ กล่าว
“เฮ่ย....แค่นั่งเกี้ยว ข้าก็เวียนหัวจนจะแย่แล้ว ท่านแทนัมโพ”
“ครับ คุณชาย”
“หึ....ได้ยินว่าช่วงนี้ มีการประลองยุทธ์หรือ”
“หา....อ้อ....ครับ”
“อ้อ.....งั้นหรือ เฮ่ย....อากาศนี่ร้อนตับแลบจริง ๆ ว่ามั้ย เฮ่ย....เฮ่อ....” ชุนชู กล่าว
ที่เมืองหลวงการประลองของเหล่าองครักษ์เริ่มการต่อสู้เป็นไปอย่างสนุกจนสุดท้ายโฮแจได้ประกาศ
“องครักษ์คิมยูซินแห่งหน่วยยองวา.....องครักษ์ไอชองแห่งหน่วยบีชอน....โพจองแห่งหน่วยยีวาซอง....พีดัมแห่งหน่วยไร้สังกัด....องครักษ์ทั้ง 4 คนนี้ ได้เข้ารอบต่อไปในการประลอง ข้าจึงขอประกาศให้รู้ กำหนดให้บ่ายนี้ เข้าประลองในรอบ 4 คนสุดท้าย”
แม้จะได้ผ่านเข้ารอบ 4 คนสุดท้าย แต่คิมยูซินก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย
“ท่านเป็นไงบ้าง” แวยา ถาม
“มาแล้วหรือ”
“ท่าทางเหมือนจะเจ็บไม่น้อย แล้วรอบต่อไปจะสู้ไหวหรือเปล่า” ซอแจ ถาม
“คนอื่นก็คงมีบาดเจ็บเหมือนกัน” คิมยูซิน กล่าว
“หึ....”
“ถ้างานนี้ท่านทำสำเร็จ เป้าหมายที่เราวางไว้ อย่างน้อยก็ร่นเวลาได้อีกสามปี.... เพราะฉะนั้นท่านต้องชนะ” แวยา กล่าว
“แข็งใจไว้หน่อยนะ เพราะท่านมีภาระหนักยิ่งกว่าใคร” ซอแจ กล่าว
“โอ๊ะ....เฮ่อ....” คิมยูซิน เจ็บแผล
ไอชองผ่านเข้ารอบ 4 คนสุดท้าย คู่ต่อสู้ด่านต่อไปคือคิมยูซิน ลูกน้องจึงเข้ามาถามความรู้สึก
“ข้าจะพยายามสู้เต็มที่”
“ถ้าท่านใช้กำลังห้ำหั่นกับเขาเต็มที่ สุดท้ายอาจต้องไปพบท่านโพจอง จะมิยิ่งลำบากหรอกหรือ เอ่อ....ป่านนี้แล้ว ท่านยังไม่ได้คุยกับเขาอีกหรือ”
“เจ้าจะพูดอะไรกันแน่ จะให้ข้าทุจริตในการแข่งขันหรือไง....นี่คือการประลองฝีมือ ทั้งข้าและยูซิน ไม่เคยคิดอะไรนอกเหนือ จากนี้”
ซกพุง เข้ามาถามโพจองว่ายังพอสู้ไหวมั้ย และตนเองก็รู้สึกละอายใจที่พ่ายแพ้
“หึ....อย่าพูดอย่างงั้น พีดัมเค้าเก่ง จริง ๆ”
“หึ....ยังไงเจ้าต้องเอาชนะพีดัมให้เร็วที่สุด เพื่อออมกำลังไว้ รอบสุดท้ายจะได้ไม่กินแรงมาก”
“หึ....”
“ยูซินกับไอชองเป็นเพื่อนรัก ไม่แน่อาจรวมหัวทำอะไรบางอย่าง....ความถนัดของเจ้าพีดัม คือการกระโดดและโต้ตอบฉับไว แต่ว่า ตอนนี้เขาเจ็บที่หน้าแข้งขวา ถ้าโดดไปทางขวาจะค่อนข้างลำบาก” ซกพุง กล่าว
แทพุงจะนำน้ำมาให้พีดัมดื่ม แต่พบว่าเขากำลังนอนหลับอยู่ และเป็นห่วงว่าพีดัมจะได้รับบาดเจ็บจนเดินไม่ไหว ด้านมีเซ็งออกตามหามีซิลในห้องทำงานและที่ประลองยุทธแต่ ก็ไม่พบ
“ที่แท้มาอยู่นี่หรอกหรือ เฮ่ย...ปล่อยให้ หาตั้งนาน เหนื่อยแทบแย่ เฮ่ย...”
“เมื่อกี้ฮาจองมาบอกเรื่องชุนชูให้รู้ ข้าก็อยากพบเจ้าเหมือนกัน ตกลงเขามาถึงหรือยัง” มีซิล ถาม
“เฮ่ย...ยังมั้ง ไม่เห็นจะได้ข่าวเลย แต่ได้ยินว่า ข้ามเขากึมอูซานมาแล้ว คงใกล้จะถึงเมืองหลวงเต็มที เฮ่อ...”
“อะไรนะ”
“ข้ามเขากึมอูก็ถึงเมืองหลวงแล้วนี่ทำไม ยัง...” ซอวอน กล่าว
“เฮอะ...เพราะว่า...โอ๊ย...อยากจะบ้า เพิ่ง รู้ว่าขี่ม้าไม่เป็นถึงได้ช้าขนาดนี้ เฮ่ย...หึ ๆ ๆ เฮ่ย ...แต่ว่า เขาไม่เหมือนข้าหรอกนะอย่างน้อยเขาก็ ไม่มีอะไรเก่งซักอย่าง แหะ ๆ ๆ” มีเซ็ง กล่าว
แทนัมโพ เสนอที่จะสอนขี่ม้าให้กับชุนชู
“เมื่อก่อนข้าก็เคยคิดจะหัดขี่ม้า แต่พอเอาเข้าจริง มันไม่ง่ายอย่างที่คิด...เมื่อกี้ได้ยินว่า ท่านจะสอนข้าหรือ”
“หึ...ใช่ครับคุณชาย”
“งั้นก็ได้ ข้าจะลองดูซักครั้ง”
“นั่งได้ถูกท่าแล้ว ลำดับต่อไปก็คือจับเชือกให้แน่น”
“เอ่อ...ข้าเริ่มกลัวแล้ว ขอลงไปดีกว่า”
“คุณชาย ยังไม่ทันให้มันวิ่งเลย”
“ข้าไม่ฝึกแล้ว”
“หึ...เฮ่ย...”
“เฮ่ย...เฮ่อ...แค่ขึ้นไปนั่งเดี๋ยวเดียว ข้าก็รู้สึกเหนื่อยแย่แล้ว แถวนี้มีโรงเตี๊ยมมั้ยข้าจะพักหน่อย”
“หา...แค่ขึ้นไปนั่งยังไม่ทันทำอะไรเลย คุณชาย เราต้องรีบเดินทางนะครับ”
“บอกให้ไปหาโรงเตี๊ยม”
มุนโน ทูลถามองค์หญิงต๊อกมานว่าได้รับสั่งให้พีดัมทำอะไรพิเศษหรือไม่ เพราะเขาได้ไปประลองโดยไม่บอกตนเอง แต่องค์หญิงตรัสปฏิเสธ จากนั้นก็รีบเสด็จไปที่ลานประลอง
“ทุกคนฟัง นี่คือการประลองในรอบสี่คนสุดท้าย คิมยูซินแห่งหน่วยยองวา ไอชองแห่งหน่วยบีชอน สองคนเดินมาข้างหน้า ทั้งคู่แสดงความเคารพ องครักษ์ทั้งสอง เข้าประจำที่ เริ่มการประลองได้” โฮแจ กล่าว จากนั้นทั้งสอง ก็ประลองฝีมือกันโดยมีกองเชียร์เป็นองครักษ์หน่วยของตน สุดท้ายคิมยูซินเป็นฝ่ายชนะได้เข้าสู่รอบสุดท้าย จุปังรีบเข้ามาแสดงความยินดี
“ระวัง ๆ ค่อย ๆ เดิน ช้า ๆ ใจเย็น ๆ ไม่ต้องรีบ ปล่อยให้นอนลงก่อน ค่อย ๆ นะ แหม...ดูซิเนี่ย...”
“ท่านยูซิน ท่านทำดีมากเลย” โกโต กล่าว
“นั่นสิเป็นการต่อสู้ที่มันมาก สู้เก่งขนาดนี้ทำไมเมื่อก่อนไม่เห็นลงแข่งล่ะ” จุปัง กล่าว
“ข้าดูจนเกือบร้องไห้แน่ะ อ้อ...น้ำอยู่นี่ มา...ค่อย ๆ ดื่มนะ ไม่ต้องรีบ” แทพุง กล่าว
“ท่านไอชองก็เหลือเกิน สู้ไม่ได้ยังทำให้ท่านยูซินเปลืองแรง...” จุปัง กล่าว จากนั้นไอชองก็เดินเข้ามาหาคิมยูซิน
“ฝ่ายแพ้ยังเดินไหว ฝ่ายชนะกลับหมดแรง เป็นการต่อสู้ที่สนุกนัก”
“อืม...ในเมื่อผ่านข้าไปได้ ตำแหน่งผู้นำ องครักษ์ก็ต้องเป็นของเจ้า เข้าใจมั้ย” ไอชอง กล่าว
“ตบมือเร็วเข้า” จุปัง บอกทุกคนแล้วก็หัวเราะกัน
เช้าวันรุ่งขึ้นแทนัมโพ เข้ามาตามชุนชู ที่ห้องพักแต่ก็ไม่พบชุนชูได้หนีออกจากโรงเตี๊ยม เพื่อไปแอบดูการต่อสู้ที่ลานประลอง ซึ่งโพจองกำลังประลองฝีมือกับพีดัม
“ผลที่ออกมา พีดัมเป็นฝ่ายชนะ...ได้สิทธิไปแข่งรอบสุดท้าย เนื่องจากนี่ก็ใกล้เย็นแล้ว ฉะนั้น รอบสุดท้าย...ให้ไปประลองฝีมือในพรุ่งนี้ เช้า” โฮแจ กล่าว
“ไม่ต้องรออีกแล้ว ข้าขอสู้กับท่านยูซิน เดี๋ยวนี้เลย” พีดัม กล่าว
“คิมยูซินแห่งหน่วยยองวา เชิญออกมา หน่อย พีดัมบอกว่าจะขอสู้ต่อ เจ้ามีความเห็นยังไงบ้าง”
“ถ้าเขาคิดว่าสู้ไหว ข้าก็ไม่ปฏิเสธ”
“หึ ๆ”
“ถ้าอย่างงั้น อีกหนึ่งชั่วยามให้หลัง ยาม เย็นของวันนี้ ให้มาแข่งในรอบสุดท้าย” โฮแจ กล่าว
ยองชุนเข้ามารายงานพระเจ้าจินพยองว่าโพจองเป็นฝ่ายแพ้หนุ่มที่ชื่อพีดัม
“ไหนบอกว่าโพจอง ไม่เคยประลองยุทธ แพ้ใครมาก่อนไงล่ะ” พระมเหสีมายา ตรัส
“หึ...ขนาดเอาชนะโพจองได้ แสดงว่าน่าจะเก่งไม่น้อย” พระเจ้าจินพยอง ตรัส
“พ่ะย่ะค่ะ ถ้าสุดท้ายพีดัมเป็นฝ่ายชนะจริง ๆ ก็แปลว่าทั้งพีดัม ยูซินและโพจองชนะคนละหนึ่งรอบ ถึงตอนนั้นอาจต้องใช้การออกเสียงเพื่อคัดเลือกผู้นำ”
“ถ้าอย่างงั้น โพจองก็จะมีโอกาสมากกว่า ใคร”
“ถ้ายูซินเป็นฝ่ายชนะ ได้เป็นผู้นำองครักษ์ อีกหน่อยก็จะเป็นกำลังสำคัญให้ต๊อกมาน” พระมเหสี มายา ตรัส
ฮาจอง มาบอกมีซิลว่าโพจองแพ้ให้แก่พีดัม
“พีดัม” มีซิล คิด
“ใช่ครับ ก่อนหน้านี้ทำเป็นคุยโตโอ้อวด ตั้งแต่ประลองมาไม่เคยแพ้ใคร เฮ่ย...นึกแล้วต้องเป็นแบบนี้ เฮ่ย...”
“ก็แปลว่ารอบสุดท้าย กลายเป็นพีดัมเข้าชิงกับยูซินงั้นสิ ท่านเซจู เรื่องนี้เราจะทำไงดี” เซจอง กล่าว
“เอ๊ะ...เดี๋ยว...เดี๋ยวก่อนท่านแม่ สองคนนี้ เป็นคนขององค์หญิงต๊อกมานหมดนี่นา”
“ตายล่ะแล้วทำไม...” เซจอง กล่าว
“ข้าต้องไปดูเองซะแล้ว” มีซิล กล่าว
“หา...ไปดูเอง ถึงท่านไปเองก็ไม่ช่วยอะไรหรอกครับ” ฮาจอง กล่าว
เมื่อมาถึงที่ลานประลอง โพจองก็รีบขอโทษมีซิล แต่นางได้บอกว่าโพจองได้ทำเต็มที่แล้ว ทำได้แค่นี้ก็ถือว่าเก่งมาก ด้านองค์หญิงต๊อกมานรู้ว่าพีดัมมีแผนอะไรอยู่จึงเข้าไปหา
“ถ้าหาก...สิ่งที่เจ้ากำลังคิดอยู่ คือเรื่องที่ข้าเป็นห่วงละก็ ข้าจะไม่ให้อภัยเจ้าเลย”
“เรื่องที่องค์หญิงทรงเป็นห่วง คือผลการต่อสู้ของท่านยูซินใช่ไหม” พีดัม ทูล
“แพ้หรือชนะ ข้ายอมรับได้ แต่ทำอย่างงั้น ข้ารับไม่ได้เด็ดขาด ถ้าเจ้าคิดทำจริง ก็ขอให้เลิกคิดซะ โดยเฉพาะท่านยูซิน...ไม่มีวันร่วมมือกับเจ้าแน่” องค์หญิงต๊อกมานตรัส จากนั้นคิมยูซินและพีดัมได้ต่อสู้กัน
“หึ...ตั้งใจสู้หน่อย ได้ไหม”
“หึ...ข้าก็ตั้งใจอยู่แล้วนี่” พีดัม กล่าว
“หึ...ย้าก...ถ้าเจ้าทำเล่น ๆ ข้าจะฆ่าเจ้าซะ หึ...เข้าใจไว้ด้วย หึ...โอ๊ะ...” คิมยูซิน กล่าว
“มองให้มันไกลหน่อย หึ...ระหว่างท่านกับงานใหญ่ขององค์หญิง งานนี้แทบไม่มีความหมายเลย”
“ห้ามลบหลู่การประลองนะ ย้าก...ลุกขึ้นมาสู้ต่อ ฮึ่ม...”
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ.... เจ้าสองคน เห็นการ ประลองอันมีเกียรติเป็นของเล่น ยังคู่ควรเป็นองครักษ์อีกหรือ” ชิซู เดินเข้ามา
“มุนโนให้พีดัมลงแข่ง ไม่แน่อาจจะเพื่อกันโพจองไว้ เพื่อให้คิมยูซินเป็นผู้ชนะในที่สุด” ซอวอน กล่าว
“การประลองอันมีเกียรติของเรา จะให้ มุนโนมาย่ำยีได้หรือ” ชิซู กล่าว
“ข้าก็หวังว่าคงไม่ใช่ แต่ผลที่ออกมาดูไม่ค่อยปกตินัก” ซอวอน กล่าว
“ถ้าเป็นอย่างงั้นจริง ข้าจะไม่ยอมให้พวกเขาเล่นตลก”
“ถ้ามุนโนวางแผนจะเดินทางนี้จริง เราจะยิ่งควบคุมได้ง่ายมากกว่า” มีซิล กล่าว
“ข้าเข้าใจดี”
“ท่านวอนซังฮา...มีอะไรจะพูดงั้นหรือ เห็น การประลองเป็นของเล่นยังไงกัน” มีซิล กล่าว
“ข้าวอนซังฮาชิซู ชั่วชีวิตฝึกกระบี่มายาวนาน ถ้าหากเมื่อกี้ข้าดูผิดว่าพวกเขาไม่ได้สมรู้ร่วมคิด ข้ายินดีที่จะ...ควักลูกตาเป็นการชดเชยความผิด ทันที” ชิซู กล่าว
“ตกลงยังไงกันแน่” โกโต กล่าว
“จะควักตาแล้ว” จุปัง กล่าว
“ท่านมุนโน เชิญท่านพูดหน่อยซิ กล้าบอกมั้ยว่า นี่เป็นการต่อสู้ที่ยุติธรรมน่ะ...ถ้าหาก...แม้แต่ครูฝึกอย่างท่านยังคิดว่าพวกเขาสู้กันอย่างเป็นธรรม งั้นหน่วยองครักษ์ ก็ควรยุบได้แล้ว” ชิซู กล่าว
“หา...เอางั้นเลยหรือ...เป็นเรื่องแล้วมั้ยล่ะ...” ทุกคนตกใจ
“พี่จุปัง เกิดอะไรขึ้นน่ะช่วยอธิบายหน่อยซิ” แทพุง ถาม
“ข้าก็ไม่รู้ ดูไปก่อน” จุปัง กล่าว
“ตกลงใครเป็นฝ่ายชนะ” ชุนชู ถาม
“อย่าถามมากน่ะ” จุปัง กล่าว
“ผู้ชายคนนั้นโผล่มาทำไม” ชุนชู ถาม
“พูดไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวพ่อ...เจ้าเป็นใครน่ะ” จุปัง ถาม
“ข้าหรือ...คิมชุนชู...” ชุนชู กล่าว